สธ.ชี้ล็อกดาวน์ช่วยชะลอติดเชื้อกว่า 4 หมื่นคนต่อวันตายอีกครึ่งพัน
เชื่อหากไม่มีมาตรการที่เข้มข้นจำกัดพื้นที่และการเดินทาง ภายในเดือนก.ย.จะมีผู้ติดเชื้อสูงถึง 4 หมื่นราย/วัน ตายสูงถึงวันละ 500 ราย/จึงต้องร่วมกันเข้มงวดมาตรการด้านสาธารณสุข ลดกิจกรรมไม่จำเป็น อยู่บ้านมากที่สุด เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ พากลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีน ก็จะสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อลงได้
30 ก.ค.2564 ที่กระทรวงวาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกยังมีความรุนแรง มีการติดเชื้อมากกว่า 6 แสนรายต่อวัน ทั่วโลกสะสม 198 ล้านราย คาดว่าไม่กี่วันจะถึง 200 ล้านราย ขณะที่ประเทศไทยก็พบการติดเชื้อจำนวนมากเช่นเดียวกัน โดยวันนี้ติดเชื้อถึง 17,345 ราย โดยพบในต่างจังหวัดมากกว่ากทม.เล็กน้อย เนื่องจากมีโครงการให้ผู้ติดเชื้อกลับไปรักษาตามภูมิลำเนา โดยกลับไปแล้วมากกว่า 5 หมื่นราย แต่คนกลุ่มนี้จะไม่มีการแพร่เชื้อเพราะมีการจัดระบบดูแลที่บ้านและชุมชน หรือสถานพยาบาล อย่างไรก็ตามได้มีความพยายามในการควบคุมการระบาดเพื่อใม่ให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสูง โดยการรักษา ปัจจุบันเราให้ยาฟาวิพิราเวียร์ตามเกณฑ์โดยเร็วที่สุด มีการสำรองยาในเดือน ส.ค. 40 ล้านเม็ด และเดือน ก.ย.อีก 40 ล้านเม็ด โดยผู้ป่วยที่อยู่ในระบบHome Isolation (HI) หรือ Community Isolation (CI) มีโอกาสได้รับยาเหล่านี้ เพื่อให้การรักษาตั้งแต่เริ่มต้น และช่วยลดการป่วยหนัก และการเสียชีวิตได้
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับการคาดการณ์สถานการณ์การติดเชื้อโควิด กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันหากไม่มาตรการจำกัดพื้นที่ จำกัดการเดินทางที่เข้มข้น จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอาจจะเกินวันละ 40,000 ราย โดยมีจุดสูงสุดอยู่ที่วันที่ 14 ก.ย. แต่เมื่อมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้นนาน 1 เดือนและมีประสิทธิภาพ 20% ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลงเหลือวันละประมาณ 30,000 ราย แต่หากใช้มาตรการเข้มข้นนาน 2 เดือนและมี
ประสิทธิภาพ 25% จะทำให้ผู้ติดเชื้อลดลงเหลือวันละกว่า 2,000 ราย
ขณะที่ การคาดการณ์ผู้เสียชีวิตหากไม่มีมาตรการใดๆ จะมีผู้เสียชีวิตสูงสุดวันละกว่า 500 คน จุดสูงสุดอยู่ที่วันที่ 28 ก.ย. แต่ถ้ามาตรการเข้มข้นที่ใช้ตั้งแต่ปลายเดือนก.ค.มีประสิทธิภาพร้อยละ 20 ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะไม่เกิน 400 คนต่อวัน ถ้ามาตรการเข้มข้นยาวนานขึ้น 2 เดือนและมีประสิทธิภาพ ร่วมกับการฉีดวัคซีนกับกลุ่มเสี่ยงทั้งผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค ก็จะทำให้ผู้เสียชีวิตลดจำนวนลงเหลือวันละไม่เกิน 100 ราย อย่างไรก็ตามขณะนี้ผู้ติดเชื้อในประเทศยังสูงอยู่ จึงความร่วมมือของประชาชนเข้มงวดมาตรการด้านสาธารณสุข ลดกิจกรรมไม่จำเป็น อยู่บ้านมากที่สุด เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ พากลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีน ก็จะสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อลงได้ จะช่วยให้มาตรการส่วนบุคคลในการป้องกันการแพร่เชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
https://siamrath.co.th/n/266837
สธ.บอกแล้วนะคะ ว่าการล็อกดาวน์ช่วยลดการติดเชื้อ การเสียชีวิตได้
จึงความร่วมมือของประชาชนเข้มงวดมาตรการด้านสาธารณสุข ลดกิจกรรมไม่จำเป็น อยู่บ้านมากที่สุด เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ พากลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีน ก็จะสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อลงได้ จะช่วยให้มาตรการส่วนบุคคลในการป้องกันการแพร่เชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
⏺มาลาริน/สธ.ชี้ล็อกดาวน์ช่วยชะลอติดเชื้อกว่า 4 หมื่นคนต่อวัน ตายอีกครึ่งพัน
เชื่อหากไม่มีมาตรการที่เข้มข้นจำกัดพื้นที่และการเดินทาง ภายในเดือนก.ย.จะมีผู้ติดเชื้อสูงถึง 4 หมื่นราย/วัน ตายสูงถึงวันละ 500 ราย/จึงต้องร่วมกันเข้มงวดมาตรการด้านสาธารณสุข ลดกิจกรรมไม่จำเป็น อยู่บ้านมากที่สุด เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ พากลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีน ก็จะสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อลงได้
30 ก.ค.2564 ที่กระทรวงวาธารณสุข นพ.เกียรติภูมิ วงศ์รจิต ปลัดกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยว่า ปัจจุบันสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ทั่วโลกยังมีความรุนแรง มีการติดเชื้อมากกว่า 6 แสนรายต่อวัน ทั่วโลกสะสม 198 ล้านราย คาดว่าไม่กี่วันจะถึง 200 ล้านราย ขณะที่ประเทศไทยก็พบการติดเชื้อจำนวนมากเช่นเดียวกัน โดยวันนี้ติดเชื้อถึง 17,345 ราย โดยพบในต่างจังหวัดมากกว่ากทม.เล็กน้อย เนื่องจากมีโครงการให้ผู้ติดเชื้อกลับไปรักษาตามภูมิลำเนา โดยกลับไปแล้วมากกว่า 5 หมื่นราย แต่คนกลุ่มนี้จะไม่มีการแพร่เชื้อเพราะมีการจัดระบบดูแลที่บ้านและชุมชน หรือสถานพยาบาล อย่างไรก็ตามได้มีความพยายามในการควบคุมการระบาดเพื่อใม่ให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตสูง โดยการรักษา ปัจจุบันเราให้ยาฟาวิพิราเวียร์ตามเกณฑ์โดยเร็วที่สุด มีการสำรองยาในเดือน ส.ค. 40 ล้านเม็ด และเดือน ก.ย.อีก 40 ล้านเม็ด โดยผู้ป่วยที่อยู่ในระบบHome Isolation (HI) หรือ Community Isolation (CI) มีโอกาสได้รับยาเหล่านี้ เพื่อให้การรักษาตั้งแต่เริ่มต้น และช่วยลดการป่วยหนัก และการเสียชีวิตได้
ด้านนพ.โอภาส การย์กวินพงศ์ อธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า สำหรับการคาดการณ์สถานการณ์การติดเชื้อโควิด กับสถานการณ์ที่เกิดขึ้นจริง พบว่า จำนวนผู้ติดเชื้อใหม่รายวันหากไม่มาตรการจำกัดพื้นที่ จำกัดการเดินทางที่เข้มข้น จำนวนผู้ติดเชื้อรายวันอาจจะเกินวันละ 40,000 ราย โดยมีจุดสูงสุดอยู่ที่วันที่ 14 ก.ย. แต่เมื่อมีมาตรการที่เข้มข้นขึ้นนาน 1 เดือนและมีประสิทธิภาพ 20% ตัวเลขผู้ติดเชื้อจะลดลงเหลือวันละประมาณ 30,000 ราย แต่หากใช้มาตรการเข้มข้นนาน 2 เดือนและมี
ประสิทธิภาพ 25% จะทำให้ผู้ติดเชื้อลดลงเหลือวันละกว่า 2,000 ราย
ขณะที่ การคาดการณ์ผู้เสียชีวิตหากไม่มีมาตรการใดๆ จะมีผู้เสียชีวิตสูงสุดวันละกว่า 500 คน จุดสูงสุดอยู่ที่วันที่ 28 ก.ย. แต่ถ้ามาตรการเข้มข้นที่ใช้ตั้งแต่ปลายเดือนก.ค.มีประสิทธิภาพร้อยละ 20 ตัวเลขผู้เสียชีวิตจะไม่เกิน 400 คนต่อวัน ถ้ามาตรการเข้มข้นยาวนานขึ้น 2 เดือนและมีประสิทธิภาพ ร่วมกับการฉีดวัคซีนกับกลุ่มเสี่ยงทั้งผู้สูงอายุ หญิงตั้งครรภ์และผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค ก็จะทำให้ผู้เสียชีวิตลดจำนวนลงเหลือวันละไม่เกิน 100 ราย อย่างไรก็ตามขณะนี้ผู้ติดเชื้อในประเทศยังสูงอยู่ จึงความร่วมมือของประชาชนเข้มงวดมาตรการด้านสาธารณสุข ลดกิจกรรมไม่จำเป็น อยู่บ้านมากที่สุด เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ พากลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีน ก็จะสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อลงได้ จะช่วยให้มาตรการส่วนบุคคลในการป้องกันการแพร่เชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ
https://siamrath.co.th/n/266837
สธ.บอกแล้วนะคะ ว่าการล็อกดาวน์ช่วยลดการติดเชื้อ การเสียชีวิตได้
จึงความร่วมมือของประชาชนเข้มงวดมาตรการด้านสาธารณสุข ลดกิจกรรมไม่จำเป็น อยู่บ้านมากที่สุด เว้นระยะห่าง ล้างมือบ่อยๆ พากลุ่มเสี่ยงไปฉีดวัคซีน ก็จะสามารถลดจำนวนผู้เสียชีวิตและผู้ติดเชื้อลงได้ จะช่วยให้มาตรการส่วนบุคคลในการป้องกันการแพร่เชื้อได้อย่างมีประสิทธิภาพ