กลิ่นแรกนะคะ English pear & freesia จะเป็นกลิ่นยอดนิยมที่ใครไปร้าน Jomalone ต้องได้กลิ่นนี้ติดไม้ติดมือกลับมานะคะ มันคือกลิ่นลูกแพรมีความเปรี้ยวเล็กๆ ตามด้วยกลิ่นดอกไม้หวานหน่อยๆ มีความเย็นมีความสดชื่น เพราะมีกลิ่นพิมเสนนิดนิดให้ลุกแพงเหมือนเราเป็นลูกคุณหนูทำธุรกิจส่วนตัว(อายุน้อยร้อยล้าน) กำลังเดินบันไดวนแพงๆ ลงมาจากบ้านใส่เสื้อแบรนด์เนมใช้กระเป๋าแบรนด์เนมไรงี้เลย ตัวนี้ทรายให้ 5 ดาวเลยนะคะเพราะว่าเป็นกลิ่นที่ฟุ้งกระจายได้ดีรู้สึกคุ้มค่าในการใช้งานมาก 

กลิ่นถัดมากลิ่น Peony & Blush suede ตัวนี้นี้จะให้ความหอมหวานละมุนของกลิ่นดอกโบตั๋นแต่มันไม่เลี่ยนนะคะ เพราะตัดด้วยกลิ่นหนังกลับเบาๆ ให้ความรู้สึกอบอุ่นดูน่าทะนุถนอมฟิลเจ้าหญิงดิสนีย์แต่อยากได้มีความเท่แบบการ์ตูนดิสนี่ย์มู่หลาน คือแกร่ง เท่ อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ ใครเป็นลุคสไตล์นี้แนะนำค่ะ ส่วนกลิ่นนี้ทรายให้ 5 ดาวเหมือนกันนะคะ เพราะว่าโดยส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบกลิ่นหวานๆ อบอุ่นๆ

กลิ่นถัดมา Lime basil & Mandarin ไม่ค่อยได้กลิ่นนี้จากที่ไหนนะคะตอนที่ไปดมครั้งแรกก็ไม่คิดว่าจะชอบแต่พอเราเอากลับมาเนี่ยมันให้ความรู้สึกว่ามันหอมสดชื่นกลิ่นแรกที่ได้สัมผัสจะเป็นกลิ่นส้มแมนดาริน แล้วมันก็ตามด้วยใบโหระพานอก (ไม่ใช่โหรภาไทยนะคะ) ให้ความรู้สึกแบบเหมือนเรากำลังนั่งอยู่ในร้านชาวเม็กซิกันเม็กซิโก ละตินๆ ได้ยินเสียงเครื่องสายดีดจังหวะละติน อเมริกาชายฝั่งไมอามี่มีกลิ่นพันธ์ไม้หอมเล็กๆ คือถ้าใครเป็นสไตล์เม็กซิโกปัวโตริโก้เปรูแนะนำเลยค่ะ ให้ 4 ดาวพอตัวนี้เพราะว่าดมไปนานๆ ก็รู้สึกมึนนิดๆ

กลิ่น Pomegranate noir ความทับทิมจะให้ความหวานเป็นทับทิมเบาๆ แต่มันจะมีปลายฉุนนิดๆ มีความเผ็ดเล็กน้อยแล้วก็มีดอกลิลลี่ตบท้ายพร้อมกับเนื้อไม้เข้ามาผสมนะคะ เวลาดมให้ความรู้สึกเหมือนสาววัยกร้านชีวิตมีความยั่วยวนน่าหลงใหลแต่ส่วนตัวรู้สึกว่าแอบฉุนไปนิดนึงเลยลดดาวให้เหลือแค่ 2 ดาวพอ

Red rose กลิ่นนี้มันจะมีความเปรี้ยวซีทรัสเล็กๆ (น้อยมากกกกแทบไม่รู้สึก) แต่ว่าตามด้วยกลิ่นกุหลาบที่มันเป็นกุหลาบสดๆ จริงๆ มันไม่ใช่กุหลาบแห้งหรือกุหลาบสังเคราะห์ เหมือนเวลาเราได้ช่อดอกกุหลาบช่อใหญ่ หรือว่าเหมือนเราไปเดินตามปากคลองตลาดช่วงเทศกาลวาเลนไทน์จะได้กลิ่นกุหลาบแบบนี้อบอวล มันจะไม่ได้แบบเป็นกุหลาบแบบที่เราเคยได้กลิ่นทั่วไปแน่นอน ไม่บาดคอนะเลยค่ะ ให้ 3 ดาวค่ะส่วนตัวคิดว่ากุหลาบอาจจะไม่ใช่ทางเราเท่าไหร่ แต่ถ้าใครเป็นคนที่หลงใหลในกุหลาบบอกเลยกลิ่นนี้ตาย^^

---

Karmakamet : 200 ml. : 990-1,590 บาท (ลด 5% เมื่อกดรับ Line คูปอง)

     ร้านถัดมานะคะ Karmakamet ร้านนี้ทรายคิดว่าเป็นร้านที่อยู่ในใจใครหลายหลายคน ทรายเชื่อว่าน่าจะเคยได้ไปทดลองพิสูจน์กลิ่นหรือลองซื้อผลิตภัณฑ์ต่างๆ ที่ร้านนี้มาแล้วนะคะโดยเบื้องต้นทางร้านเนี่ยจะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นสไตล์ร้านอินเดียบวกกับสไตล์ร้านยาจีนเบาๆ จะมีความเอเชียจ๋าๆ รู้สึกว่าเหมือนเราอยู่ในร้านยาจีนโบราณ

กลิ่นแรกกลิ่น Joy นะคะกลิ่นนี้เนี่ยจะให้ความรู้สึกเย็นฟิลพิมเสนกับดอกเจอราเนียม เหมือนมีกลิ่นของตะไคร่เบาๆ เพิ่มความสดชื่นด้วยดอกลาเวนเดอร์ปลายๆ ตอนที่ใช้รู้สึกผ่อนคลายมากๆ ยิ่งส่วนตัวเป็นคนที่ชอบความรู้สึกสดชื่นรีแล็กซ์อยู่แล้วบอกเลยว่าตัวนี้เหมาะมาก ทรายให้ 4 ดาวนะคะเพราะว่าชอบความสดชื่นของเค้าจริงๆ

กลิ่น Midnight ใครที่เคยกินขนมเปลือกส้มบ๊วยซองบอกเลยว่าตัวนี้คล้ายมากแต่มันจะสดชื่นกว่ามันจะมีความเย็นๆแบบแป้งอังกฤษตรางูเย็นสุดขั้วถ้าใครเปิดแอร์ 25 องศาแล้วใช้กลิ่นนี้เข้าไปบอกเลยว่าจะเย็นจะรู้สึกเหมือนแค่ 15 องศา กลิ่นนี้อาจจะฉุนไปนิดให้ 3 ดาวพอค่ะ

กลิ่น Red tea มันเป็นกลิ่นชาแดงแต่พอเราดมเข้าไปมันจะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นชาที่ผสมดอกไม้แห้งคล้ายๆกุหลาบนะคะแต่ก็ไม่ใช่ซะทีเดียวให้ความรู้สึกร้อนนิดนิดให้ฟิวเหมือนเราเป็นกษัตริย์อยู่ในราชวงศ์ถัง แห่งเมืองมังกร จิบชาโบราณเพื่อคุยงานกับราชองครักษ์เบาเบา ดมแล้วรู้สึกสงบให้ 5 ดาวไปเลยค่ะกลิ่นนี้

กลิ่น Night Lotus มันจะมีความหอมของดอกบัวโบราณนะคะมีความหวานฉุนนิดๆ ที่ปลายกลิ่น มีความฉ่ำด้วยดอกไม้มากๆ คือถ้าเกิดดมแล้วเนี่ยรู้สึกว่าเหมือนเราเกิดอยู่ในตระกูลที่มีความใจบุญสุนทานตื่นเช้ามาตอนตีสี่ต้องช่วยเอาดอกบัวมาพับกรีบไปถวายวัดไทยแถวบ้านให้ 3 ดาวนะคะเพราะว่ามันจะเป็นกลิ่นที่ชวนให้นึกถึงคุณย่าคุณยายเล็กๆ

กลิ่น Sea weed กลิ่นหญ้าทะเลมันจะมีความแหลมนิดๆ เหมือนเป็นกลิ่นดอกไม้ทะเลเย็นๆ สดชื่นแต่มันไม่เลี่ยนนะ เบาเบาสบายเหมือนอยู่บ้านพักตากอากาศเปิดหน้าต่างมาเจอลมทะเลมีความพูลวิลล่ามีชีวิตชีวาสดชื่นสดใสกลิ่นนี้ทรายให้ 3 ดาวนะคะเพราะว่าเป็นกลิ่นที่คนรอบตัวชอบหมดแต่ส่วนตัวคิดว่ามันแหลมนิดนึง

กลิ่น Moon light นะคะจะมีความหวานจากพันธ์ุไม้ลึกลับผสมกลิ่นลาเวนเดอร์กุหลาบเจเนี่ยมดอกกระดังงาอบอวลไปด้วยกลิ่นหอมยาวยวนของดอกไม้คือถ้าเกิดใครที่ได้ใช้กลิ่นนี้ก็จะให้ความรู้สึกว่าเหมือนคุณถูกต้องมนต์สะกดในค่ำคืนแห่งแสงจันทร์เหมาะกับคนที่มีโลกส่วนตัวสูงแล้วก็อยากจะขังใครคนใดคนหนึ่งไว้ในห้องนอน ให้ 4 ดาวเลยเพราะว่าเป็นสายชอบความหวานๆ

กลิ่น Orange blossom เป็นกลิ่นดอกส้มมีความหวานแต่ว่ามีความฉุนเล็กๆเหมือนฉุนกลิ่นส้มค่ะให้ความรู้สึกสดชื่นผ่อนคลายแต่มันก็ไม่หวานเกินไปมีกลิ่นส้มปลายๆให้ฟิวลูกสาวเจ้าพ่ออยู่เซี่ยงไฮ้ เป็นลูกคุณหนูเอาแต่ใจมีบอดี้การ์ดเดินตามหลัง มีเสน่ห์ ฟิวๆ อาหงษ์ในหงษ์เหนือมังกรงี้ ให้ 5 ดาวเพราะรู้สึกว่าเป็นกลิ่นที่บอกตัวตนของร้านได้ดีคือเป็นทายาทตระกูลจีนอะไรแบบนี้ค่ะ

กลิ่น white tea กลิ่นชาขาวบริสุทธิ์ให้ความหอมเหมือนอยู่ในดงชา เย็นๆ มีความสะอาดสะอาด คลีนๆ เหมือนผ้าที่เพิ่งซักออกมาใหม่ เหมือนมีเป็นนักศึกษาแพทย์อะไรก็ดูสะอาดตาไปหมดใครบ้านรกแล้วอยากให้บ้านมินิมอล์แนะนำค่ะ ให้ 3 ดาวค่ะ ส่วนตัวรู้สึกว่าเป็นกลิ่นที่หอมแต่ฟุ้งไม่แรงมากคือปักไว้ในห้องเล็กๆ จะเหมาะกว่า

กลิ่น mimosa จะเป็นความหวานจากกลิ่นดอกมิโมซ่ามากๆ มันจะให้ความรู้สึกเหมือนเป็นกลิ่นแป้งเด็กเบาเบา สดชื่นเหมือนเป็นสาวโรมันยุคกรีกกำลังเดินเก็บดอกไม้เพื่อจะเอาไปตกแต่งประดับประดาในเมืองอะไรประมาณนี้นะคะ ให้ 4 ดาว (บอกแล้วค่ะสายหวานๆ สายดอกไม้)

สุดท้ายกลิ่น Pomegranate ทับทิมอันนี้จะไม่เหมือนกับทับทิมของโจมาโลนเนอะแต่มันจะเป็นกลิ่นทับทิมแห้งๆ มันไม่บาดจมูก จริงๆ กลิ่นมันก็ไม่ค่อยชัดนะคะ เหมาะกับคนที่อยากจะมีน้ำหอมแต่ก็ไม่อยากให้กลิ่นมันแรง ดมครั้งแรกเรานึกถึงคุณครูเราในสมัยอดีตเลย เป็นคุณครูที่ใส่ชุดสีโทนมืดๆ แซมด้วยผ้าลูกไม้สีดำดูเป็นคนลึกลับให้ความรู้สึกน่าค้นหา ให้ 3 ดาวเพราะเป็นคนชอบกลิ่นที่ฟุ้งแรงๆ แต่แม่ที่เป็นคนแพ้น้ำหอมแกบอกว่ากลิ่นนี้สเป็กมากๆ ไม่เวียนหัวเลย

---

บ้านหอมฟุ้ง : 150 ml. : 380 บาท (3ขวด 1,000 สะสม 10 ขวดรับฟรี 1 ขวด)

สุดท้ายร้านบ้านหอมฟุ้งร้านนี้จะบอกว่าเราบังเอิญไปเจอที่ห้างแถวบ้านแล้วเราก็ได้กลิ่นน้ำหอมมาจากร้านเค้าเลยลองแวะมาดมดูกลิ่นเค้ามีให้เลือกเยอะมาก 40-50 กลิ่นแล้วส่วนใหญ่ก็เป็นกลิ่นสไตล์พันธ์ไม้ไทยๆ ด้วย ประกอบกับราคาที่บอกเลยว่าถูกมากจริงๆ ค่ะ เลยลองซื้อมาใช้และหลังจากใช้เรารู้สึกว่ามันโอเคมากเลย น้ำหอมความฟุ้งกระจายใดๆ คือดีมาก ไม่แพ้สองร้านแรกก็เลยคิดว่าอยากรีวิวสินค้าแบรนด์คนไทยดูค่ะ

กลิ่น Moke & Mint กลิ่นโมกและมิ้นท์กลิ่นนี้จะบอกว่าเหมาะกับคนที่ชอบความหอมของพืชพรรณดอกไม้ไทยเช่นกลิ่นโมก กลิ่นกระดังงา กลิ่นอะไรประมาณนี้น่ะแล้วมันก็จะมีความสดชื่นเบาเบาจากมิ้นท์ ทำให้เหมือนหลุดเข้าไปในทวิภพแบบมณีจันทร์เหมือนเป็นคนที่อ่านหนังสือนิตยสารแพรวกับฮาร์เปอร์บาซาร์ไปด้วยเบาเบา ให้ 4 ดาวค่ะ เพราะว่ากลิ่นโมกเป็นกลิ่นที่ชอบมาก

กลิ่น True love นะคะจะเป็นกลิ่นหวานอมเปรี้ยวเล็กๆไม่เลี่ยนมีความละมุนเบาๆ ให้ความรู้สึกโรแมนติกมากๆ เหมือนฟิวแจ๊คกับโรสที่ท้ายเรือไททานิคมีความwil; u marry me โรแมนติก รู้สึกถึงเดทแรกใครที่อยากให้ห้องอบอวลไปด้วยกลิ่นความหอมหวานอมเปรี้ยวนะคะบอกเลยว่าเหมาะมากๆ ให้ 5 ดาวไปเลยค่ะเพราะกลิ่นนี้หอมมากๆ สดชื่นมากๆ

กลิ่น Rainbow กลิ่นนี้บอกเลยว่ามันหวานแบบหวานงานน้ำตาลมิตรผลวังขนายน้ำตาลทรายปี๊บมันมีความรู้สึกเหมือนเราอยู่ท่ามกลางร้านคาเฟ่ที่อบอวลไปด้วยกลิ่นมาการอง เอแคร์ กลิ่นอะลัวแต่มันไม่ใช่กลิ่นของวนิลานะคะ มันจะมีความหวานหอมของคาราเมลอะไรประมาณนี้ฟิวเหมือน ceo ร้านคาเฟ่เกาหลีกลับมาดูแลกิจการ ให้ 4 ดาวค่ะ เป็นคนชอบหวานๆ ชอบให้รู้สึกเหมือนมดจะขึ้นห้องตลอดเวลา

กลิ่น Lavender ลาเวนเดอร์ เหมือนเราอยู่ดงลาเวนเดอร์บอกเลยเหมาะกับบ้านที่มีพื้นที่ขนาดใหญ่ แต่อยากให้กลิ่นมันหอมสะพัดทั่วห้อง ถ้ามีบ้านสามชั้นน่ะบอกเลยว่าปักก้านจากชั้นหนึ่งขึ้นไปชั้นสามแน่นอนมันเหมือนเรากำลังเที่ยวอยู่ในสวนดอกไม้เป็นฟิวกำลังวิ่งเล่นทุ่งลาเวนเดอร์แล้วมีคนถ่ายรูปเหมือนเราขณะวิ่งๆ ไรงี้ ให้ 4 ดาวค่ะ ใครที่บอกว่าห้องฉันไม่มีกลิ่นไหนเอาอยู่ได้เลยบอกเลยตัวนี้กลิ่นแรงงงง จริงๆ

Black forrest กลิ่นหอมเท่แต่ว่าตัดหวานนิดๆ นะคะคล้ายกลิ่นกายของ Taylor Swift มันไม่มีความเลี่ยนเลย แต่จะให้ความรู้สึกเหมือนผู้ชายที่กลับมาจาก
ต่างประเทศ ฟิวเพิ่งเรียนจบ แล้วอยู่ในบ้านที่มองออกไปนอกหน้าต่างมีหิมะเรากำลังนั่งอยู่เตาผิงมีความวินเทอร์เล็กๆ ให้ 5 ดาวเป็นกลิ่นที่ใช้แล้วพอหมดแล้วกลิ่นน้องก็ยังติดห้องอยู่เฮี้ยนจริงๆ ค่ะ ชอบมากๆ

กลิ่น Aloe vera อาโรเวล่านะคะกลิ่นนี้ก็จะให้ความสดชื่นมันมีความธรรมชาติมากๆ รู้สึกเหมือนเราอยู่ท่ามกลางสวนพฤกษชาติใครที่อยากให้ห้องมีความรู้สึกธรรมชาติเหมือนมีป่าอเมซอนอยู่กลางบ้าน วิวเห็นสายธารและแม่น้ำแน่ อะไรงี้ไหลผ่านไหล่เขาลำเนาไพรแนะนำค่ะ ให้ 4 ดาวค่ะสดชื่นมากใช้แล้วเหมือนเปลี่ยนฟิวห้องให้เป็นโทนอเมซอนเบาๆ