อย่างที่เคยบอกกราฟไม่ได้เป็นตัวกำหนดราคาและวอลุ่ม ราคาและวอลุ่มต่างหากเป็นตัวกำหนดกราฟ
เมื่อเราศึกษากราฟดีแล้ว จนมองออกแล้วว่าหุ้นเป็นแนวโน้มขึ้นหรือแนวโน้มลง ได้อย่างชัดเจนแล้ว
ต้องมีวินัยทำตามสิ่งที่กราฟบอก เพราะนั่นคือราคาและวอลุ่มจะบอกเราว่าควรซื้อหรือขาย
ตามสไตล์สายมโน เมื่อเห็นแนวโน้มขึ้นให้ซื้อ แนวโน้มลงให้ขาย
แนวโน้มขึ้น คือโอกาสขึ้นมีมากกว่า (แต่ไม่ใช่ว่าจะลงไม่ได้) ขึ้นเท่าไหร่ ต้องให้ราคาและวอลุ่มกำหนดออกมาในกราฟ
แนวโน้มขึ้น บางครั้งก็แกว่งแคบๆ บางครั้งก็ขึ้นครึ่งเด้ง 1 .... จน 10 เด้งก็มี ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มลง
แนวโน้มลง คือโอกาสลงมีมากกว่า (แต่ไม่ใช่ว่าจะขึ้นไม่ได้) ลงเท่าไหร่ ต้องให้ราคาและวอลุ่มกำหนดออกมาในกราฟเช่นกัน
แนวโน้มลง บางครั้งก็แกว่งแคบๆ บางครั้งก็ลง10 % จนถึง 90 % ก็มี ก่อนที่จะเปลี่ยนเป็นแนวโน้มขึ้น
การขึ้นและลงแต่ละรอบไม่เเท่ากัน แม้จะใช้รูปแบบกราฟอินดิเคเตอร์ลักษณะเดียวกัน
ถ้าเทรดตามกราฟที่ศีกษาอย่างดี และมีวินัย ซื้อเป็นซื้อ ขายเป็นขาย ตามที่กราฟบอก(การเคลื่อนไหวของราคา และ วอลุ่ม)
แนวโน้มขึ้น แกว่งตัวแคบขาดทุนน้อย ขึ้นรอบเล็กกำไรน้อย ขึ้นรอบใหญ่กำไรมาก
แนวโน้มลง ขายแล้วไม่เทรด เปลี่ยนแนวโน้มขึ้น ราคาแพงกว่าที่ขายไป ต้องซื้อคืน อย่าคิดมาก
ศึกษาให้ดี ซื้อตั้งแต่เริ่มแนวโน้มขึ้น ขายเมื่อเริ่มแนวโน้มลง
ทำได้ เวลาหุ้นขึ้นมีกำไร เวลาหุ้นลง ไม่ติดดอย

จงมีสติ เพื่อจะได้มีสตางค์
money be with all of you