สวัสดีค่ะเข้าเรื่องเลยนะคะ
คือเราไปเจอเพื่อนคนนี้มาจากเดตติ้งแอพค่ะ ผู้ชายนะคะ เค้าเป็นชาวบังคลาเทศ แต่ตอนแรกโกหกบอกเป็นคนอินเดียที่รุ่นปู่ย่าอพยพไปอยู่ลิทัวเนีย ด้วยความที่เคยเจอประสบการณ์เกี่ยวกับชาติแขกเลยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งค่ะ และยังเชื่อคำที่ว่าเจองูกับแขกให้ตีแขกก่อน แต่ก็ไม่ได้ถามมาก
รูปโปรไฟล์เค้าถ่ายอยู่ที่คณะแพทย์ในมหาลัยเรา เราเลยถามว่าอยู่ใกล้ๆมอหรอ เค้าบอกใช่มาทำวิจัยกับคณะแพทย์ คุยกันได้สักพักเค้าอยากเจอเลยตัดสินใจมาเจอกัน ก็เลยมีโอกาศได้พูดคุยกันต่อหน้า เรื่องอายุในแอพเค้าเขียน 33 ปี พอได้เจอตัวจริงเราเลยถามอีกเพื่อความชัวร์ว่า ยูอายุ 33 จริงป่าว ? เค้าบอกไม่ สงสัยใส่อายุผิดในแอพ จริงๆเค้าอายุ 27 เราก็คิดในใจเอ้ะแต่ทำไมผมหงอกเยอะจัง แต่บุคลิกเค้าดูเด็กด้วยเลยไม่ได้อะไร เพราะส่วนตัวก็ไม่ซีเรียสอายุ
ต่อมาเค้าก็เล่าว่าเค้าเรียนจบแพทย์จากลิทัวเนีย แต่เรียนจบแล้วไม่ชอบเลยไม่ทำงานต่อ เป็นแพทย์กดดันอย่างโน้นอย่างงี้ เลยเปลี่ยนตอนนี้กำลังทำวิจัยกับที่มอที่ไทยแล้วก็นอร์เวย์เรื่องไข้เด็งกี เราก็เลยถามซอกแซกว่า แล้วที่ลิทัวเนียเรียนแพทย์กี่ปีหรอ เค้าบอก 5 ปี เราก็บอกโห ดีจังที่ไทยเรียนตั้ง 6 ปีแนะ นางก็บอกเรียน 4 ปี ฝึกงานปี1 วันนั้นพอเรากลับห้องเราก็มานั่งค้นว่ามันเรียน 5 ปีจริงมั้ยวะ ปรากฏว่าลิทัวเนียเรียนแพทย์ 6 ปี เจอโป๊ะแล้วหนึ่ง
หลังจากเจอกันวันนั้นเค้าก็พยายามอยากเจอเราอีก เราก็ไปเจอนะคะ ไปกินข้าว ไปเดินเล่น คือนางก็คุยสนุก คุยถูกคอค่ะ นิสัยดีเลยทีเดียว ทำให้เราอะลุ่มอะล่วยเรื่องที่จั๊บโป๊ะได้ แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ถามนะคะ เราเก็บไว้ไม่กล้าหักหน้าคนค่ะ ถึงจะรู้ว่าเค้าโกหกก็เถอะ 5555
เค้าอยากเจอเรามากชอบชวนไปกินข้าว แต่ช่วงนั้นเรายุ่งแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจที่ยังไงเค้าก็โกหกเรา เราเลยปฏิเสธไม่ไปเจอ นางก็เชิงจีบๆอ่ะค่ะพูดทีเล่นทีจริงว่าเป็นแฟนมั้ย เราก็ปฏิเสธตลอด เพราะมันเร็วไปแล้วเค้าก็ไม่ใช้ไทป์เรา และไม่อยากได้แฟนโกหก นางก็พยายามส่งข้อความมา โทรมา เราก็เมิน จนทีนี้นางคงรู้ตัวแหละค่ะว่าเราไม่อยากพัฒนาไปมากกว่านี้ นางเลยบอกว่าถ้าไม่อยากคุยก็บล็อกนางได้นะ เพราะนางห้ามใจให้ไม่ส่งข้อความหรือโทรหาเราไม่ได้ เราช่วยนางได้ด้วยการบล็อก เพราะถ้าเราบล็อกนาง ยังไงนางก็ติดต่อเราไม่ได้ ตอนนั้นเรารู้สึกหงุดหงิดแล้วประกอบกับยุ่งด้วยอะค่ะเลยบล็อกไปเลยตัดปัญหา เค้าก็หายไปเลย ไม่ได้พยายามจะติดต่อมาหรืออะไร
ตอนนี้ผ่านมาน่าจะ 2 สัปดาห์ได้แล้วมั้งคะ แล้วช่วงนี้เราเริ่มไปวิ่งออกกำลังกาย ไปคนเดียวก็รู้สึกเหงาอยู่หน่อยๆ เพื่อนสนิทก็ไม่ได้อยู่ที่มอ เราเลยนึกถึงนางค่ะ คืออย่างที่พูดไปตอนแรกว่านางคุยถูกคอ ก็นิสัยดี เข้ากันได้ อยู่ด้วยแล้วเราสนุก หัวเราะ แต่ติดตรงที่นางโกหก เราเลยมีความคิดว่าอยากจะชวนนางมาวิ่งเป็นเพื่อน เจอกันแค่วิ่งตอนเย็น แต่เราก็ติดในใจตรงทีว่าเค้าโกหก
แล้วเมื่อกี้เราเอาวิจัยที่เค้าทำไปเสิชปรากฏว่าเค้าทำจริง เราก็ค้นไปเรื่อยๆ จนไปเจอเว็บไวต์ของเค้าที่บอกโปรไฟล์ งาน การศึกษาทั้งหมดของเค้า เราก็ได้รู้ความจริงว่า เค้าจบป.ตรี สถิติ (statistics ) ป.โท ก็สถิติ ทั้งสองดีกรีจบจากมหาลัยในบังคลาเทศ ไม่ใช้ลิทัวเนีย และไม่ใช่คณะแพทย์ แล้วได้ทุนเรียนป.เอก จุลชีววิทยาทางการแพทย์ วิจัยเด็งกีน่าจะเป็นงานป.เอกนาง โดยมีมหาลัยที่นอร์เวย์เป็นผู้ให้ทุนแล้วก็มีมหาลัยเราเป็นพาร์ทเนอร์ เคยเป็น lecturer ด้วย คือเราว่าโปรไฟล์เค้าก็ไม่ได้ขี้เหล่เลยนะ ทำไมต้องโกหกว่าเรียนแพทย์ ทำไมต้องโกหกเชื้อชาติตัวเอง
สรุปเรื่องที่โกหกแล้วเราจับได้แบบมีหลักฐานคือ เรื่องการศึกษาค่ะ นางไม่ได้เรียนแพทย์ และไม่ได้เรียนที่ลิทัวเนีย ส่วนอายุก็น่าจะโกหกด้วย เพราะดูจากการศึกษาแล้วก็ประสบการณ์งานต่างๆ แล้วน่าจะ 33 ปีหรือมากกว่านั้น และเรื่องเชื้อชาติก็น่าจะเป็นบังคลาเทศ ไม่ใช่อินเดียหรือลิทัวเนีย
เราก็เลยอยากถามว่า เราควรไปชวนเค้ามาวิ่งมั้ย เราแค่อยากได้เพื่อนวิ่งแล้วก็ออกกำลังกายจริงๆ หรือว่าเราควรเลี่ยงได้เลี่ยงดี เพราะไม่รู้จะโกหกอะไรอีก สองจิตสองใจค่ะ เพื่อนๆพี่ๆในพันทิปคิดว่ายังไงดีคะ ช่วยออกความคิดเห็นหน่อยค่าาา ขอบคุณค่ะ
รู้ว่าเพื่อนต่างชาติโกหก จะยังเป็นเพื่อนต่อไปดีมั้ย?
คือเราไปเจอเพื่อนคนนี้มาจากเดตติ้งแอพค่ะ ผู้ชายนะคะ เค้าเป็นชาวบังคลาเทศ แต่ตอนแรกโกหกบอกเป็นคนอินเดียที่รุ่นปู่ย่าอพยพไปอยู่ลิทัวเนีย ด้วยความที่เคยเจอประสบการณ์เกี่ยวกับชาติแขกเลยเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งค่ะ และยังเชื่อคำที่ว่าเจองูกับแขกให้ตีแขกก่อน แต่ก็ไม่ได้ถามมาก
รูปโปรไฟล์เค้าถ่ายอยู่ที่คณะแพทย์ในมหาลัยเรา เราเลยถามว่าอยู่ใกล้ๆมอหรอ เค้าบอกใช่มาทำวิจัยกับคณะแพทย์ คุยกันได้สักพักเค้าอยากเจอเลยตัดสินใจมาเจอกัน ก็เลยมีโอกาศได้พูดคุยกันต่อหน้า เรื่องอายุในแอพเค้าเขียน 33 ปี พอได้เจอตัวจริงเราเลยถามอีกเพื่อความชัวร์ว่า ยูอายุ 33 จริงป่าว ? เค้าบอกไม่ สงสัยใส่อายุผิดในแอพ จริงๆเค้าอายุ 27 เราก็คิดในใจเอ้ะแต่ทำไมผมหงอกเยอะจัง แต่บุคลิกเค้าดูเด็กด้วยเลยไม่ได้อะไร เพราะส่วนตัวก็ไม่ซีเรียสอายุ
ต่อมาเค้าก็เล่าว่าเค้าเรียนจบแพทย์จากลิทัวเนีย แต่เรียนจบแล้วไม่ชอบเลยไม่ทำงานต่อ เป็นแพทย์กดดันอย่างโน้นอย่างงี้ เลยเปลี่ยนตอนนี้กำลังทำวิจัยกับที่มอที่ไทยแล้วก็นอร์เวย์เรื่องไข้เด็งกี เราก็เลยถามซอกแซกว่า แล้วที่ลิทัวเนียเรียนแพทย์กี่ปีหรอ เค้าบอก 5 ปี เราก็บอกโห ดีจังที่ไทยเรียนตั้ง 6 ปีแนะ นางก็บอกเรียน 4 ปี ฝึกงานปี1 วันนั้นพอเรากลับห้องเราก็มานั่งค้นว่ามันเรียน 5 ปีจริงมั้ยวะ ปรากฏว่าลิทัวเนียเรียนแพทย์ 6 ปี เจอโป๊ะแล้วหนึ่ง
หลังจากเจอกันวันนั้นเค้าก็พยายามอยากเจอเราอีก เราก็ไปเจอนะคะ ไปกินข้าว ไปเดินเล่น คือนางก็คุยสนุก คุยถูกคอค่ะ นิสัยดีเลยทีเดียว ทำให้เราอะลุ่มอะล่วยเรื่องที่จั๊บโป๊ะได้ แต่ตอนนั้นก็ไม่ได้ถามนะคะ เราเก็บไว้ไม่กล้าหักหน้าคนค่ะ ถึงจะรู้ว่าเค้าโกหกก็เถอะ 5555
เค้าอยากเจอเรามากชอบชวนไปกินข้าว แต่ช่วงนั้นเรายุ่งแล้วก็รู้สึกไม่สบายใจที่ยังไงเค้าก็โกหกเรา เราเลยปฏิเสธไม่ไปเจอ นางก็เชิงจีบๆอ่ะค่ะพูดทีเล่นทีจริงว่าเป็นแฟนมั้ย เราก็ปฏิเสธตลอด เพราะมันเร็วไปแล้วเค้าก็ไม่ใช้ไทป์เรา และไม่อยากได้แฟนโกหก นางก็พยายามส่งข้อความมา โทรมา เราก็เมิน จนทีนี้นางคงรู้ตัวแหละค่ะว่าเราไม่อยากพัฒนาไปมากกว่านี้ นางเลยบอกว่าถ้าไม่อยากคุยก็บล็อกนางได้นะ เพราะนางห้ามใจให้ไม่ส่งข้อความหรือโทรหาเราไม่ได้ เราช่วยนางได้ด้วยการบล็อก เพราะถ้าเราบล็อกนาง ยังไงนางก็ติดต่อเราไม่ได้ ตอนนั้นเรารู้สึกหงุดหงิดแล้วประกอบกับยุ่งด้วยอะค่ะเลยบล็อกไปเลยตัดปัญหา เค้าก็หายไปเลย ไม่ได้พยายามจะติดต่อมาหรืออะไร
ตอนนี้ผ่านมาน่าจะ 2 สัปดาห์ได้แล้วมั้งคะ แล้วช่วงนี้เราเริ่มไปวิ่งออกกำลังกาย ไปคนเดียวก็รู้สึกเหงาอยู่หน่อยๆ เพื่อนสนิทก็ไม่ได้อยู่ที่มอ เราเลยนึกถึงนางค่ะ คืออย่างที่พูดไปตอนแรกว่านางคุยถูกคอ ก็นิสัยดี เข้ากันได้ อยู่ด้วยแล้วเราสนุก หัวเราะ แต่ติดตรงที่นางโกหก เราเลยมีความคิดว่าอยากจะชวนนางมาวิ่งเป็นเพื่อน เจอกันแค่วิ่งตอนเย็น แต่เราก็ติดในใจตรงทีว่าเค้าโกหก แล้วเมื่อกี้เราเอาวิจัยที่เค้าทำไปเสิชปรากฏว่าเค้าทำจริง เราก็ค้นไปเรื่อยๆ จนไปเจอเว็บไวต์ของเค้าที่บอกโปรไฟล์ งาน การศึกษาทั้งหมดของเค้า เราก็ได้รู้ความจริงว่า เค้าจบป.ตรี สถิติ (statistics ) ป.โท ก็สถิติ ทั้งสองดีกรีจบจากมหาลัยในบังคลาเทศ ไม่ใช้ลิทัวเนีย และไม่ใช่คณะแพทย์ แล้วได้ทุนเรียนป.เอก จุลชีววิทยาทางการแพทย์ วิจัยเด็งกีน่าจะเป็นงานป.เอกนาง โดยมีมหาลัยที่นอร์เวย์เป็นผู้ให้ทุนแล้วก็มีมหาลัยเราเป็นพาร์ทเนอร์ เคยเป็น lecturer ด้วย คือเราว่าโปรไฟล์เค้าก็ไม่ได้ขี้เหล่เลยนะ ทำไมต้องโกหกว่าเรียนแพทย์ ทำไมต้องโกหกเชื้อชาติตัวเอง
สรุปเรื่องที่โกหกแล้วเราจับได้แบบมีหลักฐานคือ เรื่องการศึกษาค่ะ นางไม่ได้เรียนแพทย์ และไม่ได้เรียนที่ลิทัวเนีย ส่วนอายุก็น่าจะโกหกด้วย เพราะดูจากการศึกษาแล้วก็ประสบการณ์งานต่างๆ แล้วน่าจะ 33 ปีหรือมากกว่านั้น และเรื่องเชื้อชาติก็น่าจะเป็นบังคลาเทศ ไม่ใช่อินเดียหรือลิทัวเนีย
เราก็เลยอยากถามว่า เราควรไปชวนเค้ามาวิ่งมั้ย เราแค่อยากได้เพื่อนวิ่งแล้วก็ออกกำลังกายจริงๆ หรือว่าเราควรเลี่ยงได้เลี่ยงดี เพราะไม่รู้จะโกหกอะไรอีก สองจิตสองใจค่ะ เพื่อนๆพี่ๆในพันทิปคิดว่ายังไงดีคะ ช่วยออกความคิดเห็นหน่อยค่าาา ขอบคุณค่ะ