เมื่อตอนอายุ 17 ผมเริ่มแสวงหาศาสนา ก็สนใจ พุทธ กับคริสต์นี่แหละครับ
พุทธ นี่ผมชอบมานานแล้ว และส่วนตัวก็ทำคะแนนวิชาพระพุทธศาสนาได้ดีมาก
แต่พอดีอยู่โรงเรียนคริสต์ ผมก็เลยเลือกเป็นคริสต์ นิกายนึง
แต่หลังจากอยู่มาเกือบ 20 ปีผมก็พบว่าสิ่งที่เค้าสอนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้มันไม่ได้เป็นจริง (ต้องบอกว่าเป็นที่นิกายนี้ด้วย)
ต่อจากนั้นผมเลยกลายเป็นคนไม่มีศาสนา
แต่เมื่อเวลาผ่านไปผมก็พบว่า ผมต้องการเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจอยู่ดี
เพราะถ้าไม่มีอะไรยึด ผมรู้สึกไม่มีความสุข ผมเคยเลยมาทางสายพุทธ และ พบว่าไม่ใช่แนวทางที่ผมชอบ
เพราะผมรู้สึกว่าโลกนี้ถูกสร้างมาให้ชื่นชมยินดีในชีวิต ที่ไม่ใช่เพียงแค่จิตใจ
เราชอบสิ่งสวยงาม ชื่นชมธรรมชาติ วิ่งเล่นสนุกสนาน เล่นเกม เล่นอะไรกัน
ใส่เสื้อผ้าสีสวยงาม เราชอบคนหน้าตาดีๆ เราถูกสร้างมาให้มีความสุขกับชีวิตแบบนั้นแน่นอนในความคิดผมนะครับ
อาหารก็มีหลายหลายรสชาติให้เราอร่อยเพลิดเพลินในการกิน สีสันสวยงาม กลิ่นหอม
ถ้าเรามองว่าพวกนี้เป็นกิเลส ผมว่ามันไม่ใช่เลย มันคือความสุขต่างหาก (อยู่ที่คนมอง)
แต่ความสุขก็ต้องมีลิมิต และทำให้ถูกต้อง
ผมพบว่าแนวทางที่บอกไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิล นี่แหละคือสิ่งที่เหมาะกับผมมากที่สุด
แต่ผมต้องไม่ยึดติดกับคำสอนมนุษย์ เพราะมนุษย์ชอบอ้างว่าพระเจ้าสอนแบบนั้นแบบนี้ ในที่สุดก็ใส่ความคิดของตัวเองลงไป
เป็นแบบนี้มาทุกยุคทุกสมัย คือผู้นำจะยัดเยียดความคิดของตัวเองลงไปว่าสิ่งนี้แหละคือสิ่งที่ควรทำ แล้วบอกว่าเป็นไปตามหลักพระคัมภีร์
ซึ่งจริงๆแล้วพระคัมภีร์ อยู่ที่การตีความ
กลับมาเรื่องศาสนาพุทธจริงๆผมก็ชอบมากเลย เพราะแน่นอนมันทำให้ใจสงบ มีสมาธิ เรียบๆง่ายๆ
แต่มันไม่น่าเหมาะกับ ความเป็นไปของโลก ในทุกวันนี้
และผมเคยฟังท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ กับ ท่านพุทธทาส สนทนาธรรมกันผมก็คิดเหมือนท่านคึกฤทธิ์ในหลายๆทางเลย
สรุปที่มาตั้งนี่ก็เผื่อผู้มีปัญญาจะมาสอนอะไรดีๆผมบ้าง
แต่ผมไม่ชอบที่เอาพวก พระสูตร พระธรรมอะไรมาแปะๆนะครับ
ผมอยากฟังอยากอ่านแบบที่ผมเขียนแบบนี้มากกว่า มันเข้าใจง่ายดี
ขอบคุณครับ
เมื่อผมพยายามเดินทางสายพุทธแต่พบว่าผมไปไม่ได้ พบคิดถูกหรือผิดครับ?
พุทธ นี่ผมชอบมานานแล้ว และส่วนตัวก็ทำคะแนนวิชาพระพุทธศาสนาได้ดีมาก
แต่พอดีอยู่โรงเรียนคริสต์ ผมก็เลยเลือกเป็นคริสต์ นิกายนึง
แต่หลังจากอยู่มาเกือบ 20 ปีผมก็พบว่าสิ่งที่เค้าสอนกับสิ่งที่เกิดขึ้นในโลกนี้มันไม่ได้เป็นจริง (ต้องบอกว่าเป็นที่นิกายนี้ด้วย)
ต่อจากนั้นผมเลยกลายเป็นคนไม่มีศาสนา
แต่เมื่อเวลาผ่านไปผมก็พบว่า ผมต้องการเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจอยู่ดี
เพราะถ้าไม่มีอะไรยึด ผมรู้สึกไม่มีความสุข ผมเคยเลยมาทางสายพุทธ และ พบว่าไม่ใช่แนวทางที่ผมชอบ
เพราะผมรู้สึกว่าโลกนี้ถูกสร้างมาให้ชื่นชมยินดีในชีวิต ที่ไม่ใช่เพียงแค่จิตใจ
เราชอบสิ่งสวยงาม ชื่นชมธรรมชาติ วิ่งเล่นสนุกสนาน เล่นเกม เล่นอะไรกัน
ใส่เสื้อผ้าสีสวยงาม เราชอบคนหน้าตาดีๆ เราถูกสร้างมาให้มีความสุขกับชีวิตแบบนั้นแน่นอนในความคิดผมนะครับ
อาหารก็มีหลายหลายรสชาติให้เราอร่อยเพลิดเพลินในการกิน สีสันสวยงาม กลิ่นหอม
ถ้าเรามองว่าพวกนี้เป็นกิเลส ผมว่ามันไม่ใช่เลย มันคือความสุขต่างหาก (อยู่ที่คนมอง)
แต่ความสุขก็ต้องมีลิมิต และทำให้ถูกต้อง
ผมพบว่าแนวทางที่บอกไว้ในพระคัมภีร์ไบเบิล นี่แหละคือสิ่งที่เหมาะกับผมมากที่สุด
แต่ผมต้องไม่ยึดติดกับคำสอนมนุษย์ เพราะมนุษย์ชอบอ้างว่าพระเจ้าสอนแบบนั้นแบบนี้ ในที่สุดก็ใส่ความคิดของตัวเองลงไป
เป็นแบบนี้มาทุกยุคทุกสมัย คือผู้นำจะยัดเยียดความคิดของตัวเองลงไปว่าสิ่งนี้แหละคือสิ่งที่ควรทำ แล้วบอกว่าเป็นไปตามหลักพระคัมภีร์
ซึ่งจริงๆแล้วพระคัมภีร์ อยู่ที่การตีความ
กลับมาเรื่องศาสนาพุทธจริงๆผมก็ชอบมากเลย เพราะแน่นอนมันทำให้ใจสงบ มีสมาธิ เรียบๆง่ายๆ
แต่มันไม่น่าเหมาะกับ ความเป็นไปของโลก ในทุกวันนี้
และผมเคยฟังท่านอาจารย์คึกฤทธิ์ กับ ท่านพุทธทาส สนทนาธรรมกันผมก็คิดเหมือนท่านคึกฤทธิ์ในหลายๆทางเลย
สรุปที่มาตั้งนี่ก็เผื่อผู้มีปัญญาจะมาสอนอะไรดีๆผมบ้าง
แต่ผมไม่ชอบที่เอาพวก พระสูตร พระธรรมอะไรมาแปะๆนะครับ
ผมอยากฟังอยากอ่านแบบที่ผมเขียนแบบนี้มากกว่า มันเข้าใจง่ายดี
ขอบคุณครับ