วันที่ 11 มกราคม ปี 1983 เด็กชายสามคนขึ้นไปเล่นบนภูเขาในเขตกวานักซาน กรุงโซล เกาหลีใต้
ขณะเล่นเด็กคนหนึ่งพบ "บางสิ่งที่มีสีขาวและแข็งทื่อ " อยู่ในกองใบไม้ เขาคิดว่าเป็นตุ๊กตา จึงขอให้เพื่อนอีกสองคนช่วยกันเอาออกมา ในที่สุดก็พบศพผู้หญิงในสภาพไม่สวมเสื้อผ้า
หลังจากการสอบสวนของตำรวจ พบว่าผู้เสียชีวิตเป็นพนักงานที่ร้านตัดผมละแวกนั้น ( อายุ 24 ปี ) ในช่วงเริ่มต้นของการสอบสวนก่อนจะรู้ว่าผู้ตายเป็นใคร ตำรวจแทบไม่มีความคืบหน้าใดๆ เลย เพราะไม่มีทั้งพยาน หลักฐานบ่งชี้ แม้ว่าผู้ตายจะเปลือยเปล่าตอนที่ถูกพบ แต่ตำรวจก็ไม่พบร่องรอยของการถูกข่มขืนอย่างที่คาดไว้ในตอนแรก ศพของเธอไม่มีการถูกล่วงละเมิด หรือการถูกทำร้ายใดๆ จึงเป็นคดีที่แปลกประหลาดสำหรับเจ้าหน้าที่ในตอนนั้น ไม่ได้ถูกข่มขืน ไม่ได้ถูกทำร้าย ไม่ได้ถูกเคลื่อนย้ายมาจากที่อื่น ก็แล้วทำไมเธอถึงมานอนเปลือยกายเสียชีวิตที่บนเขานี้กันเล่า ? เป็นปริศนาที่เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันค้นหาคำตอบ ....
หลังจากที่เจ้าหน้าที่สืบสวนไปสักพัก ก็พบว่าหญิงสาวผู้เสียชีวิตทำงานเป็นพนักงานที่ร้านตัดผมแถวๆ นั้น
หลังจากทราบตัวตนของผู้ตายเป็นที่แน่ชัด ตำรวจก็ไปที่ร้านตัดผมที่ผู้ตายเคยทำงานอยู่ เจ้าหน้าที่ทำการสอบถามพูดคุยกับพนักงานหญิงคนหนึ่งที่ถูกบอกว่าสนิทกับเธอที่สุด พนักงานหญิงคนนั้นก็เล่าว่า เธอจำได้ว่าลูกค้าประจำซึ่งเป็นช่างภาพสมัครเล่นเคยชวนผู้ตายให้ไปเป็นนางแบบให้เขา และหลังจากนั้นเธอก็หายไปเลย
ตำรวจจึงเดินทางไปหา ลี ดองซิก ( อายุ 42 ) ช่างภาพเพื่อสอบปากคำเกี่ยวกับการเสียชีวิตของหญิงสาวบนภูเขา
พื้นเพของ ลี ดองซิก เขาเป็นเด็กกำพร้า และต่อสู้ใช้ชีวิตด้วยตัวเองมาจนอายุ 15 ปี จากนั้นก็ก่อเรื่องมากมายเพื่อเอาตัวรอดในสังคม เขาถูกจับหลังจากนั้นไม่นาน พอออกจากคุกก็ได้งานเป็นช่างประปา แต่ตอนนี้เขาเป็นช่างภาพที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ผลงานของเขาชนะการประกวดจากหลายๆ ที่ เขามีสไตล์การถ่ายที่ดิบ เถื่อน และสดใหม่ งานที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครของเขาทำให้เขามีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
ตอนแรก ลี ดองซิก ไม่ค่อยจะยอมให้ความร่วมมือกับตำรวจสักเท่าไหร่ ถามคำตอบคำ ออกแนวไม่อยากคุย เขาบอกว่าไม่ได้เจอเธอมาสักพักแล้ว จากนั้นก็เหมือนจะไล่เจ้าหน้าที่ไป โชคดีที่ตำรวจคนนึงหัวใจ จึงแกล้งบอก ลี ดองซิก ว่า จริงๆ ที่มาก็เพราะอยากชมภาพถ่ายของเขาอย่างใกล้ชิดด้วย เพราะชื่นชมผลงานของเขามานาน พอตำรวจบอกแบบนี้ ลี ดองซิก ก็รีบชวนให้ตำรวจเข้ามาในบ้านเพื่อจะอวดภาพถ่ายต่างๆ ที่เขาถ่าย ดูเขามีความสุขมากที่มีคนเอ่ยปากชื่นชมผลงานของเขา
แต่พอลงมาตรงที่เก็บภาพถ่าย เจ้าหน้าที่ทั้งสองก็ต้องขนลุก บนราวแขวนรูป มีภาพผู้เสียชีวิตแขวนอยู่มากมาย ถึงรู้ว่าเขาเกี่ยวข้องด้วยแน่ๆ แต่เพราะไม่มีทั้งพยานและหลักฐาน ตำรวจจึงไม่สามารถทำอะไรได้ ทั้งคู่จึงต้องกลับไปทั้งๆแบบนั้น ....
คดี " ภาพถ่ายแห่งความตาย " ( เกาหลี )
ขณะเล่นเด็กคนหนึ่งพบ "บางสิ่งที่มีสีขาวและแข็งทื่อ " อยู่ในกองใบไม้ เขาคิดว่าเป็นตุ๊กตา จึงขอให้เพื่อนอีกสองคนช่วยกันเอาออกมา ในที่สุดก็พบศพผู้หญิงในสภาพไม่สวมเสื้อผ้า
หลังจากการสอบสวนของตำรวจ พบว่าผู้เสียชีวิตเป็นพนักงานที่ร้านตัดผมละแวกนั้น ( อายุ 24 ปี ) ในช่วงเริ่มต้นของการสอบสวนก่อนจะรู้ว่าผู้ตายเป็นใคร ตำรวจแทบไม่มีความคืบหน้าใดๆ เลย เพราะไม่มีทั้งพยาน หลักฐานบ่งชี้ แม้ว่าผู้ตายจะเปลือยเปล่าตอนที่ถูกพบ แต่ตำรวจก็ไม่พบร่องรอยของการถูกข่มขืนอย่างที่คาดไว้ในตอนแรก ศพของเธอไม่มีการถูกล่วงละเมิด หรือการถูกทำร้ายใดๆ จึงเป็นคดีที่แปลกประหลาดสำหรับเจ้าหน้าที่ในตอนนั้น ไม่ได้ถูกข่มขืน ไม่ได้ถูกทำร้าย ไม่ได้ถูกเคลื่อนย้ายมาจากที่อื่น ก็แล้วทำไมเธอถึงมานอนเปลือยกายเสียชีวิตที่บนเขานี้กันเล่า ? เป็นปริศนาที่เจ้าหน้าที่ต้องช่วยกันค้นหาคำตอบ ....
หลังจากที่เจ้าหน้าที่สืบสวนไปสักพัก ก็พบว่าหญิงสาวผู้เสียชีวิตทำงานเป็นพนักงานที่ร้านตัดผมแถวๆ นั้น
หลังจากทราบตัวตนของผู้ตายเป็นที่แน่ชัด ตำรวจก็ไปที่ร้านตัดผมที่ผู้ตายเคยทำงานอยู่ เจ้าหน้าที่ทำการสอบถามพูดคุยกับพนักงานหญิงคนหนึ่งที่ถูกบอกว่าสนิทกับเธอที่สุด พนักงานหญิงคนนั้นก็เล่าว่า เธอจำได้ว่าลูกค้าประจำซึ่งเป็นช่างภาพสมัครเล่นเคยชวนผู้ตายให้ไปเป็นนางแบบให้เขา และหลังจากนั้นเธอก็หายไปเลย
ตำรวจจึงเดินทางไปหา ลี ดองซิก ( อายุ 42 ) ช่างภาพเพื่อสอบปากคำเกี่ยวกับการเสียชีวิตของหญิงสาวบนภูเขา
พื้นเพของ ลี ดองซิก เขาเป็นเด็กกำพร้า และต่อสู้ใช้ชีวิตด้วยตัวเองมาจนอายุ 15 ปี จากนั้นก็ก่อเรื่องมากมายเพื่อเอาตัวรอดในสังคม เขาถูกจับหลังจากนั้นไม่นาน พอออกจากคุกก็ได้งานเป็นช่างประปา แต่ตอนนี้เขาเป็นช่างภาพที่มีชื่อเสียงมาก ๆ ผลงานของเขาชนะการประกวดจากหลายๆ ที่ เขามีสไตล์การถ่ายที่ดิบ เถื่อน และสดใหม่ งานที่แปลกใหม่ไม่เหมือนใครของเขาทำให้เขามีชื่อเสียงเป็นอย่างมาก
ตอนแรก ลี ดองซิก ไม่ค่อยจะยอมให้ความร่วมมือกับตำรวจสักเท่าไหร่ ถามคำตอบคำ ออกแนวไม่อยากคุย เขาบอกว่าไม่ได้เจอเธอมาสักพักแล้ว จากนั้นก็เหมือนจะไล่เจ้าหน้าที่ไป โชคดีที่ตำรวจคนนึงหัวใจ จึงแกล้งบอก ลี ดองซิก ว่า จริงๆ ที่มาก็เพราะอยากชมภาพถ่ายของเขาอย่างใกล้ชิดด้วย เพราะชื่นชมผลงานของเขามานาน พอตำรวจบอกแบบนี้ ลี ดองซิก ก็รีบชวนให้ตำรวจเข้ามาในบ้านเพื่อจะอวดภาพถ่ายต่างๆ ที่เขาถ่าย ดูเขามีความสุขมากที่มีคนเอ่ยปากชื่นชมผลงานของเขา
แต่พอลงมาตรงที่เก็บภาพถ่าย เจ้าหน้าที่ทั้งสองก็ต้องขนลุก บนราวแขวนรูป มีภาพผู้เสียชีวิตแขวนอยู่มากมาย ถึงรู้ว่าเขาเกี่ยวข้องด้วยแน่ๆ แต่เพราะไม่มีทั้งพยานและหลักฐาน ตำรวจจึงไม่สามารถทำอะไรได้ ทั้งคู่จึงต้องกลับไปทั้งๆแบบนั้น ....