โควิดวันนี้ หนักต่อเนื่อง! ป่วยใหม่พุ่ง 18,901ราย ติดเชื้อดับเพิ่ม 147ศพ
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6543380
โควิดวันนี้ ศบค. รายงานสถานการณ์เบื้องต้น ป่วยใหม่พุ่ง 18,901 ราย สุดเศร้า เสีบชีวิตเพิ่ม 147 ราย เผย รักษาหาย 18,590 ราย เตรียมแถลงอีกครั้ง
วันที่ 3 ส.ค.2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ระบุว่า เบื้องต้นมีผู้ป่วยใหม่ 18,901 รายจำแนกเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 18,158 ราย ผู้ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 743 ราย
หายป่วยกลับบ้าน 18,590 ราย หายป่วยสะสม 410,405 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมระลอกเดือนเม.ย.2564 จำนวน 623,322 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 147 ราย กำลังรักษา 209,039 ราย ทั้งนี้ ศบค.จะแถลงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งเวลาประมาณ 12.30 น.
โควิดวันนี้ ศบค. รายงานสถานการณ์เบื้องต้น ป่วยใหม่พุ่ง 18,901 ราย สุดเศร้า เสีบชีวิตเพิ่ม 147 ราย
ลาวยังไม่ปล่อย 7 คนไทยเก็บเห็ดข้ามแดน รอกักตัว 14 วัน ยันฉีดวัคซีนโควิดให้ก่อนส่งกลับ
https://www.sanook.com/news/8420278/
ลาวยังไม่ปล่อย 7 คนไทย เข้าป่าเก็บเห็ดข้ามแดน รอส่งตัวกลับหลังกักตัวครบ 14 วัน ตามมาตรการโควิด
(2 ส.ค.64) เมื่อเวลา 12.00 น. นาย
อภัย วุฒิโสภากร นายอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการเร่งหาทางช่วยเหลือ 7 คนไทย ที่ออกไปหาเก็บเห็ดบริเวณป่าชายแดนไทย-สปป.ลาว และถูกเจ้าหน้าที่ทหารของ สปป.ลาว จับตัวไป
โดยล่าสุดคนไทยทั้ง 7 คนถูกควบคุมตัวในสถานกักกันตัวโควิด-19 ที่เมืองปะทุมพอน แขวงจำปาสัก ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ของ สปป.ลาว ซึ่งทั้ง 7 คนปลอดภัยดี ซึ่งแนวทางการช่วยเหลือทางอำเภอจะต้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ทำหนังสือไปยัง เจ้าเมืองแขวงจำปาสัก เพื่อขอให้ส่งตัวกลับคืนให้ไทย แต่จะต้องมีการควบคุมตัวคนไทยเอาไว้ก่อน 14 วัน ตามมาตรการของลาว ก่อนจะส่งกลับมาที่ไทยได้
นาย
อภัย วุฒิโสภากร นายอำเภอสิรินธร กล่าวว่า คนไทยทั้ง 7 คนเป็นหญิง 5 ราย ชาย 2 ราย ซึ่งออกไปเก็บเห็ดตามฤดูกาล และเดินรุกล้ำเข้าไปในเขตชายแดน สปป.ลาว ไกลกว่า 100 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่มีทหารลาว ประจำการอยู่แล้ว จึงถูกควบคุมตัว
นาย
อภัย วุฒิโสภากร นายอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ได้ประสานการช่วยเหลือ กลุ่มคนไทย 7 คน ที่ถูกทหารใน สปป.ลาว จับได้ที่บ้านทุ่งกว้าง เมืองโพนทอง แขวงจำปาสัก ประเทศลาวนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นคนไทยที่มาจากนอกพื้นที่ เข้ามาหาเก็บเห็ดป่า และไม่ทราบแนวเขตประเทศที่แน่ชัด จึงเดินหลงเข้าไปในเขตประเทศเพื่อนบ้าน และถูกจับกุมตัวไปดำเนินคดี
เรื่องเด่นเย็นนี้ รายงานเพิ่มเติมว่า ชาวไทยทั้ง 7 คนนี้ จะได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อโควิด-19 ก่อนถูกนำตัวส่งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของ สปป.ลาว ประจำด่านสากลวังเตา เมืองโพนทอง ซึ่งอยู่ตรง ด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ของประเทศไทย เพื่อผลักดันคนทั้งหมดกลับประเทศไทยตามข้อตกลงระหว่างสองประเทศต่อ ซึ่งวัคซีนที่ได้รับจะเป็น ไฟเซอร์ หรือ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ซึ่งเป็นวัคซีนที่ใช้ในลาว
พ่อพาลูกไปฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ คนแออัด-รอ5ช.ม. สุดท้ายติดโควิด-แพร่เชื้อยกบ้าน
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6542479
คุณพ่อพาลูกไปฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ คนแออัดไม่เป็นระเบียบ-รอ 5 ช.ม. สุดท้ายติดโควิด-แพร่เชื้อยกบ้าน พร้อมเปิดไทม์ไลน์ละเอียดยิบ
จากสถานการณ์โควิดที่ยังแพร่ระบาดอย่างหนัก โดยยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องทุกวัน อีกทางเลือกและทางรอดคือ การฉีดวัคซีนโควิด โดยหลายคนเลือกที่จะไปรับวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ กทม. ซึ่งเป็นจุดหลักและจุดใหญ่ในการฉีด
แต่ด้วยการบริหารจัดการที่ยังมีปัญหา ทำให้มีสภาพแออัด ประชาชนต่างต้องไปเบียดเสียดเข้าคิวรอฉีดวัคซีน จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเป็นจุดที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อขึ้นมาได้
ล่าสุดมีคุณพ่อท่านหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊ก เผยแพร่ข้อความและรายละเอียดหลังจากไปฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ สุดท้ายต้องเจอเรื่องไม่คาดคิด เพราะแทนที่จะฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันโควิด แต่เมื่อต้องไปเจอกับสภาพแออัดในการรอคิว สุดท้ายกลับไปรับเชื้อและติดโควิดมา
โดยระบุว่า สรุปไทม์ไลน์การเป็นผู้โชคดี วันศุกร์ 23 ก.ค.64 เวลา 11.00 น. ได้พาลูกชายไปฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ ที่สถานีกลางบางซื่อ โดยพบผู้คนเยอะมาก แต่เห็นพื้นที่กว้างใหญ่ น่าจะกระจายตัวได้ดี จากนั้น 11.30 น. ได้ส่งภรรยาและลูกชายลงจากรถ พอขึ้นมาจากลานจอดใต้ดิน เริ่มต้องฝ่ากลุ่มคนร่วมหลายพันคน ทั้งกลุ่มวอล์กอิน ผู้สูงอายุและอื่นๆ เบียดแทรกไปตลอดทาง
ในฐานะที่เป็นผู้ป่วยภูมิแพ้จะเซนซิทีฟอย่างยิ่งต่อสารแปลกปลอมในอากาศ ขนาดสวมแมสก์ 2 ชั้นยังจามต่อเนื่องสนั่นหวั่นไหว และเริ่มรู้สึกว่าไม่เข้าท่า
ต่อมาเวลา 11.45 น. หน้าประตู 1 เจ้าหน้าที่เริ่มเรียกพวกที่ได้บัตรคิว 400 คนที่มาตอนเช้าเข้าฉีดแอสตร้าฯ เวลา 12.30 น. เรียกพวกที่มาตามเวลาเข้าแถว คนมหาศาลเบียดเสียด อกชนอก แน่นขนัด เวลา 12.45 น. เจ้าหน้าที่เริ่มเรียกแถวเข้านั่งรอเดินเข้าเป็นชุดๆ โดยส่วนใหญ่เรียกแถวปีกขวากับกลาง ในขณะที่ปีกซ้ายแถวยาวเหยียดต่อเลนป้ายรถเมล์แทบไม่ถูกเรียกเลย
จากนั้น 13.30 น. แถวปีกซ้ายถูกเรียกไป 2 ครั้ง ครั้งละ 3 ตับ เวลา 14.30 น. เริ่มมีคนโวยแล้ว เพราะยืนขาแข็งมานาน แต่แถวแทบไม่ลดลง กำลังคิดว่าจะเอาลูกกลับบ้านดีไหม เพราะดูเสี่ยงมาก แต่คิดอีกที ถ้าติดก็คงติดเชื้อแล้ว ยังไงก็ให้ฉีดไปก่อนดีกว่า เวลา 15.00 น. แถวของลูกชายถูกเรียก แต่คราวนี้ให้ตั้งแถวเดินไปรับวัคซีนที่ประตู 4 (ก็ทำไมไม่คิดทำเสียแต่ทีแรก ให้คนมายืนเบียดกันเป็นปลาซาดีนในซอสมะเขือพวงอยู่ได้)
เวลา 16.00 น. ลูกชายได้ฉีดแอสตร้าฯ เสร็จ กลับบ้าน ค่ำนั้นมีไข้ทั้งคืน น่าจะเป็นอาการจากการฉีดวัคซีนแอสตร้า จากนั้นวันที่ 24-25 ก.ค.ก็ปกติ แต่มาถึงวันจันทร์ที่ 26 ก.ค. ภรรยาเริ่มมีอาการเป็นหวัด มีไข้อ่อนๆ คิดว่าอาจโดนละอองฝน เพราะฝนลงหนัก
วันที่ 27 ก.ค. ลูกชายคนโตอีกคนไปทำงาน ขากลับซื้อ Rapid test มาตรวจก่อน เพราะวันพรุ่งนี้ ต้องไปฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม สงสัยจะตรวจผิดวิธี ผลเป็นลบ แต่ข้าพเจ้ายังไม่ตรวจจะรอใกล้ๆวันไปฉีดแอสตร้าฯ
วันที่ 28 ก.ค.64 ลูกชายคนโตไปฉีดวัคซีนที่รพ.พญาไท ใช้เวลาเบ็ดเสร็จไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็กลับบ้าน คืนนั้น ไข้สูง 37.9 ตลอดคืน ต้องคอยเช็ดตัว นึกว่าเป็นอาการหลังฉีด ส่วนข้าพเจ้ามีน้ำมูกประปรายกับไอมีเสมหะ เดินออกกำลังจาก 3 ก.ม. เศษเหลือแค่ 2.5 ก.ม.ก็เริ่มเหนื่อย
วันที่ 29 กค.64 ลูกชายคนเล็กเริ่มทรงตัว ไข้เริ่มอ่อน น่าจะเพราะตอนฉีดแอสตร้าฯ เพิ่งได้รับเชื้อยังไม่ฟักตัว ส่วนลูกชายอีกคนไข้สูงตอนกลางคืน แต่กลางวันปกติ
วันที่ 30 ก.ค.64 ข้าพเจ้าตรวจผล Rapid Test เพราะไม่ค่อยแน่ใจ ผลเป็นไปตามคาด บวกสิครับท่าน ทีนี้เลยให้ทุกคนตรวจ Rapid Test ใหม่หมด ผลคือ แดงเถือกไปทั้งบ้าน วันนี้ลูกชายคนโตเริ่มไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รู้รส ไข้ยังสูง 38 กว่า เริ่มประสานงานเตรียมการไปตรวจกับหน่วยงานของสปสช.วันพรุ่งนี้
วันที่ 31 ก.ค.64 ไปตรวจตามที่นัดหมาย แล้วแวะหอบอุปกรณ์ยังชีพเผื่อฉุกเฉินมาพร้อม คิดว่าไม่ต้องง้อรถพยาบาล ดีที่ก่อนหน้านี้ ทุกคนกินทั้งฟ้าทะลายโจร กับ V-C 1000 mg. มาต่อเนื่อง เลยตั้งแนวป้องกันข้าศึกได้รวดเร็ว คนที่ยังไม่ได้ฉีดอะไรเลยดั่งข้าพเจ้าเลยเหนื่อยหน่อย เพราะต้องตื่นตอนดึกมาเดินสำรวจ แจกยาคนป่วย และจัดการงานบ้านตามปกติ
ตอนนี้รอผลเป็นทางการ ระวังตัวเต็มเหนี่ยวมาเกือบ 2 ปี ไล่คนที่มายืนข้างๆ หน้าเสียไปก็หลายคน แต่ต้องมาติดโควิด เพราะไปรอรับวัคซีนของท่านรมต.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามเบื้องต้น ทางครอบครัวยังคงรอผลตรวจอย่างเป็นทางการ โดยรับแจ้งว่าต้องใช้เวลาอีก 2-3 วัน ซึ่งตอนนี้ทั้งครอบครัวยังคงดูอาการและดูแลตัวเองอยู่ในบ้านพัก ตามมาตรการ home isolation
JJNY : ป่วยใหม่18,901 ดับ 147│7คนเก็บเห็ดข้ามแดนยันฉีดวัคซีน│พ่อพาลูกฉีดวัคซีนบางซื่อติดโควิด│พ่อค้าน้ำเต้าหู้ ขนยาบ้า
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6543380
โควิดวันนี้ ศบค. รายงานสถานการณ์เบื้องต้น ป่วยใหม่พุ่ง 18,901 ราย สุดเศร้า เสีบชีวิตเพิ่ม 147 ราย เผย รักษาหาย 18,590 ราย เตรียมแถลงอีกครั้ง
วันที่ 3 ส.ค.2564 ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโควิด-19 ประจำวัน ระบุว่า เบื้องต้นมีผู้ป่วยใหม่ 18,901 รายจำแนกเป็นผู้ติดเชื้อใหม่ 18,158 ราย ผู้ติดเชื้อในเรือนจำ/ที่ต้องขัง 743 ราย
หายป่วยกลับบ้าน 18,590 ราย หายป่วยสะสม 410,405 ราย ยอดผู้ป่วยสะสมระลอกเดือนเม.ย.2564 จำนวน 623,322 ราย เสียชีวิตเพิ่ม 147 ราย กำลังรักษา 209,039 ราย ทั้งนี้ ศบค.จะแถลงรายละเอียดให้ทราบอีกครั้งเวลาประมาณ 12.30 น.
โควิดวันนี้ ศบค. รายงานสถานการณ์เบื้องต้น ป่วยใหม่พุ่ง 18,901 ราย สุดเศร้า เสีบชีวิตเพิ่ม 147 ราย
ลาวยังไม่ปล่อย 7 คนไทยเก็บเห็ดข้ามแดน รอกักตัว 14 วัน ยันฉีดวัคซีนโควิดให้ก่อนส่งกลับ
https://www.sanook.com/news/8420278/
ลาวยังไม่ปล่อย 7 คนไทย เข้าป่าเก็บเห็ดข้ามแดน รอส่งตัวกลับหลังกักตัวครบ 14 วัน ตามมาตรการโควิด
(2 ส.ค.64) เมื่อเวลา 12.00 น. นายอภัย วุฒิโสภากร นายอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี ประชุมหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องในการเร่งหาทางช่วยเหลือ 7 คนไทย ที่ออกไปหาเก็บเห็ดบริเวณป่าชายแดนไทย-สปป.ลาว และถูกเจ้าหน้าที่ทหารของ สปป.ลาว จับตัวไป
โดยล่าสุดคนไทยทั้ง 7 คนถูกควบคุมตัวในสถานกักกันตัวโควิด-19 ที่เมืองปะทุมพอน แขวงจำปาสัก ตามมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดโควิด-19 ของ สปป.ลาว ซึ่งทั้ง 7 คนปลอดภัยดี ซึ่งแนวทางการช่วยเหลือทางอำเภอจะต้องขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดอุบลราชธานี ทำหนังสือไปยัง เจ้าเมืองแขวงจำปาสัก เพื่อขอให้ส่งตัวกลับคืนให้ไทย แต่จะต้องมีการควบคุมตัวคนไทยเอาไว้ก่อน 14 วัน ตามมาตรการของลาว ก่อนจะส่งกลับมาที่ไทยได้
นายอภัย วุฒิโสภากร นายอำเภอสิรินธร กล่าวว่า คนไทยทั้ง 7 คนเป็นหญิง 5 ราย ชาย 2 ราย ซึ่งออกไปเก็บเห็ดตามฤดูกาล และเดินรุกล้ำเข้าไปในเขตชายแดน สปป.ลาว ไกลกว่า 100 เมตร ซึ่งเป็นจุดที่มีทหารลาว ประจำการอยู่แล้ว จึงถูกควบคุมตัว
นายอภัย วุฒิโสภากร นายอำเภอสิรินธร จังหวัดอุบลราชธานี เปิดเผยว่า ได้ประสานการช่วยเหลือ กลุ่มคนไทย 7 คน ที่ถูกทหารใน สปป.ลาว จับได้ที่บ้านทุ่งกว้าง เมืองโพนทอง แขวงจำปาสัก ประเทศลาวนั้น ตรวจสอบแล้วพบว่า เป็นคนไทยที่มาจากนอกพื้นที่ เข้ามาหาเก็บเห็ดป่า และไม่ทราบแนวเขตประเทศที่แน่ชัด จึงเดินหลงเข้าไปในเขตประเทศเพื่อนบ้าน และถูกจับกุมตัวไปดำเนินคดี
เรื่องเด่นเย็นนี้ รายงานเพิ่มเติมว่า ชาวไทยทั้ง 7 คนนี้ จะได้รับการฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันเชื้อโควิด-19 ก่อนถูกนำตัวส่งตำรวจตรวจคนเข้าเมืองของ สปป.ลาว ประจำด่านสากลวังเตา เมืองโพนทอง ซึ่งอยู่ตรง ด่านช่องเม็ก จ.อุบลราชธานี ของประเทศไทย เพื่อผลักดันคนทั้งหมดกลับประเทศไทยตามข้อตกลงระหว่างสองประเทศต่อ ซึ่งวัคซีนที่ได้รับจะเป็น ไฟเซอร์ หรือ จอห์นสันแอนด์จอห์นสัน ซึ่งเป็นวัคซีนที่ใช้ในลาว
พ่อพาลูกไปฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ คนแออัด-รอ5ช.ม. สุดท้ายติดโควิด-แพร่เชื้อยกบ้าน
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6542479
คุณพ่อพาลูกไปฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ คนแออัดไม่เป็นระเบียบ-รอ 5 ช.ม. สุดท้ายติดโควิด-แพร่เชื้อยกบ้าน พร้อมเปิดไทม์ไลน์ละเอียดยิบ
จากสถานการณ์โควิดที่ยังแพร่ระบาดอย่างหนัก โดยยอดผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตเพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่องทุกวัน อีกทางเลือกและทางรอดคือ การฉีดวัคซีนโควิด โดยหลายคนเลือกที่จะไปรับวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ กทม. ซึ่งเป็นจุดหลักและจุดใหญ่ในการฉีด
แต่ด้วยการบริหารจัดการที่ยังมีปัญหา ทำให้มีสภาพแออัด ประชาชนต่างต้องไปเบียดเสียดเข้าคิวรอฉีดวัคซีน จนเกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่าอาจเป็นจุดที่เกิดการแพร่ระบาดของเชื้อขึ้นมาได้
ล่าสุดมีคุณพ่อท่านหนึ่งโพสต์เฟซบุ๊ก เผยแพร่ข้อความและรายละเอียดหลังจากไปฉีดวัคซีนที่สถานีกลางบางซื่อ สุดท้ายต้องเจอเรื่องไม่คาดคิด เพราะแทนที่จะฉีดวัคซีน เพื่อป้องกันโควิด แต่เมื่อต้องไปเจอกับสภาพแออัดในการรอคิว สุดท้ายกลับไปรับเชื้อและติดโควิดมา
โดยระบุว่า สรุปไทม์ไลน์การเป็นผู้โชคดี วันศุกร์ 23 ก.ค.64 เวลา 11.00 น. ได้พาลูกชายไปฉีดวัคซีนแอสตร้าฯ ที่สถานีกลางบางซื่อ โดยพบผู้คนเยอะมาก แต่เห็นพื้นที่กว้างใหญ่ น่าจะกระจายตัวได้ดี จากนั้น 11.30 น. ได้ส่งภรรยาและลูกชายลงจากรถ พอขึ้นมาจากลานจอดใต้ดิน เริ่มต้องฝ่ากลุ่มคนร่วมหลายพันคน ทั้งกลุ่มวอล์กอิน ผู้สูงอายุและอื่นๆ เบียดแทรกไปตลอดทาง
ในฐานะที่เป็นผู้ป่วยภูมิแพ้จะเซนซิทีฟอย่างยิ่งต่อสารแปลกปลอมในอากาศ ขนาดสวมแมสก์ 2 ชั้นยังจามต่อเนื่องสนั่นหวั่นไหว และเริ่มรู้สึกว่าไม่เข้าท่า
ต่อมาเวลา 11.45 น. หน้าประตู 1 เจ้าหน้าที่เริ่มเรียกพวกที่ได้บัตรคิว 400 คนที่มาตอนเช้าเข้าฉีดแอสตร้าฯ เวลา 12.30 น. เรียกพวกที่มาตามเวลาเข้าแถว คนมหาศาลเบียดเสียด อกชนอก แน่นขนัด เวลา 12.45 น. เจ้าหน้าที่เริ่มเรียกแถวเข้านั่งรอเดินเข้าเป็นชุดๆ โดยส่วนใหญ่เรียกแถวปีกขวากับกลาง ในขณะที่ปีกซ้ายแถวยาวเหยียดต่อเลนป้ายรถเมล์แทบไม่ถูกเรียกเลย
จากนั้น 13.30 น. แถวปีกซ้ายถูกเรียกไป 2 ครั้ง ครั้งละ 3 ตับ เวลา 14.30 น. เริ่มมีคนโวยแล้ว เพราะยืนขาแข็งมานาน แต่แถวแทบไม่ลดลง กำลังคิดว่าจะเอาลูกกลับบ้านดีไหม เพราะดูเสี่ยงมาก แต่คิดอีกที ถ้าติดก็คงติดเชื้อแล้ว ยังไงก็ให้ฉีดไปก่อนดีกว่า เวลา 15.00 น. แถวของลูกชายถูกเรียก แต่คราวนี้ให้ตั้งแถวเดินไปรับวัคซีนที่ประตู 4 (ก็ทำไมไม่คิดทำเสียแต่ทีแรก ให้คนมายืนเบียดกันเป็นปลาซาดีนในซอสมะเขือพวงอยู่ได้)
เวลา 16.00 น. ลูกชายได้ฉีดแอสตร้าฯ เสร็จ กลับบ้าน ค่ำนั้นมีไข้ทั้งคืน น่าจะเป็นอาการจากการฉีดวัคซีนแอสตร้า จากนั้นวันที่ 24-25 ก.ค.ก็ปกติ แต่มาถึงวันจันทร์ที่ 26 ก.ค. ภรรยาเริ่มมีอาการเป็นหวัด มีไข้อ่อนๆ คิดว่าอาจโดนละอองฝน เพราะฝนลงหนัก
วันที่ 27 ก.ค. ลูกชายคนโตอีกคนไปทำงาน ขากลับซื้อ Rapid test มาตรวจก่อน เพราะวันพรุ่งนี้ ต้องไปฉีดวัคซีนซิโนฟาร์ม สงสัยจะตรวจผิดวิธี ผลเป็นลบ แต่ข้าพเจ้ายังไม่ตรวจจะรอใกล้ๆวันไปฉีดแอสตร้าฯ
วันที่ 28 ก.ค.64 ลูกชายคนโตไปฉีดวัคซีนที่รพ.พญาไท ใช้เวลาเบ็ดเสร็จไม่ถึง 1 ชั่วโมงก็กลับบ้าน คืนนั้น ไข้สูง 37.9 ตลอดคืน ต้องคอยเช็ดตัว นึกว่าเป็นอาการหลังฉีด ส่วนข้าพเจ้ามีน้ำมูกประปรายกับไอมีเสมหะ เดินออกกำลังจาก 3 ก.ม. เศษเหลือแค่ 2.5 ก.ม.ก็เริ่มเหนื่อย
วันที่ 29 กค.64 ลูกชายคนเล็กเริ่มทรงตัว ไข้เริ่มอ่อน น่าจะเพราะตอนฉีดแอสตร้าฯ เพิ่งได้รับเชื้อยังไม่ฟักตัว ส่วนลูกชายอีกคนไข้สูงตอนกลางคืน แต่กลางวันปกติ
วันที่ 30 ก.ค.64 ข้าพเจ้าตรวจผล Rapid Test เพราะไม่ค่อยแน่ใจ ผลเป็นไปตามคาด บวกสิครับท่าน ทีนี้เลยให้ทุกคนตรวจ Rapid Test ใหม่หมด ผลคือ แดงเถือกไปทั้งบ้าน วันนี้ลูกชายคนโตเริ่มไม่ได้กลิ่น ลิ้นไม่รู้รส ไข้ยังสูง 38 กว่า เริ่มประสานงานเตรียมการไปตรวจกับหน่วยงานของสปสช.วันพรุ่งนี้
วันที่ 31 ก.ค.64 ไปตรวจตามที่นัดหมาย แล้วแวะหอบอุปกรณ์ยังชีพเผื่อฉุกเฉินมาพร้อม คิดว่าไม่ต้องง้อรถพยาบาล ดีที่ก่อนหน้านี้ ทุกคนกินทั้งฟ้าทะลายโจร กับ V-C 1000 mg. มาต่อเนื่อง เลยตั้งแนวป้องกันข้าศึกได้รวดเร็ว คนที่ยังไม่ได้ฉีดอะไรเลยดั่งข้าพเจ้าเลยเหนื่อยหน่อย เพราะต้องตื่นตอนดึกมาเดินสำรวจ แจกยาคนป่วย และจัดการงานบ้านตามปกติ
ตอนนี้รอผลเป็นทางการ ระวังตัวเต็มเหนี่ยวมาเกือบ 2 ปี ไล่คนที่มายืนข้างๆ หน้าเสียไปก็หลายคน แต่ต้องมาติดโควิด เพราะไปรอรับวัคซีนของท่านรมต.
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากการสอบถามเบื้องต้น ทางครอบครัวยังคงรอผลตรวจอย่างเป็นทางการ โดยรับแจ้งว่าต้องใช้เวลาอีก 2-3 วัน ซึ่งตอนนี้ทั้งครอบครัวยังคงดูอาการและดูแลตัวเองอยู่ในบ้านพัก ตามมาตรการ home isolation