ยุคโควิด สถานการณ์ไม่เป็นใจ สภาพจิตใจย่ำแย่ ดรอปเรียนดีมั้ย

ค่ะตามหัวข้อเลยค่ะ อย่างที่รู้ๆเลยนะคะว่าสถานการณ์ตอนนี้ทำให้เราต้องมานั่งเรียนออนไลน์แล้วไม่รู้เรื่อง เชื่อว่าหลายคนเป็นแบบนั้นค่ะ เลยคิดว่าควรจะดรอปเรียนดีมั้ย สภาพตอนนี้คือเละไปหมดแล้วค่ะสภาพจิตใจก็แย่พอแล้ว แต่ใจก็คิดว่าควรทนๆเรียนให้จบไป เพราะความคิดที่ว่าการดรอปเรียนมันจะทำให้พ่อแม่เป็นห่วงเรื่องนี้รึป่าว ท้อมากค่ะแล้วถ้าดรอปพ่อแม่ก็จะบอกให้ทนๆเรียนไปจะจบแล้ว😂 ชีวิตเด็กคนนึงต้องไม่ควรทนเรียนต่อไปเพราะใจมันไม่ไปแล้วมั้ยคะสถานการณ์ตอนนี้มันแย่ลงทุกวัน ถ้ารัฐบาลจัดหาวัคซีนดีๆมาฉีดให้พวกเราได้ไวกว่านี้ เราคงได้ไปใช้ชีวิตวัยรุ่น เรียนและเล่นได้อย่างเต็มที่แล้วมั้ยคะ เราสับสนตัวเองมากๆเลยค่ะ อยากดรอปเรียนไว้แต่ใจก็ไม่อยากจบช้ากว่าคนอื่นค่ะ มันฝืนต่อไปก็คงจะเท่านั้น ถ้าเทอมหน้ายังจัดการกันไม่ได้ควรพิจารณาประกาศปิดสถานศึกษาไม่เอาแล้วเรียนออนไลน์ให้เด็กไม่เครียดไปกว่านี้มั้ยคะ เข้าใจการทำแบบนั้นมันอาจจะมีปัญหาด้านต่างๆตามมาซึ่งเราก็ไม่รู้ค่ะว่าจะเกิดอะไรบ้าง แต่จากที่เห็นส่วนใหญ่คือไม่ไหวกับการเรียนออนไลน์แล้วจริงค่ะ พวกเราควรได้กลับมาเรียนในห้องได้แล้ว

คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 9
เราเป็นdek64 ดรอปมาตอนจะสอบไฟนอลเทอม1ค่ะะ ก่อนดรอปมีแต่คนพูดว่าอีกปีเดียวเองทำไมไม่อดทนหน่อย เราฝืนเรียนจนถึงช่วงเดือนกันยาค่ะ ตอนนั้นคือสภาพจิตใจย่ำแย่มากแต่ก็ฝืนเรียนไปเรื่อยๆ จนช่วงปลายเดือนกันยา วันเกิดเราพอดีเลยค่ะ คืนนั้นเราอยู่หอไม่ได้กลับบ้านเพราะวันพรุ่งนี้เทสย่อยชีวะเลยจะอยู่อ่านหนังสือ จู่ๆคืนนั้นเราเหม่ออะไรไม่รู้ค่ะ รู้ตัวอีกทีเราเอาสายไฟมาผูกคออยู่ตรงระเบียงหอ คือตอนทำไม่รู้ตัวเลยค่ะ ไม่รู้จริงๆ รู้ตัวอีกทีคือห้อยอยู่แล้วอะค่ะ วินาทีนั้นเราหายใจไม่ออกแล้ว เราดิ้นถีบเท้าสุดชีวิตเลยค่ะ คือเราไม่เคยคิดอยากฆ่าตัวตายเลยนะคะ พอหลุดลงมาได้เราตกใจร้องไห้โฮเลยค่ะ รีบโทรให้แม่มารับตอนห้าทุ่มเลย วันต่อมาไปแผนกฉุกเฉินจิตเวชก็ตรวจพบว่าเป็นโรคซึมเศร้าและแพนิค หลังจากวันนั้นเรายังไม่ดรอปค่ะเราทนเรียนต่อ! ภายใน1เดือนหลังจากวันนั้นเราพยายามฆ่าตัวตายอีก2รอบจนหมอบังคับแอดมิดโรคซึมเศร้า15วันเลยค่ะ ตอนนั้นเลยคิดแล้วว่ามันคุ้มแล้วหรอกับการที่เราเอาสุขภาพจิตเรามาแลก แบบนี้นี่เองที่เรียกว่าการศึกษาฆ่าฉัน.. เราเลยตัดสินใจดรอปค่ะ ใครจะพูดยังไงก็ให้มันพูดไปเพราะคนเรียนมันคือตัวเราเอง ถ้าย้อนเวลากลับไปได้เราจะรีบดรอปให้เร็วกว่านี้ด้วยซ้ำค่ะ เพื่อนเราหลายคนไปตรวจเจออาการทางจิตต่างๆ บางคนหูแว่ว บางคนเห็นภาพหลอน น่ากลัวไม่แพ้กันทุกคนเลยค่ะ คนไม่ได้มาเรียนเองในยุคนี้ไม่เข้าใจหรอกค่ะว่าเด็กรุ่นเรากว่ามันจะจบกว่ามันจะผ่านไปได้ด้วยดี พวกเราต้องขายวิญญาณให้การศึกษา

เวลาแค่1ปี ดรอปไปไม่เป็นไรหรอกค่ะ ระหว่างนั้นเราได้เตรียมอ่านหนังสือด้วยเนอะ ตอนแรกเราก็กังวลว่าเราจะดรอปอยู่คนเดียวมั้ย สรุปผ่านไปซักพักเพื่อนรุ่นเราค่อยๆดรอปกันทีละคนเลยค่ะ ตัวเราเรียนอยู่วิทย์คณิตรร.top5 ของประเทศ เพื่อนในห้องเรายังดรอปกันจนจาก46คนเหลือ25คนเองค่ะ เดี๋ยวนี้เรื่องดรอปเรื่องซิ่วไม่ใช่เรื่องแปลกเลย ลองปรึกษาที่บ้านและวางแผนดูค่ะว่าช่วงดรอปจะทำอะไรบ้าง เรียนพิเศษอะไรบ้างเนอะ สู้ๆนะคะมันจะผ่านไปน้า❤️
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่