ดร.คีเซนฮอฟเฟอร์ กับการแข่งจักรยานทางไกลหญิงในโตเกียวโอลิมปิก 2020

ระยะทางทั้งหมด 137 กิโลเมตร ใช้เวลาในการปั่นเกือบ 4 ชั่วโมง เจอนักปั่นบ้าพลัง 5 คนที่ปั่นฉีกหนีกลุ่มออกนำหน้าไปเพื่อบังคับกลาย ๆ ให้นักปั่นคนอื่น ๆ ต้องเร่งสปรินซ์ตามขึ้นมา ใครที่เร่งตามไม่ไหวถูกทิ้งห่างเกิน 12 นาท ก็ต้องยอมออกจากการแข่งขันไป 

รายชื่อนักปั่น 5 คนที่ปั่นฉีกหนีกลุ่มออกนำตั้งแต่ 5 กิโลเมตรแรก ได้แก่ 1. คาร์ล่า โอเบอร์เฮาเซอร์ (แอฟริกาใต้) 2. เวรา ลูเซอร์ (นามิเบีย) 3. โอเมอร์ ชาปิร่า (อิสราเอล) 4. แอนนา พลิชต้า (โปแลนด์) และ 5. ดร.คีเซนฮอฟเฟอร์ (ออสเตรีย) 

แต่พวกนักกีฬาจากชาติใหญ่ ๆ อย่างเนเธอร์แลนด์ อิตาลี หรือ สหรัฐฯ ก็ไม่ได้สนใจนัก ใครอยากจะนำก็นำไปเลย เดี๋ยวแรงก็หมดไปเอง ปั่นไปเรื่อย ๆ เกาะกลุ่มกันไปดีกว่า เก็บพลังไว้แล้วค่อยไปบดแซงท้าย ๆ เรซก็ได้ นี่คือแนวคิดของผู้เล่นระดับมือโปร ซึ่งก็เป็นตามนั้นจริง ๆ เพราะปั่นไปได้สักพัก จาก 5 คนที่พุ่งทะยานไปตอนแรก บางคนก็เหนื่อยล้าและค่อย ๆ แผ่วกันไปเอง โอบาเฮาเซอร์จากแอฟริกาใต้ และ ลูเซอร์ จากนามิเบีย หมดแรงไปก่อน เท่ากับว่าตอนนี้กลุ่มนำที่ฉีกทะยานไปตอนต้นเรซ เหลือแค่ 3 คนเท่านั้น คือนักปั่นโปแลนด์ นักปั่นอิสราเอล และ ดร.คีเซนฮอฟเฟอร์ (ออสเตรีย) 
 
การปั่นเข้าสู่ 41 กิโลเมตรสุดท้าย โปแลนด์กับอิสราเอล ก็เริ่มแรงหมด แต่ ดร.คีเซนฮอฟเฟอร์ ไม่ใช่อย่างนั้น เธอสปรินท์ลืมตาย นำโด่งไปคนเดียวจนอยู่ห่างจากคนอื่นไกลลิบ ไปคนเดียวโดด ๆ แบบโซโล่เดี่ยว ไม่สนใจใครทั้งนั้น เมื่อเข้าช่วงท้ายของเรซ นักปั่นเนเธอร์แลนด์รู้ว่าได้เวลาแล้วที่จะเร่งเครื่องบดขยี้กลุ่มที่นำอยู่ เพื่อแซงเข้าเส้นชัย การปั่นเต็มสปีดจึงเริ่มต้นขึ้น

เครดิต : https://www.facebook.com/jingjungfootball/photos/a.1763433500538559/2851915925023639?type=3&comment_id=994274978014281&notif_id=1627316093586065&notif_t=feedback_reaction_generic&ref=notif
--------------------------------------------------

คำถาม 

การแข่งครั้งนี้ ดร. คีเซนฮอฟเฟอร์ นักปั่นจากออสเตรีย เธอปั่นแบบไม่มีการออมแรง มีเท่าไหร่ใส่หมดตั้งแต่ต้นเรซ และเธอสามารถรักษาสปีดความเร็วในการปั่นจนทิ้งห่างหนีกลุ่มที่ตามหลังเธอ จนไม่มีใครสามารถเร่งตามเธอทัน เรียกว่า นำม้วนเดียวจบตลอดการปั่นเกือบ 4 ชั่วโมง เจอนักปั่นชวนทะเลาะตั้งแต่ต้นเรซแบบนี้ ถ้าคุณเป็นพวกนักกีฬาจากชาติใหญ่ ๆ อย่าง เนเธอร์แลนด์ อิตาลี หรือ สหรัฐฯ คุณจะมีวิธีแก้เกมยังไงดี

เพราะยอมปล่อยให้เธอนำไปก่อน เดี๋ยวเธอก็หมดแรงเอง แต่ผลลัพธ์ก็ปรากฏออกมาแล้วว่า เธอไม่หมดแรงง่าย ๆ ครั้นจะเร่งสปรินซ์ตามติดไม่ให้เธอฉีกหนีห่าง ก็กินแรงและต้องใช้พลังงานมากขึ้นโดยไม่จำเป็น ยิ่งถ้ามัวแต่ห่วงกลัวเธอฉีกหนีไปไกล มีเท่าไหร่ใส่หมดตามเธอ กลับเผลอไม่ทันระวังนักปั่นคนอื่น ดีไม่ดี เจอตาอยู่มาจากที่ไหนไม่รู้ที่อยู่ตามหลังเร่งแซงเข้าป้ายไปแทนก็ได้
คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 2
ตัว ของ คีเซนฮอฟเฟอร์ นั้น เป็นนักปั่นสมัครเล่นแค่บนใบสมัคร แต่การซ้อมของเธอ วินัย ความขยันหมั่นเพียร ไม่ได้ด้อยไปกว่าพวกโปรเลย

และการแข่งโอลิมปิคนั้น คือการนำนักปั่นของแต่ละประเทศที่คิดว่าดีที่สุดในประเทศตัวเองมาแข่ง ซึ่ง คีเซนฮอฟเฟอร์นั้น เป็นแชมป์เสือหมอบ ของออสเตรีย เพราะฉะนั้น ทางออสเตรียจึงส่งเธอมาเป็นตัวแทน และเธอนั้น ซ้อมด้วยตัวเองมาตลอด ไม่มีโค็ช ไม่มีทีมงาน การมาแข่งของเธอ เลยไม่มีใครสนใจเลย เพราะสำหรับออสเตรียแล้ว ก็ไม่ได้มีนักกีฬาจักรยานที่โด่งดังอะไร

พอไม่มีใครสนใจ ทั้งสื่อทั้งนักกีฬา การที่เธอยิงเบรคอเวย์ออกไปทันทีที่การแข่งขันเริ่ม ทีมใหญ่ๆเลยไม่คิดไล่เก็บ เพราะคิดว่าเดี๋ยวเธอคงหมดแรงไปเอง ตามปรกติของกลุ่มเบรคอเวย์ และนักปั่นที่ไม่ได้มีดีกรีระดับอาชีพ

แต่เพราะเธอซ้อมหนัก และเตรียมตัวสำหรับการมาแข่งโอลิมปิคอย่างดี เลือกที่ซ้อมที่สภาพความชันใกล้เคียงกับสนามแข่ง คำนวน น้ำหนัก แรง(เธอเขียนไว้ใน IG) เรียกว่าเพราะความเป็น โปรเฟสเซอร์ทางคณิตศาสตร์เธอเลยคำนวนทุกอย่างได้

และเหมือนคนในกลุ่ม Bianchi เขียนไว้ เพราะความที่ไม่ได้เป็น Pro เธอเลยสามารถซ้อมได้ตามใจ ไม่ต้องไปตระเวนแข่งเก็บคะแนนเหมือนโปร รวมถึงรถที่ใช้อะไหล่ผสมและจัดตามใจได้ เพราะไม่ต้องง้อสปอนเซอร์ ขอแค่ถูกกฎของการแข่งเป็นพอ

และเช่นกัน ด้วยการแข่งระดับมือสมัครเล่น เธอเลยชินกับการแข่งที่ไม่มีวิทยุสื่อสาร ไม่มีทีมซัพพอร์ท ไม่มีผู้จัดการทีมคอยมานั่งบอกตำแหน่งของเธอ หรือคู่แข่ง ไม่เหมือนสนามพวกโปรที่มีครบ พอมาแข่งโอลิมปิคที่ถูกตัดสิ่งเหล่านี้ออก ทีม เนเธอร์แลนด์เลยพลาดแบบไม่น่าเชื่อ คือ ไม่คิดว่า ยังมีคนอยู่หน้าพวกเธออีกหนึ่งคน ซึ่งตรงนี้ ยังเป็นประเด็นให้ถกเถียงกันว่า พลาดขนาดนี้ได้ยังไง

ถ้าถามว่า ทีมใหญ่ๆ มองเธอเป็นตัวเต็งแต่ต้น การแข่งก็จะเหมือน ตรูเดอฟรองค์ช่วง แวนเดอโพล ได้เสื้อเหลืองอ่ะครับ คือต้องส่งพวกเทพๆมาตามประกบ เบรคอเวย์ออกไปด้วย เพื่อคุมเกม แน่นอนว่า ทำได้อยู่แล้วครับ ถ้าเล่นเกมแบบนี้ ความต่างของโปร กับ ไม่โปรจะชัดเจน เพราะมันจะวัดกันที่การคุมเกมเพิ่มมาด้วย ไม่ใช่แค่แรงและรอบขา

แต่เพราะ ไม่มีใครคิดว่า เธอจะแรงดีไม่มีตก และด้วยความ วินัย ฝึกซ้อม จนคำว่า สมัครเล่นและมืออาชีพ เป็นแค่เรื่องบนหน้ากระดาษ ทำให้ได้เหรียญทองที่เป็นที่จดจำอีกเหรียญในประวัติศาสตร์โอลิมปิค
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่