ระหว่างพ่อกับแฟนควรเลือกใครดี?

ตอนนี้เราอายุ 19 จะ 20 แล้ว เราเข้าใจว่าเรายังเด็กในสายตาพ่อและแม่ แต่เราก็อยากจะมีความรัก เราคบกับแฟนมา 5 ปี 5 ปีที่ผ่านมาเราคบแบบหลบๆซ่อนๆกันตลอดเวลา ฝ่ายชายตอนนี้ อายุ 26 ซึ่งอายุห่างกันกับเรามาก

เหตุเกิดขึ้นเมื่อคืน พ่อเราเรียกเราเข้าไปคุยเพราะ รู้ว่าเรามีความรัก และ มีผู้ชาย พ่อเราบอกว่า รักลูกเป็นห่วงลูก ไม่อยากให้ลูกมีแฟน แล้วถามถึงลักษณะ ฐานะ การทำงานของแฟนทั้งหมด และบอกว่าแฟนเราไม่ได้รักเราจริงหรอก

ด้วยฐานะและหน้าที่การงานของเเฟนดีมากกกก พ่อเราจึงบอกว่าเราเห็นแก่เงิน เป็นผู้หญิงต้องคอยให้ผู้ชายมาเลี้ยงตลอด ซึ่งไม่ใช่เลย เราคบกับเเฟนเราไม่เคยเอาเปรียบเขา เขาซื้อของให้เราเราก็ซื้อให้คืน และไม่เคยขอเงินเขาสักครั้ง พ่อเราว่าเราเป็นผู้หญิงใจแตก ใจง่าย เหมือนผู้หญิงที่เอาตัวเองเข้าแรก เราเสียใจมาก และมันหลายครั้งมากที่พ่อพูดแบบนี้

การที่เรามีความรักเราผิดมากหรอคะ เพราะ พ่อบอกว่าเราไม่เห็นหัวพ่อเลยที่แอบไปไหนมาไหน โดยที่ไม่ให้ผู้ใหญ่รู้ เอาจริงๆเราก็รู้สึกอึดอัดนะที่พ่อมาบงการชีวิตเรา

แฟนเราบอกหลายครั้งแล้วว่าอยากมาหาพ่อและแม่ของเรา แต่เรารู้ว่าถ้าพามาจะเป็นยังไง เราเคยพามาอยู่ครั้งนึง พ่อเราไม่ยอมเจอแฟนเลย

แล้วพ่อเราให้เราเลือกอีกว่า เราจะเลือกแฟน แล้วจะปล่อยเราไป คือ ไม่ยุ่งกับเราอีกเลย ให้ไปใช้ชีวิตของตัวเอง หรือ จะเลือกพ่อ แล้วให้พ่อเข้มงวดแบบเดิม
ในใจเราอยากเลือกจะเป็นอิสระ แต่เราก็กลัวว่าถ้าไม่เลือกพ่อ เราจะเป็นลูกเนรคุณ

ถ้าเป็นทุกคน ทุกคนจะเลือกอะไรคะถ้าทุกคนอยู่ในอายุแค่นี้ และสถานการณ์แบบนี้
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
พ่อไม่ปล่อยแบบนั้นหรอกคับ เอาเข้าจิง ไม่ตัดลูกง่ายๆคับ

การที่เรามีแฟน ไม่ได้หมายความว่า เราต้องเลือกใคร หรือเนรคุณพ่อนะ  เราก็เลือกทั้งพ่อและแฟนได้เลย
อย่าต่อต้านพ่อ ให้เข้าใจ มันเป็นธรรมชาติที่เขาต้องหวงลูกคับ และก็เข้าใจธรรมชาติตัวเองที่อยากมีแฟนด้วยคับ
ทุกอย่างเป็นเรื่องปกติหมด ไม่มีใครผิด-ถูก เข้าใจแบบนี้จะได้ไม่คิดว่าต้องเลือกข้างคับ ทุกๆข้างมีมุมมองที่มีเหตุผลทั้งสิ้น

คำแนะนำส่วนตัว
อย่าไปพยายามโน้มน้าวให้พ่อเห็นความดีของแฟนต่างๆนาๆ พ่อไม่สนว่าแฟนฐานะดีแค่ไหน อย่าไปพยายามชวนมาเจอกันด้วย ผู้ใหญ่ที่ผ่านโลกมาก่อนเขารู้ดี ผมเองก็รู้ดี มันเสียหมาคับ ไปเจอแฟนหนุ่มของลูก ไปรับรู้ว่าลูกเสียตัวให้คนๆนี้ (ถึงยังไม่เสียก็เหอะ) ทั้งๆที่มีโอกาสโดนฝั่งชายทิ้งได้ตลอดเวลา มันไม่มีประโยชน์ หากจะต้องโน้มน้าวพ่อจริง ก็ให้โน้มน้าวในลักษณะเชื่อใจหนู เชื่อใจว่าหนูดูแลตัวเองได้ ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร หรือหนูจะโดนทิ้ง หนูรับได้หมด หนูโตแล้ว หนูยอมรับ หนูรักพ่อ หนูแค่อยากมีความรักตามปกติ หนูไม่ได้รู้สึกผิดที่มีความรัก หนูพร้อมและจำเป็นต้องผ่านโลกด้วยตัวเอง ถ้าวันนี้ยังมีแฟนไม่ได้แล้วต้องอายุเท่าไหร่ถึงมีได้ ขอให้พ่อเคารพการตัดสินใจลูกสาวคนนี้ ฯลฯ อารมณ์ประมาณนี้ เรากล้าที่จะมีแฟน เราต้องกล้ารับผลที่อาจจะตามมาของการมีแฟน ได้แก่ อกหัก, ท้อง, ได้แต่งงาน, มีความสุข, มีทุกข์, ดีต่อใจ ผลมันมีทั้งดีและเลวคับพ่อรู้ดีแน่นอน พ่อแค่ไม่อยากให้ลูกเผชิญสิ่งเลวๆ กลัวลูกโลกสวย กลัวลูกเป็นเหยื่อสังคม เราเองถึงต้องพร้อมลุยเช่นกัน รับฟังพ่อและหาจุดที่เข้าใจกันทั้งคู่ การย้ำว่าหนูแลตัวเองได้จะโชว์ถึงวุฒิภาวระเราเอง พ่อจะต้องคิดแล้วคิดอีกแน่นอนครับ  แต่หากไปอวยผู้ชาย ไม่มีพ่อคนไหนเปิดใจรับครับ เขาไม่อยากตามใจผู้ชาย เขาอยากตามใจลูก เขาไม่เชื่อใจผู้ชาย แต่เขาเชื่อใจลูก ประเด็นไม่เกี่ยวว่าแฟนจะดีเลิศแค่ไหน รวยแค่ไหน พ่อไม่มีทางขายลูกสาวเพื่อเงินคับ หากพ่อถามอะไรเกี่ยวกับ ผช เราก็ตอบไปตามจริงไม่ต้องเสริมต่อยอดปกป้อง ผช หรือพูดให้ดูดี ทำแบบนั้นพ่อมีแต่จะอคติ ให้เน้นที่ตัวเราเองครับ เป็นตัวของตัวเอง เปิดใจ จริงใจกับพ่อ สงสัยผู้ชายก็ถามและปรึกษาพ่อ พ่อจะเริ่มอินถึงความเป็นตัวเรา และพ่อจะเริ่มเข้าใจ (หากพ่อไม่ได้หัวโบราณเกินอะนะ) ผู้ชายผ่านมาก็ผ่านไปได้เสมอ จะกี่คนก็ตาม แต่ตัวเรายังเป็นเรา และเป็นลูกของพ่อตลอดไป เราต้องเน้นที่ตัวเราทั้งในการคุยและปฎิบัติครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่