JJNY : ครอบครัวติดโควิด แม่สิ้นใจตายต่อหน้า│หมอหม่องถามไฟเซอร์3แสนโดสหาย│#ขอซิโนแว็คให้กองทัพ│แท็กซี่โอดโควิดฉุดรายได้

หนุ่มสุดเศร้า 5 ชีวิตในครอบครัวติดโควิด แม่สิ้นใจตายต่อหน้า
https://www.thairath.co.th/news/local/bangkok/2148406 
 
 
หนุ่มสุดเศร้า 5 ชีวิตในครอบครัวติดโควิด-19 โรงพยาบาลปฏิเสธรักษา แม่สิ้นใจตายต่อหน้าที่บ้าน บอกมันจุกอยู่ในอก ที่ช่วยไม่ได้ ตอนนี้ห่วงพ่อ มีโรคประจำตัว
 
จากกรณีช่วงค่ำวานนี้ ทีมงานสายไหมต้องรอด พร้อม อปพร.สายไหม เข้าช่วยเหลือหญิงวัย 54 ปี ที่มีอาการหายใจไม่ออก เลือดออกจากปาก อ่อนเพลีย หายใจหอบเหนื่อย และมีโรคประจำตัวคือไทรอยด์ พักในหมู่บ้านแห่งหนึ่ง แต่สุดท้ายยื้อชีวิตไว้ไม่ทัน เสียชีวิตต่อหน้าลูกชายและคนในครอบครัว
 
ความคืบหน้าในช่วงเช้าที่ผ่านมา ชุดเฉพาะกิจโควิด-19 ของมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ได้นำร่างผู้เสียชีวิตไปทำการฌาปนกิจที่วัดเกาะ สุวรรณาราม โดยทันที เนื่องจากการสอบสวนโรคพบว่าเป็นผู้ป่วยติดเชื้อโควิด ทั้งนี้ ภายในบ้านพักยังคงมีผู้ที่พักอาศัยอยู่อีก 4 คนที่ยังรอการช่วยเหลือพาไปรักษาตัวอยู่
 
ลูกชายผู้เสียชีวิต เล่าว่า ครอบครัวตนไปตรวจหาเชื้อที่ รพ. และผลออกมาวันที่ 18 ก.ค.ที่ผ่านมาว่า คนในครอบครัวติดเชื้อโควิดประกอบด้วย พ่อ, แม่, ภรรยาของตน, ลูกชายคนเล็กวัย 3 ขวบครึ่ง และคนกลางวัย 8 ขวบ ส่วนตนและลูกชายคนโตไม่พบเชื้อ
 
หลังจากตรวจมาก็กลับมาบ้าน อาการของแม่ปกติดี แต่พ่ออาการไม่ค่อยดี จนเมื่อวานแม่มีอาการทรุดหนัก หายใจไม่ออก แน่นหน้าอก มีเลือดออกที่ปาก จึงโทรเบอร์ 191 ซึ่งไปติดส่วนกลาง ก่อนเจ้าหน้าที่ประสานต่อไปยัง อปพร.สายไหม จังหวะนั้นทางทีมสายไหมต้องรอด ทราบเรื่อง ทีมงานจึงนำออกซิเจนมาให้การช่วยเหลือ ระหว่างนั้น นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ ผู้ช่วย ส.ส.เขตสายไหม ได้ประสานงานไปยังโรงพยาบาล แต่ถูกปฏิเสธ ก่อนที่แม่จะอาการทรุดอีกครั้งช่วงประมาณ 5 ทุ่ม และสิ้นลมไปต่อหน้า
 
ลูกชายผู้ตาย เผยต่อว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นบั่นทอนจิตใจตนมาก ไม่มีหน่วยงานไหนที่จะช่วยแม่ได้ ขนาดโรงพยาบาลยังปฏิเสธ อย่างน้อยถ้ารับแม่ไป แล้วเสียที่โรงพยาบาล ตนยังจะไม่เสียใจแบบนี้ ติดต่อที่ไหนก็ไม่มีใครรับ ตอนนั้นพูดไม่ออก มันจุกอยู่ในอกที่เห็นแม่สิ้นใจไปต่อหน้าต่อตา ตอนนี้เป็นห่วงพ่อซึ่งป่วยเป็นไทรอยด์ ความดัน เส้นเลือดในสมองตีบ อาการจะแย่ลง อยากให้ได้ไปรักษาที่โรงพยาบาลมากกว่า ซึ่งคนที่อยู่ก็ต้องรอการรับตัวไปรักษาต่อไป.

 
'หมอหม่อง' ตั้งคำถาม ไฟเซอร์ 3 แสนโดส ที่จะฉีดให้บุคลากรแพทย์ด่านหน้าหายไปไหน
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6527169
 
‘หมอหม่อง’ ตั้งคำถาม ไฟเซอร์ 3 แสนโดส ที่จะฉีดให้บุคลากรแพทย์ด่านหน้าหายไปไหน หวั่น ไปอยู่ที่แขน เหล่าวีไอพี และบรรดาเครือญาติ 
   
นพ.รังสฤษฎ์ กาญจนะวณิชย์ หรือ หมอหม่อง อาจารย์แพทย์โรคหัวใจ ภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ โพสต์ข้อความตั้งคำถามผ่านทางเฟซบุ๊ก Rungsrit Kanjanavanit ความว่า
 
เดิมวัคซีน Pfizer ที่ได้รับบริจาคจาก สหรัฐฯ 1.5 ล้านโดส จะมาถึง 29 กค.นี้ จัดสรรโควต้าสำหรับ บุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า 500,000 โดส (ทีแรกสุด บอกว่า 700,000)
 
เมื่อเช้า ทราบว่า ที่ประชุม จัดสรร เหลือ 200,000 โดส ผมอยากทราบว่า 300,000 โดส หายไปไหนถ้าไปถูกที่ถูกทาง ให้แก่ประชาชนผู้เปราะบางในพื้นที่เสี่ยงสูง ผมจะดีใจมากๆ
 
(เพราะจริงๆ หากมี criteria ชัดเจนสำหรับด่านหน้า ที่ high risk มากๆและน้องๆแพทย์พยาบาลที่ต้องตรวจคนไข้เป็นจำนวนมากต่อวันจำนวน 200,000 นี้ อาจจะพอ ?)
 
(ส่วนตัว อาจารย์หมอหัวใจอย่างผมถือว่า ความเสี่ยงปานกลาง จะไม่ขอรับเข็มกระตุ้นตอนนี้ ขออยู่กับภูมิต่ำเตี้ย แบบนี้ไปก่อน จนกว่า มีวัคซีนเพียงพอ)
แต่ ถ้า 300,000 โดสที่หายไป ไปอยู่ที่แขน เหล่า VIP และเครือญาติ ผมไม่ โอ ครับ
 
https://www.facebook.com/rungsrit.kanjanavanit/posts/10209187395038374
 

 
ชาวทวิตรวมใจ ติด #ขอซิโนแว็คให้กองทัพ เข้าใจทหารมีหน้าที่สำคัญ ควรได้รับวัคซีนที่ดีที่สุด
https://www.matichon.co.th/social/news_2846381
 
ชาวทวิตรวมใจ ติด #ขอซิโนแว็คให้กองทัพ เข้าใจทหารมีหน้าที่สำคัญ ควรได้รับวัคซีนที่ดีที่สุด
 
จากกรณีที่ โลกออนไลน์ได้มีการเผยแพร่หนังสือเอกสารราชการ จากกองพิธีการ กรมสารบรรณทหาร ถึงเลขาธิการสภากาชาดไทย เพื่อขอรับสนับสนุนวัคซีน โมเดอร์นา ฉีดให้กับกำลังพล เพื่อลดความเสี่ยงในการแพร่ระบาดของโรค ให้กับกำลังพลและครอบครัว
 
กระทั่ง วานนี้ (23 กรกฎาคม) พล.ต.ธีรพงศ์ ปัทมสิงห์ ณ อยุธยา รองโฆษกกองบัญชาการกองทัพไทย ได้ออกมากล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า ผู้อำนวยการกองพิธีการ กรมสารบรรณทหาร ทำหนังสือเพื่อขอรับวัคซีนจริง เป็นการกระทำโดยพลการ โดยไม่ได้รับมอบอำนาจจากผู้บัญชาการทหารสูงสุด จึงไม่เป็นหนังสือที่ถูกต้อง และ กองบัญชาการกองทัพไทย ได้พิจารณาลงโทษทางวินัยแก่กำลังพลดังกล่าว
 
ล่าสุด เช้าวันนี้ (24 กรกฎาคม) ทวิตเตอร์ได้ผุดเทรนด์ #ขอซิโนแว็คให้กองทัพ จนกระทั่งถึงอันดับ 2 ของทวิตเตอร์ไทย โดยหลายคน ต่างแสดงความคิดเห็นหลากหลาย บางรายถามถึงความเหมาะสมของการขอรับวัคซีนโมเดอร์นา ทั้งที่ประชาชนจำนวนมากที่จองผ่านโรงพยาบาลเอกชนถูกคืนเงิน อีกทั้ง ประชาชนกว่าครึ่งประเทศ ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มแรก
 
มากไปกว่านั้น หลายคนยังบอกว่า ซิโนแวคนั้น มีประสิทธิภาพที่ดี จึงอยากให้ทหาร ได้ฉีดซิโนแวค อย่างทั่วหน้า โดยไม่จำกัดว่าอยากฉีดกี่เข็ม
พร้อมกันนี้ ยังได้แชร์ภาพ “เรารักเหล่าทัพไทย” และกล่าวสนับสนุนโครงการ ขอซิโนแวคให้ทหาร อีกด้วย
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่