[BR] รีวิว ALL NEW MG5 รถเก๋งซีดานสไตล์สปอร์ตคูเป้ หล่อกระชากใจวัยรุ่น!

กระทู้ผู้สนับสนุน
กระทู้รีวิว
ช่วงที่ผ่านมาตลาดรถยนต์ทั้งบ้านเราและทั่วโลก อาจจะไม่คึกคักกันสักเท่าไหร่ แต่ไม่ใช่ MG ผู้ที่นาทีนี้ปลุกกระแสให้ตลาดรถยนต์บ้านเรากลับมาคึกคักกันนิดนึง (จริงๆ ก็ไม่นิดนะ) กับการเปิดตัว ALL NEW MG5 ที่เคาะราคาเปิดตัวตั้งต้นมาแบบน่ารักๆ ที่ 5 แสนกลาง ขณะที่หน้าตา ฟังก์ชัน และเทคโนโลยีที่ให้มานั้นจัดได้ว่าเยอะเกินค่าตัว ทำให้เวลานี้ ALL NEW MG5 กลายเป็นรถยนต์ที่น่าสนใจและน่าจับตามากที่สุด

วันนี้เราก็เลยขอเอาเจ้า ALL NEW MG5 น้องใหม่คันนี้ มาบอกเล่ากึ่งรีวิวเสิร์ฟเป็นออเดิร์ฟเบาๆ เรียกว่าใครสนใจน้องใหม่คันนี้อยู่ มีข้อมูลในมือแน่นๆ ก่อนไปสัมผัสที่โชว์รูมแบบตัวเป็นๆ แน่นอน เพราะเราจะไล่เลียงกันตั้งแต่ภายนอกถึงภายใน ไฮไลต์ จุดเด่น รวมถึงมีทีเด็ดอะไรบ้างที่ทำให้ต้องร้องว้าว พร้อมแล้วตามมาได้เลย


สำหรับ ALL NEW MG5 เป็นรถยนต์ประเภทซีดานในกลุ่ม B-Segment ที่เน้นไปที่กลุ่มนักขับรุ่นใหม่ ทำให้การมาของ ALL NEW MG5 พ.ศ. นี้ถูกออกแบบให้มีความสปอร์ตและมีสไตล์เฉพาะตัวมากขึ้น ภายใต้แนวคิด BEYOND ที่ต้องบอกว่าเห็นแล้วเร้าใจ แต่ในขณะเดียวกันก็ยังคง DNA ของความเป็น MG อยู่

BEYOND DESIGN IS IDENTITY

อย่างที่บอกไปว่า ALL NEW MG5 เกิดมาเพื่อนักขับรุ่นใหม่ วัยที่มีความโดดเด่น ดังนั้นงานออกแบบหรือดีไซน์ของตัวรถก็ต้องใส่มาแบบเต็มพิกัด แต่ถึงกระนั้นมันไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะออกแบบรถหนึ่งคันให้มีหน้าตาโดนใจกลุ่มเป้าหมาย โดยเฉพาะกับวัยรุ่น วัยที่มีไลฟ์สไตล์เฉพาะตัว แต่ก็ต้องบอกว่า MG ทำการบ้านมาได้ดีมาก เพราะเชื่อเลยว่า ถ้าใครได้เห็นเจ้า ALL NEW MG5 แค่เพียงแค่แว้บเดียวก็จะรู้สึกเหมือนกับเราทันที รู้สึกได้ถึงความเป็นรถสปอร์ตเอามากๆ กระจังหน้าที่มาในดีไซน์แบบ 3 มิติ Digital Burning Grille ซึ่งเป็นเอกลักษณ์การออกแบบใหม่ล่าสุด บอกตรงว่าๆ มันเพิ่มความมีมิติชวนมองให้กับตัวรถได้แบบสุดๆ ขณะที่ตัวถังก็มีความเพรียวยาวตามสไตล์รถยนต์สปอร์ตคูเป้ซีดาน เมื่อรวมกับการออกแบบไฟหน้า LED Projector เปิด-ปิดอัตโนมัติ, ไฟท้ายดีไซน์เท่ Leopard Claw เหมือนกรงเล็บ และล้อที่เป็นล้ออัลลอยด์ขนาด 17 นิ้วมาตั้งแต่โรงงาน ในดีไซน์ใบพัด 5 ก้าน ก็ยิ่งเสริมเพิ่มเติมความเป็นสปอร์ตเท่ๆ ให้กับ ALL NEW MG5 มากขึ้นอีกหลายช่วงตัว



BEYOND SPACE IS SERENITY

เรื่องงานออกแบบหน้าตาดีไซน์ ทำคะแนนได้แบบพุ่งทะลุกราฟ ขอขยับมาพูดถึงเรื่องพื้นที่ภายในห้องโดยสารที่ก็มีทีเด็ดไม่แพ้กันบ้าง เป็นอีกหนึ่งจุดที่ทำการบ้านมาได้ดีอีกเหมือนกัน เพราะ ALL NEW MG5 มีพื้นที่ห้องโดยสารที่กว้าง เบาะด้านหลังสามารถพับเพื่อขนสัมภาระได้ ขณะที่ระยะห่างระหว่างศีรษะ (Headroom) กำลังโอเค ทำให้นั่งแล้วสบายตัว ปลอดโปร่ง ที่สำคัญคือมีหลังคาซันรูฟมาด้วย เหมาะกับวันชิลๆ, ด้านความสะดวกสบาย เบาะนั่งฝั่งคนขับปรับไฟฟ้า 6 ทิศทาง ทำให้ปรับตำแหน่งเบาะที่นั่งได้กระชับรับกับตัวมากที่สุด, มีระบบปรับอากาศแบบดิจิทัล, ช่องแอร์สำหรับผู้โดยสารตอนหลัง, ระบบกรองอากาศ PM 2.5 ชอบเป็นพิเศษเพราะไม่ต้องหาซื้อเครื่องฟอกอากาศมาใช้งานแยก มีมาให้แล้ว


ในส่วนของบรรดาอุปกรณ์ต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับความบันเทิง จะสายแอนดรอยด์หรือทีมแอปเปิลได้หมดทุกค่ายไม่เกี่ยง หน้าจอแบบสัมผัสขนาด 10 นิ้ว รองรับ Apple CarPlay และโทรศัพท์มือถือระบบ Android, พวงมาลัยแบบมัลติฟังกชัน, กุญแจรีโมตอัจฉริยะ (Smart Key) พร้อมปุ่ม Push Start, มาตรวัดอัจฉริยะแสดงผลแบบดิจิทัลขนาด 7 นิ้ว


BEYOND TECHNOLOGY IS SIMPLICITY

ถ้าพูดถึงรถยนต์ค่าย MG สิ่งหนึ่งที่หลายคนคิดถึงทันทีก็คือฟังก์ชัน ‘การสั่งงานด้วยเสียง’ เราสามารถสั่งงานเสียงภาษาไทยกับรถได้ หรือจะเช็กสถานะ ค้นหารถ รวมถึงสั่งงานผ่านสมาร์ตโฟนก็ทำได้ ด้วยระบบปฏิบัติการอัจฉริยะ i-SMART ต้องบอกว่ามันเป็นฟังก์ชันที่ทำให้รถเป็นมากกว่ารถ ทำให้คนขับกับรถรวมกันเป็นหนึ่งเดียวได้จริง แต่สำหรับ ALL NEW MG5 ต้องขอใช้คำว่าล้ำไปกว่านั้น เพราะเราสามารถที่จะใช้สมาร์ตโฟนแทนกุญแจรถได้เลยกับฟังก์ชันกุญแจดิจิทัล (Digital Key) จะเปิดล็อกรถ สตาร์ตรถ ทำได้หมด หรือเจ้าของรถจะส่งกุญแจดิจิทัลให้กับคนอื่นใช้ก็ได้ สามารถกำหนดสิทธิ์การใช้ได้ จะให้เปิดรถได้อย่างเดียว หรือให้สตาร์ตได้ด้วย หรือ จะกำหนดเวลาการใช้กุญแจดิจิทัลนี้ก็ได้ จะคล้ายๆ เหมือนกับการใช้งาน Digital Door Lock บางรุ่น ต่อไปนี้ ต่อให้ลืมกุญแจรถก็ยังขับรถได้


BEYOND DRIVING IS SATISFACTION

หลังจากที่ไล่เลียงจุดเด่นและหมัดเด็ดของ ALL NEW MG5 ภายนอก มาถึงเรื่องภายในอย่างสมรรถนะและความปลอดภัยกันบ้าง ส่วนตัวคิดว่า สองอย่างนี้ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่จะทำให้เราตัดสินใจเป็นเจ้าของรถคันใดคันหนึ่ง รวมถึงเป็นปัจจัยหลักในการเลือกรถมาใช้งานด้วย

ALL NEW MG5 ใช้เครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.5 ลิตร ให้กำลังสูงสุด 114 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 150 นิวตันเมตร ที่ 4,500 รอบต่อนาที ระบบเกียร์อัตโนมัติแบบ CVT 8 สปีด ระบบช่วงล่างแบบ EURO TUNING SUSPENSION ด้วยขนาดเครื่องยนต์ 1.5 ลิตร ถือว่าสบายมากสำหรับการใช้งานในเมือง-นอกเมืองหรือขึ้นเหนือล่องใต้ นอกจากเรื่องเครื่องยนต์แล้วที่เป็นจุดเด่นอีกอย่างของ ALL NEW MG5 ก็คือ DRIVER-FOCUS COCKPIT ดีไซน์คอนโซลกลางที่ MG เคลมว่า ออกแบบมาให้อยู่ในตำแหน่งองศาที่เหมาะสมกับคนขับมากที่สุด แต่จะเหมาะแค่ไหนต้องไปลองด้วยตัวเอง

นอกเหนือจากระบบเกียร์, ก็ยังมีระบบพวงมาลัย Rack and Pinion ควบคุมด้วยไฟฟ้า (EPS), ระบบช่วงล่างหน้า MacPherson Strut พร้อมเหล็กกันโคลง, ระบบช่วงล่างหลัง Torsion Beam, ระบบเบรกมือไฟฟ้า EPB (Electronic Parking Brake) ความหนึบความแน่นมาแน่นอน



BEYOND SAFETY IS TRUSTWORTHY

ปิดท้ายกันด้วยเรื่องระบบช่วยการขับขี่และความปลอดภัยต่างๆ ต้องบอกว่าเป็นรถที่ให้เทคโนโลยีความปลอดภัยมาครบ และเยอะมาก ซึ่งของแบบนี้มีไว้แต่ไม่ได้ใช้ ดีกว่าจะใช้แต่ไม่มี แต่ที่แน่ๆ ที่ได้เลยก็คือ ความมั่นใจการใช้รถ การขับขี่    

• ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรกฉุกเฉิน ABS (Anti-lock Brake System)
• ระบบกระจายแรงเบรก EBD (Electronic Brake force Distribution)
• ระบบเสริมแรงเบรกด้วยอิเล็กทรอนิกส์ EBA (Electronic Brake Assist)
• ระบบป้องกันการไหลของรถโดยไม่องเหยียบเบรกค้าง (Auto Vehicle Hold)
• ระบบระบบควบคุมการเบรกในขณะเข้าโค้งด้วยความเร็ว XDS (Electronic Differential System)
• ระบบป้องกันล้อหมุนฟรี และควบคุมการลื่นไถล TCS (Traction Control System)
• ระบบช่วยการออกตัวบนทางลาดชัน HAS (Hill Start Assist System)
• ระบบสัญญาณไฟแจ้งเตือน เมื่อมีการเบรกฉุกเฉิน ESS (Emergency Stop Signal)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติ (Cruise Control)
• ระบบช่วยเตือนเมื่อต้องการเปลี่ยนเลน LCA (Lane Change Assist)
• ระบบช่วยเตือนมุมอับสายตา BSD (Blind Spot Detection)
• ระบบช่วยเตือนขณะถอยหลัง RCTA (Rear Cross Traffic Alert)
• ระบบช่วยเตือนการชนด้านหลัง RCW (Rear Collision Warning)

และยังมี กล้องมองภาพรอบทิศทางแบบ 3 มิติ ถุงลมนิรภัย 6 ตำแหน่ง เข็มขัดนิรภัยคู่หน้าแบบดึงรั้งกลับพร้อมผ่อนแรงอัตโนมัติ ระบบกุญแจนิรภัย Immobilizer และระบบล็อกประตูอัตโนมัติ (Speed Sensing Door Lock)


เอาล่ะ มาถึงเรื่องสำคัญ จั่วมาตั้งแต่หัวกระทู้ว่า ALL NEW MG5 เปิดตัวมาด้วยราคาเริ่มต้นที่ 5 แสนกลาง หลายคนก็น่าจะอยากรู้ว่าตัวเลขคือเท่าไหร่ และตัวเลขที่ออก ก็คือ 559,000 บาท สำหรับรุ่น C,  599,000 บาท สำหรับรุ่น D และ  689,000 สำหรับรุ่น X ตัวท็อปสุด ในมุมส่วนตัวก็ต้องบอกว่าทำราคามาดีเกินต้านจริงๆ

ถ้าถามว่าคุ้มไหมสำหรับการเป็นเจ้าของรถหนึ่งคันที่หน้าตาดีมากกกกกกก ออปชันแน่น ความปลอดภัยมาแบบไม่กั๊ก ในงบไม่เกิน 7 แสน ก็ต้องบอกว่าคุ้มยิ่งกว่าคุ้ม

สำหรับสีตัวถัง มีทั้งหมด 6 สี ได้แก่สีเหลือง (Nuclear Yellow), สีขาว (Arctic White), สีดำ (Black Knight), สีเงิน (Silver Metallic), สีแดง (Scarlet Red) และสีเทา (Metal Ash Grey)  


ALL NEW MG5 ตัวจริงพร้อมให้ทดลองขับแล้วที่โชว์รูม MG กว่า 150 แห่งทั่วประเทศ รวมถึง (ข่าว) บอกว่าพร้อมส่งมอบแล้วด้วย เรียกได้ว่าไม่ต้องร้องเพลงรอกันนาน ก็แวะไปชมตัวจริงกันได้แล้ว  

คลิกดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ https://www.mgcars.com

[Advertorial]
ชื่อสินค้า:   ALL NEW MG5
คะแนน:     

BR - Business Review : กระทู้นี้เป็นกระทู้รีวิวจากผู้สนับสนุน

โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่