JJNY : 4in1 หน.พยาบาลเสียใจ ลูกน้องติดเชื้อทุกวัน│สื่อนอกตีข่าว ไทยกลับลำ│ยายเฝ้าตา หลังติดโควิดทั้งคู่│ศก.เสี่ยงติดลบ

หัวหน้าพยาบาลเสียใจ ลูกน้องติดเชื้อทุกวัน
https://www.pptvhd36.com/news/สุขภาพ/152352
 

 
หัวหน้าพยาบาลเสียใจ ลูกน้องติดเชื้อทุกวัน
 
หลังกลุ่มพยาบาลวิชาชีพ โรงพยาบาลรามาธิบดี ออกแถลงการณ์แสดงจุดยืน ให้เร่งจัดหาวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง ให้กับบุคลากรทางการแพทย์ด่านหน้า ล่าสุด หัวหน้าพยาบาลยอมรับและเข้าใจแถลงการณ์ และยืนยันว่า ที่ผ่านมาพยายามทำความเข้าใจกับลูกทีมทุกคนให้ทำหน้าที่ให้ดีที่สุด
 
ความในใจของนางสาววรรณา คงวิเวกขจรกิจ หัวหน้าฝ่ายพยาบาล โรงพยาบาลรามาธิบดี หลังจากที่ได้เห็นแถลงการณ์ของพยาบาลวิชาชีพ และผู้ช่วยพยาบาล ที่ออกมาแสดงจุดยืนในการเร่งนำวัคซีนที่มีประสิทธิภาพสูง มาให้บุคลากรทางการแพทย์ที่ปฏิบัติงานด่านหน้า โดยยืนยันว่ารู้สึกเข้าใจว่าพยาบาลกลุ่มนี้ เพราะทุกคนกลัวติดเชื้อ และนำเชื้อไปสู่ครอบครัว ตัวเธอเองก็รู้สึกไม่ต่างกัน 
 
พร้อมมองว่าน้องๆพยาบาลไม่ผิด ถือเป็นการแสดงออกวิธีการหนึ่งที่สามารถทำได้ และไม่ขัดข้อง หากพยาบาลที่ดูแลจะออกมาประท้วง แต่อยากให้คำนึงถึงผู้ป่วยเป็นอันดับแรก และอยากให้รัฐบาลพยายามมากกว่านี้ ในการจัดหาวัคซีนที่ดีที่สุดเป็นขวัญกำลังใจกับบุคลากรด่านหน้า
 
หัวหน้าพยาบาลคนนี้ยังบอกอีกว่า ในรอบเดือนที่ผ่านมา มีพยาบาลด่านหน้าจำนวนไม่น้อยที่ติดเชื้อโควิด-19 จากการทำงาน ถึงแม้จะมีอุปกรณ์ป้องกันอย่างดี แต่ก็ยังมีความเสี่ยงสูง กลุ่มที่น่าเป็นห่วงมากที่สุดคือพยาบาลคัดกรองผู้ป่วย เพราะผู้ป่วยบางคนไม่ให้ข้อมูลที่แท้จริง บางคนไม่ทราบว่าตัวเองติดเชื้อ ทำให้มีพยาบาลติดเชื้อโควิด-19 ทุกวัน วันละมากกว่า 1-2 คน ซึ่งกระทบกับการทำงานมาก เพราะไม่สามารถหาคนมาทดแทนได้
 
ทีมข่าวพีพีทีวีพูดคุยกับหนึ่งในพยาบาลของโรงพยาบาลรามาธิบดี อย่าง นางรวมพร ลออจันทร์ แม้ว่าเธอจะไม่ได้มีส่วนในแถลงการณ์ แต่ยอมรับว่าเธอเองก็หวาดกลัวเป็นอย่างมาก ทั้งเรื่องการติดเชื้อโควิด-19  สภาพจิตใจที่ย่ำแย่ และร่างกายที่อ่อนล้า หากได้วัคซีนที่มีคุณภาพ จะทำให้มีกำลังใจในการทำงานมากขึ้น
 
ด้านรองศาสตราจารย์นายแพทย์ สุรศักดิ์ ลีลาอุดมลิปิ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลรามาธิบดี เปิดเผยกับทีมข่าวพีพีทีวีว่า เพิ่งทราบข่าว เห็นใจในการทำงานของบุคลากรทางการแพทย์ และขอตำหนิตัวเองในฐานะผู้อำนวยการโรงพยาบาล ยอมรับว่า แถลงการณ์ที่ออกมา เป็นเสียงสะท้อนจากเจ้าหน้าที่ระดับปฎิบัติงานที่จะนำกลับไปทบทวนต่อไป
 

 
สื่อนอกตีข่าว ไทยกลับลำเข้าร่วมโคแวกซ์
https://www.matichon.co.th/foreign/news_2843465
 
สื่อนอกตีข่าว ไทยกลับลำเข้าร่วมโคแวกซ์
 
เมื่อวันที่ 22 กรกฎาคม สำนักข่าวเอพี รายงานข่าวเรื่องการออกมาขอโทษประชาชนของนายแพทย์ นคร เปรมศรี ผู้อำนวยการสถาบันวัคซีนแห่งชาติ เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคมที่ผ่านมา โดยใช้หัวข้อข่าวว่า “ไทยจะเข้าร่วมโคแวกซ์ ยอมรับว่าจัดหาวัคซีนได้ไม่เพียงพอ
 
เอพีระบุว่า นายแพทย์นครให้สัญญาว่าจะเข้าร่วมในโครงการโคแวกซ์ที่องค์การสหประชาชาติสนับสนุนอยู่ เพื่อให้ได้รับวัคซีนภายใต้โครงการดังกล่าวในปีหน้า
 
เอพีระบุว่า ไทยกำลังต่อสู้อยู่กับการแพร่ระบาดอย่างร้ายแรงและมีผู้ติดเชื้อใหม่กับเสียชีวิตเพิ่มขึ้นเป็นสถิติใหม่เกือบทุกวัน จนเกิดความกลัวกันว่าจำนวนผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตจะเลวร้ายลงไปอีกมากเพราะรัฐบาลล้มเหลวในการจัดหาวัคซีนในปริมาณเพียงพอก่อนหน้าที่เกิดสถานการณ์ดังกล่าวขึ้น
 
ในรายงานข่าวเอพีระบุว่า การแพร่ระบาดของเชื้อกลายพันธุ์เดลต้าทำให้สถานการณ์เลวร้ายมากขึ้นในขณะที่รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา พยายามจัดหาวัคซีนมาเพิ่มจากที่มีวัคซีนซิโนแวค และซิโนฟาร์ม จากจีนและ แอสตร้าเซนเนก้า ที่ผลิตในไทยเองอยู่ในมือแล้วเพียงเล็กน้อย
 
นอกเหนือจากจะล้มเหลวในการจัดซื้อวัคซีนให้ได้เพียงพอ รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ ยังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักเพราะมีรายงานผลการศึกษาบางชิ้นแสดงให้เห็นว่า วัคซีนจากจีนมีประสิทธิภาพต่อต้านเชื้อเดลต้าได้น้อยกว่าวัคซีนที่ผลิตจากบริษัทไฟเซอร์และโมเดอร์นา
 
เอพีรายงานว่า นายแพทย์นคร ขอโทษประชาชนที่ไม่สามารถจัดหาวัคซีนที่เหมาะสมกับสถานการณ์ได้ในปริมาณที่เพียงพอ ถึงแม้จะพยายามอย่างดีที่สุดแล้ว และชี้ว่าการกลายพันธุ์เป็นสิ่งที่ไม่สามารถคาดหมายได้ ทำให้การแพร่ระบาดเร็วขึ้นกว่าปีที่ผ่านมา ความพยายามในการจัดซื้อวัคซีนไม่ได้เหมาะสมกับสถานการณ์ในปัจจุบัน พร้อมทั้งเปิดเผยว่า ไทยกำลังดำเนินกระบวนการเพื่อเข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ และคาดว่าไทยจะได้รับวัคซีนจากโครงการนี้ได้ในไตรมาสแรกของปีหน้า
 
เอพีตั้งข้อสังเกตุว่า ไทยเป็นประเทศเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ไม่ได้เข้าร่วมโครงการโคแวกซ์ โดยรัฐบาลอธิบายไว้เมื่อเดือนกุมภาพันธ์ว่า เป็นเพราะไทยถูกจัดอยู่ในกลุ่มประเทศที่มีรายได้ปานกลาง ซึ่งจะไม่ได้รับวัคซีนฟรี หรือได้รับวัคซีนราคาถูก จากโครงการดังกล่าว แต่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าสูงมาก โดยไม่รู้ว่าจะได้รับวัคซีนประเภทใด หรือได้รับเมื่อใด ทำให้การจัดซื้อวัคซีนโดยตรงจากผู้ผลิตเป็นทางเลือกที่เหมาะสมกว่าและยืดหยุ่นกว่า
 
คำอธิบายดังกล่าวถูกวิพากษ์วิจารณ์ในเวลาต่อมา เมื่อรัฐบาลต้องนำเข้าวัคซีนซิโนแวคเป็นการเร่งด่วนในราคาสูง แม้จะมีข้อกังขาเรื่องประสิทธิภาพของวัคซีนขึ้นมาแล้วก็ตาม” เอพีระบุ โดยชี้ด้วยว่า ตามแผนรัฐบาลต้องการฉีดวัคซีนให้ได้ 100 ล้านเข็มในปีนี้และได้สำรองวัคซีน 105.5 ล้านโดสจากหลายบริษัท โดยส่วนใหญ่คือ 61 ล้านโดสมาจากบริษัทแอสตร้าเซนเนก้า ที่ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอไซนซ์ แต่เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เกิดความเคลือบแคลงขึ้นมาว่าแผนดังกล่าวจะเป็นไปได้หรือไม่ เมื่อมีการเปิดเผยว่าบริษัทสยามไบโอไซนซ์ ไม่น่าจะจัดส่งวัคซีนได้ตามสัดส่วนดังกล่าวจนกว่าจะถึงเดือนพฤษภาคมปีหน้า
 
ทั้งนี้รายงานของสำนักข่าวเอพีชิ้นนี้ ถูกหยิบไปนำเสนอในหนังสือพิมพ์ในหลายประเทศทั่วโลก รวมทั้งหนังสือพิมพ์วอชิงตันโพสต์ ของสหรัฐอเมริกาที่ตีพิมพ์ข่าวนี้ในเซกชัน เวิร์ลด์ อีกด้วย
 


หดหู่ คุณยายวัย 82 เฝ้าดูอาการคุณตาวัย 86 หลังติดโควิดทั้งคู่ ยังไม่มีเตียงรักษา ต้องดูแลกันเองในบ้าน
https://ch3plus.com/news/program/249917

เป็นเรื่องราวที่น่าหดหู่ใจ เมื่อคุณยาย วัย 82 ปี ต้องเฝ้าดูอาการของคุณตา วัย 86 ปี อย่างใกล้ชิด หลังติดเชื้อโควิดทั้งคู่ รอเตียงมาหลายวัน ยังไม่มีใครมารับไปรักษา ไม่มีใครดูแล เนื่องจากลูกชายต้องแยกกักตัว คุณตาคุณยายจึงต้องดูแลกันเองในบ้าน
 
โดย คุณวิเชียร ลูกชาย เผยว่า ก่อนหน้านี้ตนเองติดเชื้อโควิด และได้เข้ารับการรักษาจนหายดีแล้ว ต่อมา เมื่อวันที่ 1 ก.ค. คุณพ่อและคุณแม่เริ่มมีอาการ  ตนพยายามติดต่อโรงพยาบาลหลายแห่งเพื่อขอตรวจเชื้อ แต่ไม่มีโรงพยาบาลไหนรับตรวจ จนอาการของคุณพ่อคุณแม่เริ่มแย่ลงเรื่อยๆ
 
ตนจึงตัดสินใจพาคุณพ่อคุณแม่ไปตรวจที่คลินิกเอกชนแห่งหนึ่ง ในวันที่ 15 ก.ค. ซึ่งผลตรวจพบว่าคุณพ่อคุณแม่และตนเองติดเชื้อทั้งหมด ซึ่งในกรณีของตนนั้น ไม่ทราบว่าเป็นแค่ซากเชื้อ หรือเป็นการติดเชื้อรอบสอง ตนจึงต้องแยกกักตัวเองอยู่บนชั้นสองของบ้าน ส่วนคุณพ่อคุณแม่อาศัยอยู่ชั้นล่างของบ้าน
 
หลังทราบผลการตรวจ ตนพยายามติดต่อไปหลายหน่วยงาน แต่ก็ไม่มีใครมารับตัวคุณพ่อคุณแม่ไปรักษา ซึ่งคุณแม่ มีโรคประจำตัวเป็นเบาหวาน และความดัน ก่อนหน้านี้อาการทรุดจนลุกไม่ขึ้น แต่เพิ่งอาการดีขึ้นเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ส่วนคุณพ่อมีโรคประจำตัวเป็นโรคหัวใจ อาการค่อนข้างแย่กว่าคุณแม่ ไม่มีแรง ทานอาหารไม่ได้ หายใจลำบาก ระดับออกซิเจนในเลือดลดต่ำลงเรื่อยๆ
 
คุณแม่ต้องคอยดูแลคุณพ่ออย่างใกล้ชิด คอยป้อนข้าวป้อนน้ำ เช็ดตัว คอยวัดระดับออกซิเจนในเลือดอย่างต่อเนื่อง และต้องคอยให้ออกซิเจนคุณพ่อเป็นระยะๆ ตนเองเป็นลูกชายก็ห่วงพ่อแม่ แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปดูแลได้ จึงร้องขอความช่วยเหลือมายังรายการเรื่องเล่าเช้านี้ เพื่ออยากให้คุณพ่อได้เข้ารับการรักษา ส่วนคุณแม่อาการตอนนี้ดีขึ้น ซึ่งตนมองว่าคุณแม่อาจจะหายเองแล้วก็เป็นได้ จึงอยากให้คุณแม่ได้ตรวจหาเชื้ออีกครั้ง หากไม่พบเชื้อแล้ว จะได้แยกตัวคุณแม่ออกมา เพื่อไม่ให้ติดเชื้อซ้ำอีก 
 
ขณะที่ คุณยายบอกกับทีมข่าวว่า ขณะนี้ ตนเองอาการดีขึ้นแล้ว สามารถลุกขึ้นทำอะไรเองได้แล้ว จึงต้องคอยดูแลสามีที่ลุกไม่ไหว เมื่อคืนที่ผ่านมา สามีก็ท้องเสีย ต้องคลานไปเข้าห้องน้ำ พอออกมาจากห้องน้ำก็ล้มฟุบลงกับพื้นเพราะไม่มีแรง ตนจึงต้องตะโกนเรียกให้เพื่อนบ้านเข้ามาช่วยหามสามีขึ้นมา ซึ่งเพื่อนบ้านก็ใจดี รีบเข้ามาช่วยเหลือโดยที่ไม่กลัวติดเชื้อ แต่สามีค่อนข้างดื้อ บอกให้ทำอะไรก็ไม่ค่อยยอมทำตาม เมื่อถามอาการก็ไม่ค่อยยอมบอก ตนจึงไม่รู้จะทำอย่างไร ล่าสุด สามีบ่นอยากกินแกงส้ม ซึ่งเป็นอาหารโปรดของเขา แต่ตนก็ไม่สามารถทำให้ได้ เพราะไม่สามารถออกไปไหนได้ ทุกวันนี้อาศัยเพื่อนบ้านเอาอาหารมาแบ่งให้กิน
 
เบื้องต้น ทีมข่าวเรื่องเล่าเช้านี้ ได้ลงพื้นที่ไปดูอาการของคุณตาคุณยาย พบว่าคุณยายสามารถลุกนั่งพูดคุยได้ แต่คุณตายังนอนหมดเรี่ยวแรงอยู่บนที่นอน ซึ่งทีมข่าวได้ซื้อแกงส้ม ที่คุณตาบ่นอยากกินไปให้ และนำผ้าอ้อมผู้ใหญ่ น้ำดื่ม ข้าวสาร อาหารสำเร็จรูปไปให้ พร้อมกับประสานกับกลุ่มเส้นด้ายเพื่อหาเตียงให้กับคุณตาคุณยายต่อไป

รับชมผ่านยูทูบได้ที่ : https://youtu.be/cYJ5vjspGLI
 
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่