รำลึก "ไดอาน่า ริกก์" จากคุณนายบอนด์สู่ราชินีหนามยอกอก


เมื่อปีที่ผ่านมา วงการมายาต้องพบกับข่าวเศร้าหลังจาก ไดอาน่า ริกก์ เสียชีวิตลงด้วยมะเร็ง ทั้งเป็นการสูญเสียนักแสดงมากความสามารถ และคนคนหนึ่งซึ่งมีความคิดอ่าน มีอารมณ์ขันร้ายกาจ เป็นแบบอย่างของใครมากมาย กระนั้น เธอก็ได้จากไปเยี่ยงคนที่ใช้ชีวิตอย่างสมบูรณ์ ฝากความทรงจำประทับใจให้ผู้ชมได้ระลึกถึง

ครั้งแรกที่หญิงอังกฤษจากยอร์คเชียร์คนนี้ได้ประเดิมทำงานในฐานะนักแสดง บทของเธอเป็นเพียงตัวประกอบเดินผ่านอยู่ฉากหลังของละครเวทีเรื่องหนึ่ง ไม่แม้แต่มีคำให้พูด กระนั้น เธอกลับตักตวงจากงานนี้ได้มหาศาล เพราะเบื้องหน้ามีบรรดาดาวดังมากประสบการณ์สำแดงเดชให้เธอได้ตามสังเกตและซึมซับ ไม่นาน ไดอาน่าก็ไต่ระดับขึ้นมาจนเป็นตัวเด่นบ้าง กระทั่งจุดเปลี่ยนสำคัญมาถึงเมื่อเธอได้รับบท เอ็มม่า พีล ใน The Avengers ซีรีส์แอ็คชั่นสายลับซึ่งโด่งดังในยุค 60

“ฉันอาจต้องเล่นละครเวทีอยู่ยี่สิบปีถึงจะดังได้เท่างานนี้งานเดียว” ไดอาน่ายืนยัน


จากนั้นโอกาสจึงเปิดกว้างให้เธอมุ่งสู่สายจอเงิน ด้วยภาพความเป็นสปายหญิงที่ทั้งฉลาดและเซ็กซี่ กลายเป็นตัวแปรส่งเสริมให้เธอได้ก้าวไปเป็นสาวบอนด์ในภาค On Her Majesty’s Secret Service (1969) ทว่าบทของไดอาน่าไม่ใช่สาวบอนด์ธรรมดา เพราะเธอคือ เทรซี่ บอนด์ ภรรยาหนึ่งเดียวของ เจมส์ บอนด์

“ยิ่งเหตุผลที่ จอร์จ ลาเซนบี้ (บอนด์ในภาคนั้น) ไม่มีประสบการณ์แสดงเลย ฉันจึงเข้าไปคานสมดุลในฐานะมืออาชีพจริงๆ” ไดอาน่าอธิบาย “หน้าที่หลักๆ ก็เพื่อช่วยชี้แนะเขา”


ขณะที่ On Her Majesty’s Secret Service ค่อยๆ กลายเป็นงานคลาสสิคผ่านกาลเวลา บท เทรซี่ บอนด์ ของเธอเองก็ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในสาวบอนด์ที่ดีที่สุดเสมอมา ฐานะที่มีความครบเครื่อง งามสง่า กล้าลุย ไหวพริบดี และมีแผลในใจ อีกทั้งเคมีกับลาเซนบี้ยังเข้ากันต่อให้ความเป็นจริงหลังฉากจะไม่กินเส้น

อย่างไรก็ตาม เส้นทางของไดอาน่าไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ การกรุยทางในอเมริกามีผลลัพธ์ล้มเหลว ส่วนการทำงานในบ้านเกิดก็ตกเป็นเป้าถูกสื่อตามรังควานชีวิตส่วนตัว ชื่อเสียงกลายเป็นสิ่งที่เธอรับมือไม่ถูก กระนั้น เธอยังคงมีที่ทางในฝั่งละครเวทีและงานจอแก้วเสมอ แม้ตลอดหลายปีนั้นจะดูเหมือนห่างหายจากงานเด่นเข้าถึงคนวงกว้าง แต่ไดอาน่าไม่เคยร้างสนาม เธอยังคงทำงานเพื่อลับคมฝีมืออยู่ตลอด


จนในที่สุด เมื่อถึงวันที่ผู้ชมรุ่นใหม่ๆ ไม่รู้เลยว่า ไดอาน่า ริกก์ คือใคร เธอก็กลับมาวาดลวดลายให้เป็นที่กล่าวขวัญอีกครั้งด้วยบท โอเลนน่า ไทเรลล์ แห่งซีรีส์ Games of Thrones ชนิดได้ชิงรางวัลเอ็มมี่สี่สมัย

“ระดับท่านผู้หญิงไม่ต้องออดิชั่นให้เรา เราต่างหากที่ต้องไปให้เธอพิจารณา” เดวิด เบนิออฟฟ์ โชว์รันเนอร์ของซีรีส์กล่าว “เราตกหลุมรักเธอ เธอตลก ทะลึ่ง มีทุกอย่างที่เราอยากให้มีสำหรับตัวละครนี้”


ต่อให้กลับมาในสภาพของหญิงชรา ทว่าผิวหนังหย่อนยานหยาบกร้านนั้นกลับสะท้อนความเจนจัด ลำพังนิ่งเงียบ สายตาจ้องมอง ไดอาน่าก็แผ่ความน่ายำเกรงได้เพียงพอ และยิ่งให้เธอพูด แต่ละคำล้วนเชือดนิ่มดั่งหนามแหลมทิ่มแทงฝ่ายตรงข้าม นี่คือประสบการณ์ที่อาศัยการบ่มเพาะอย่างยาวนานเท่านั้น หลายทศวรรษที่ได้เรียนรู้ด้านมืดของชีวิต ไดอาน่ารู้วิธีแปรรูปมันสู่พลังการแสดง เธอเข้ามาขโมยซีน ช่วยยกระดับคุณภาพ และเป็นแรงบันดาลใจให้คนหนุ่มสาวในกอง

“เวลาร่วมงานกับคนที่สั่งสมเกียรติประวัติมามากมายขนาดนี้ ที่ต้องทำคือตั้งใจดูและฟัง” นาตาลี ดอร์เมอร์ ผู้รับบท มาเจอรี่ ไทเรลล์ ซึ่งเป็นหลานสาวในจอกล่าว

แม้ว่างานเด่นๆ ตลอดอาชีพจะมีไม่มาก แต่หากให้โอกาสเหมาะๆ กับเธอเมื่อไหร่ สิ่งที่เกิดขึ้นคือความตราตรึงฝังลึก เมื่อครั้งเป็นคุณนายบอนด์ เธอทำให้หลงรักก่อนจะทำเอาใจสลายในวินาทีสุดท้าย พอเป็นราชินีแห่งหนามยอกอก เธอก็เป็นฝ่ายกำชัยชนะไปจนวินาทีท้ายสุด นี่คือเหตุผลที่เธอคู่ควรได้รับการจดจำตราบเท่าเวลาทั้งโลก

ขอขอบพระคุณบทความจากเพจ Vintage Motion

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่