วิธีกำจัดกลิ่นอับบนเสื้อผ้าตัวโปรดแบบไม่ต้องเสียเวลาซักผ้าซ้ำ



เมื่อซักผ้าแล้วมีกลิ่นไม่พึงประสงค์ เชื่อว่าหลาย ๆ คน มักจะซักผ้าซ้ำ ซึ่งบางครั้งก็อาจจะทำให้ลดกลิ่นเสื้อเหม็นอับได้ แต่บางครั้งก็ยังคงมีกลิ่นเหม็นอับเช่นเดิม แถมยังเสียเวลาด้วย วันนี้ HomeGuru จึงมาเปิดทริคง่าย ๆ ของการรับมือกับปัญหานี้ พร้อมแนะนำวิธีการซักผ้าไม่ให้เหม็นอับที่ทำได้ง่ายและไม่ยุ่งยากเลยครับ



1. ทำความสะอาดเครื่องซักผ้าอย่างสม่ำเสมอ
หนึ่งในปัญหาของผ้าเหม็นอับ บางครั้งก็เกิดจากเครื่องซักผ้าที่สะสมคราบสกปรกเอาไว้ จนนำมาสู่กลิ่นอันไม่พึงประสงค์ เพราะฉะนั้น การแก้ไขปัญหาที่ดีที่สุดคือ การทำความสะอาดเครื่องซักผ้าเป็นประจำและสม่ำเสมอ

สำหรับวิธีทำความสะอาดเครื่องซักผ้า ก็คือ
● เปิดเครื่อง และทำการเซ็ตระดับน้ำให้เหมือนกับการซักผ้าปกติ
● เทน้ำร้อนตามลงไป และใส่น้ำส้มสายชู 4 ถ้วยตวง ลงไปในช่องใส่ผงซักฟอก
● กดปุ่มทำงานตามปกติ ประมาณ 5 – 10 นาที เพื่อกำจัดแบคทีเรียและคราบต่าง ๆ

นอกจากน้ำส้มสายชูแล้ว บางบ้านอาจจะเลือกใช้เบกกิ้งโซดา ผงทำความสะอาดเครื่องซักผ้า แอมโมเนีย หรือน้ำยาฆ่าเชื้อก็ได้เช่นกัน แต่หากต้องการให้เครื่องซักผ้าสะอาดหมดจด แนะนำว่าให้ทำความสะอาดประมาณ 2 – 3 รอบ จนกว่าน้ำที่ออกมาจะใสและสะอาด



2. เติมน้ำส้มสายชูก่อนซักผ้า
วิธี ซักผ้าไม่ให้เหม็นอับ แบบง่าย ๆ ที่ใช้ได้จริงและเห็นผลเร็วก็คือ การใช้น้ำส้มสายชูก่อนซักผ้า โดยเฉพาะในกรณีที่ซักผ้าใหม่อีกครั้ง โดยให้เทน้ำส้มสายชูตามลงไปประมาณ 1 ถ้วย หลังจากนั้นให้ตั้งโปรแกรมซักผ้าตามปกติได้เลย ในกรณีที่เป็นผ้าขาว สามารถใช้น้ำส้มสายชูร่วมกับน้ำยาฟอกผ้าขาวได้เลย แต่หากเป็นผ้าที่มีความหนามาก ๆ อย่างเช่น ผ้ายีนส์ แนะนำว่าให้เอาผ้าไปแช่ในน้ำที่ผสมน้ำส้มสายชูก่อนซัก ประมาณ 2 ชั่วโมง เพื่อช่วยลดกลิ่นเหม็นอับของเสื้อผ้าให้ดีมากยิ่งขึ้น

3. ใช้เครื่องอบผ้าในยามที่ฝนตก
อีกหนึ่งสาเหตุหลัก ๆ ของปัญหา เสื้อเหม็นอับ ก็คือ การตากผ้าและซักผ้าในช่วงฤดูฝน ยิ่งถ้าช่วงไหนฝนตกติดต่อกันหลาย ๆ วัน ก็ยิ่งเจอปัญหาผ้าเหม็นอับมากขึ้นตามไปด้วย ครั้นจะรอวันที่มีแดดดีหรืออากาศปลอดโปร่ง ก็อาจจะทำให้ผ้าล้นตะกร้าได้ เพราะฉะนั้น ในช่วงฤดูฝนหรือช่วงที่ต้องตากผ้าที่มีความหนา ครั้งละหลาย ๆ ตัว ลองใช้เครื่องอบผ้าแทนการตากแดด เพราะนอกจากจะทำให้ประหยัดเวลาในการตากผ้าแล้ว ยังช่วยลดปัญหากลิ่นเหม็นอับได้ดีเช่นกัน

4. ลองเปลี่ยนน้ำยาซักผ้า
ถ้าไม่อยากเผชิญกับปัญหากลิ่นอับของเสื้อผ้า แนะนำว่า ให้เปลี่ยนน้ำยาซักผ้าหรือผงซักฟอกใหม่ แล้วหันมาใช้สูตรที่ช่วยลดกลิ่นอับจะดีกว่า เพราะเป็นสูตรที่เหมาะกับการตากผ้าในร่ม รวมถึงในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทไม่สะดวก

อีกหนึ่งวิธี คือ ให้แยกเสื้อผ้าออกจากกัน หากเสื้อผ้าตัวไหนมีความหนาเป็นพิเศษ มีกลิ่นอับมากกว่าตัวอื่น ๆ ควรแยกออกมาซักในวันที่มีแดดและอากาศปลอดโปร่ง ไม่ควรซักรวมกัน เพราะอาจส่งผลให้เสื้อผ้าตัวอื่น ๆ สะสมกลิ่นตามไปด้วย

5. ตากเสื้อผ้าในที่ที่มีอากาศถ่ายเทสะดวก
วิธี ซักผ้าไม่ให้เหม็นอับ ที่ดีที่สุด ก็คือ การตากผ้าในวันที่มีอากาศถ่ายเทสะดวกและโดนแดด เพราะสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้ผ้ามีกลิ่นอับชื้น มักมาจากการตากผ้าในที่ที่ไม่มีอากาศถ่ายเท และมีแบคทีเรียสะสมง่าย ส่วนในกรณีที่ไม่สามารถตากผ้าให้โดนแดดได้ เช่น พักอาศัยอยู่คอนโดมิเนียม หรือห้องเช่า ควรตากผ้าในจุดที่มีลมผ่าน เช่น ริมระเบียง และควรแขวนผ้าให้มีระยะห่าง ไม่ควรตากผ้าให้อยู่ชิดติดกันเกินไป หากมีผ้าปริมาณมาก ให้แยกซัก 2 ครั้ง

6. เลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเฉพาะ
การซักผ้าให้หอมและกลิ่นติดทนยาวนาน ให้เลือกน้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับตากในที่ร่ม มาใช้ควบคู่กับผงซักฟอกหรือน้ำยาซักผ้าสูตรป้องกันกลิ่นอับ เพราะจะช่วยลดกลิ่นหมักหมมและอับชื้นได้ ที่สำคัญคือ ทำให้ผ้านุ่มลื่น ใส่สบาย ต่อให้ตากในวันที่ฝนตกหนักก็จะไม่เจอปัญหาเสื้อเหม็นอับแน่นอน



7. ใช้น้ำมันหอมระเหยเพิ่มความหอมสดชื่นให้กับผ้า
ในกรณีที่ผ้าเหม็นอับจากการเก็บไว้ในตู้นาน ๆ หรือซักแล้วยังมีกลิ่นอับ วิธีแก้ผ้าเหม็นอับที่ดีคือให้เอาน้ำมันหอมระเหยมาฉีดใส่เสื้อผ้า เพื่อให้ผ้ามีกลิ่นหอม แต่ก่อนที่จะใช้น้ำมันหอมระเหย ให้ตรวจเช็กก่อนว่าเป็นสูตรที่ต้องผสมน้ำก่อนนำไปใช้หรือไม่ เพราะบางชนิดก็จะมีความเจือจาง สามารถฉีดใส่เสื้อผ้าได้เลยโดยไม่ต้องผสมน้ำ

8. ใช้ถ่านดูดกลิ่นเหม็นอับ
ถ่านหุงข้าว หรือ ถ่านอัดแท่ง เป็นตัวช่วยชั้นดีในการดูดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ภายในบ้าน แต่ก่อนที่จะนำไปใช้ ให้เอาถ่านใส่ถุงน่องหรือผ้าขาวบางก่อนนำไปแขวนหรือวางไว้ เพราะไม่เช่นนั้นอาจจะทำให้เสื้อผ้าเปื้อนรอยดำจากถ่านได้

9. แช่ผ้าในตู้เย็น
เทคนิคง่าย ๆ ของการซักผ้าให้หอม ก็คือ การนำเสื้อผ้าที่มีกลิ่นเหม็นอับไปแช่ในตู้เย็นหรือช่องฟรีซ เพื่อให้ความเย็นฆ่าเชื้อแบคทีเรีย โดยอาจจะแช่ไว้ประมาณ 1 คืน หรืออย่างต่ำ 2 ชม. ก่อนนำมาซัก เพียงเท่านี้เสื้อผ้าของคุณก็จะไม่มีกลิ่นเหม็นอับแล้ว แต่ก่อนที่จะนำไปแช่ในตู้เย็น ควรเอาเสื้อผ้าที่จะซักใส่ในถุงพลาสติก หรือถุงซักผ้าแบบซิปล็อกก่อนทุกครั้ง เพื่อไม่ให้ความสกปรกจากเสื้อผ้าสัมผัสกับช่องฟรีซ ซึ่งวิธีนี้นอกจากจะทำให้กำจัดแบคทีเรียได้อยู่หมัดแล้ว หากใช้กับกางเกงหรือเสื้อยีนส์ตัวโปรด ก็จะช่วยถนอมสีไม่ให้ซีดด้วยเช่นกัน




HomeGuru by HomePro
อุ่นใจทุกเรื่องบ้านไปกับโฮมโปร และติดตามเคล็ดลับดีๆ เพื่อบ้านได้ทาง http://bit.ly/HomeGuru_Homepro
และแลกเปลี่ยนความคิดเห็นปัญหาเรื่องบ้านกับ HomeGuru เพิ่มเติมได้ทาง https://bit.ly/3dQm4XE
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่