Mercury 13: ผู้หญิง 13 คนที่เกือบจะได้เป็นนักบินอวกาศ




Mercury spaceship capsule ใน Projecy Mercury
นักบินอวกาศ Alan B. Shepard ทำการบินอวกาศครั้งแรกของสหรัฐฯ ในยานอวกาศลำนี้เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 1961


ในที่สุดทุกอย่างก็เป็นไปตามแผนที่วางไว้ โดยเมื่อวันที่ 20 กรกฏาคมที่ผ่านมามหาเศรษฐี Jeff Bezos ผู้ก่อตั้ง Amazon ได้เดินทางระยะสั้นสู่อวกาศได้สำเร็จ ในเที่ยวบินแรกบนยานอวกาศ New Shepard ที่พัฒนาโดยบริษัท Blue Origin ซึ่งเป็นบริษัทการบินอวกาศของ Bezos เอง ซึ่งได้รับกาออกแบบมาเพื่อให้บริการตลาดที่กำลังเติบโตสำหรับการท่องเที่ยวในอวกาศ

Bezos เดินทางไปพร้อมกับ Mark Bezos น้องชายของเขา Wally Funk ผู้บุกเบิกการแข่งขันอวกาศวัย 82 ปี และนักเรียนอายุ 18 ปี โดยนักบิน Wally Funk ที่มีอายุ 82 ปี เป็นคนที่มีอายุมากที่สุดเท่าที่เคยบินไปในอวกาศ ซึ่ง Bezos ประกาศว่าเขายอมรับความกล้าหาญของเธอในการต่อสู้ของผู้หญิง และ Funk ก็รอคอยโอกาสนี้มาเป็นเวลาหกทศวรรษแล้ว 

Wally Funk นั้นเป็นหนึ่งในผู้หญิง 13 คนที่เข้าร่วมในความพยายามที่ได้รับทุนส่วนตัวเพื่อทดสอบว่า ผู้หญิงสามารถอยู่รอดจากความรุนแรงของการบินในอวกาศได้หรือไม่ โดยได้รับการทดสอบทางการแพทย์แบบเดียวกับผู้ชายสำหรับภารกิจอวกาศที่นาซ่าอนุญาต  กลุ่มผู้หญิงเล็กๆ กลุ่มนี้เดิมที่รู้จักในนาม
" นักบินอวกาศหญิงคนแรก " (First Lady Astronaut Trainees หรือ FLATs) และต่อมาถูกเรียกว่า 'Mercury 13' เพื่อเป็นการเปรียบเปรยถึงนักบินอวกาศชายกลุ่ม 'Mercury 7' 

ย้อนกลับไป เมื่อ NASA วางแผนที่จะนำผู้คนไปสู่อวกาศเป็นครั้งแรก พวกเขาเชื่อว่าผู้สมัครที่ดีที่สุดคือนักบิน ลูกเรือใต้น้ำ หรือสมาชิกคณะสำรวจที่ไปยังพื้นที่แอนตาร์กติกหรืออาร์กติก และผู้ที่มีภูมิหลังด้านกีฬาผาดโผน เช่น การกระโดดร่ม การปีนเขา การดำน้ำลึก ฯลฯ โดย NASA คิดว่าผู้คนเหล่านี้น่าจะเก่งในโปรแกรมการทดสอบต่างๆ


นี่คือของภาพสมาชิกของนักบินอวกาศสตรีหมายเลขหนึ่ง (FLATs หรือที่รู้จักในชื่อ "Mercury 13") ตั้งแต่ปี 1995 
 โดยยืนอยู่นอก Launch Pad ใกล้กับ Space Shuttle Discovery Cr.ภาพ: NASA
จากซ้ายไปขวา: Gene Nora Jessen, Wally Funk, Jerrie Cobb, Jerri Truhill, Sarah Rutley, Myrtle Cagle และ Bernice Steadman


ในไม่ช้า NASA ก็ตระหนักว่าน่าจะมีหลายคนที่สมัครเข้ามา และการประมวลผลแอปพลิเคชันทั้งหมดอาจจะมีราคาแพงและใช้เวลานาน ในขณะที่ประธานาธิบดี Dwight Eisenhower เชื่อว่านักบินทดสอบทางทหารจะสร้างนักบินอวกาศที่ดีที่สุดได้ เนื่องจากพวกเขาผ่านการทดสอบและฝึกอบรมอย่างเข้มงวดภายในรัฐบาลแล้ว ส่งผลให้ข้อกำหนดในการคัดเลือกเปลี่ยนไป

โดยมีการตัดสินใจใหม่ว่า นักบินอวกาศทุกคนจะต้องสำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนทดสอบเครื่องบินเจ็ตของกองทัพและมีปริญญาวิศวกรรมศาสตร์ แต่เกณฑ์ได้รับการผ่อนคลายในเวลาต่อมา อย่างไรก็ตาม การเลือกนักบินทดสอบทางทหารในฐานะนักบินอวกาศคนแรกได้กำหนดแนวโน้ม และข้อกำหนดในการคัดเลือก ซึ่งจะตัดสิทธิ์ผู้หญิงจากการสมัครโดยอัตโนมัติ เนื่องจากผู้หญิงถูกห้ามไม่ให้เข้ารับการฝึกบินทางทหาร

ตามรายงานของ Harvard Medicine ระบุว่า William Randolph Lovelace แพทย์ด้านการบินและอวกาศและหัวหน้าคณะกรรมการด้านวิทยาศาสตร์เพื่อชีวิตของ NASA เป็นผู้รับผิดชอบในการพัฒนาการทดสอบทางร่างกายและจิตใจสำหรับนักบินอวกาศชาย เพื่อให้แน่ใจว่าทุกคนจะสามารถรับมือกับความเข้มงวดของการปฏิบัติงานในสภาวะไร้น้ำหนักได้

การทดสอบมีความละเอียดถี่ถ้วนอย่างมาก เพื่อเผชิญหน้ากับความท้าทายทั้งที่รู้และไม่รู้ของการเดินทางในอวกาศ ในขณะเดียวกัน Lovelace ก็อยากรู้ว่าถ้าผู้หญิงได้รับการทดสอบในแบบเดียวกันจะเป็นอย่างไร ดังนั้น ด้วยความช่วยเหลือจากนักบินชื่อดังระดับโลก Jacqueline Cochran ซึ่งเป็นผู้สนับสนุนโครงการนี้ Lovelace จึงสามารถโน้มน้าวให้ผู้หญิงจำนวน 24 คนเข้ามามีส่วนร่วมในการทดสอบได้

ในภาพคือนักบินอวกาศ Project Mercury ถ่ายในเดือนมกราคม 1961 ขณะยืนอยู่ข้างเครื่องบิน Convair F106-B
จากซ้ายไปขวาได้แก่ M. Scott Carpenter, L. Gordon Cooper Jr., John H. Glenn Jr., Virgil I. "Gus" Grissom, Walter M. Schirra Jr.,
Alan B. Shepherd Jr. และ  Donald K. "Deke" Slayton.
ผู้หญิงทุกคนที่เข้าร่วมการฝึกเป็นนักบินเครื่องบินที่มีทักษะและมีฝีมือในระดับสูง ส่วนใหญ่ได้รับคัดเลือกผ่าน Ninety-Nines (องค์กรระหว่างประเทศของนักบินหญิงหรือที่รู้จักกันในนาม The 99s) ซึ่งเป็นองค์กรสนับสนุนความก้าวหน้าซึ่งกันและกันของนักบินหญิง ส่วนคนอื่นๆรับรู้เกี่ยวกับการทดสอบผ่านเพื่อน อาสาสมัคร หรือบทความในหนังสือพิมพ์ โดยนักบินผู้เข้าสอบคนแรกที่ประสบความสำเร็จคือ Geraldyn "Jerrie" Cobb และผู้สมัครที่อายุมากที่สุดคือ Jane Hart คุณแม่ลูกแปดวัย 41 ปี ในขณะที่คนอายุน้อยที่สุดคือ  Wally Funk ครูสอนการบินอายุ 23 ปี

เนื่องจาก Lovelace ไม่แน่ใจว่ามนุษย์อวกาศจะต้องเผชิญกับสภาวะแบบใดในอวกาศ เขาจึงคิดค้นการทดสอบการรุกรานต่างๆ ตั้งแต่การเอ็กซ์เรย์ทั่วไปและการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจ ไปจนถึงการทดสอบที่ไม่ปกติ ซึ่งผู้หญิงทุกคนต้องกลืนท่อยางเพื่อทดสอบระดับกรดในกระเพาะอาหาร รวมถึงทดสอบปฏิกิริยาตอบสนองในเส้นประสาทท่อนแขนโดยใช้ไฟฟ้าช็อต และการยิงน้ำที่เยือกแข็งเข้าไปในช่องหูเพื่อกระตุ้นอาการเวียนศีรษะ เพื่อให้แพทย์สามารถหาเวลาฟื้นตัวได้เร็วแค่ไหน 

นอกจากนั้นผู้หญิงทั้งหมดจะถูกกดดันจนหมดแรงโดยใช้จักรยานอยู่กับที่ที่ถ่วงน้ำหนักเป็นพิเศษเพื่อทดสอบการหายใจ พวกเธอต้องผ่านการทดสอบที่รุกรานและไม่สบายใจอีกมากมายเพื่อรับโอกาสในการเป็นส่วนหนึ่งของทีมอวกาศของอเมริกา ซึ่งบางคนสามารถทำได้ดีกว่าผู้ชาย
 
จากนั้นเป็นการทดสอบระยะที่สอง ซึ่งประกอบด้วยการคัดกรองทางจิตวิทยา การทดสอบบุคลิกภาพ การทดสอบระบบประสาทเพิ่มเติม การทดสอบการแยกตัว และอื่นๆ ขั้นตอนสุดท้ายประกอบด้วยการจำลองการบิน ซึ่งสามารถทำได้โดยใช้อุปกรณ์ทางทหารและเครื่องบินไอพ่นเท่านั้น เนื่องจากนี่ไม่ใช่โครงการอย่างเป็นทางการของ NASA และมีเพียง Jerrie Cobb เท่านั้นที่สามารถทำขั้นตอนที่สามให้เสร็จก่อนที่โปรแกรมจะถูกยกเลิกอย่างกะทันหัน

ภาพถ่ายที่ไม่ระบุวันที่ของนักบิน Wally Funk / Cr.ภาพถ่าย: “Blue Origin”
หากไม่มีคำขออย่างเป็นทางการของ NASA ให้ทำการทดสอบ กองทัพเรือสหรัฐฯ จะไม่อนุญาตให้ใช้สิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับโครงการที่ไม่เป็นทางการดังกล่าวนี้ เมื่อถึงเวลานั้นจำนวนผู้หญิงที่มีคุณสมบัติเหมาะสมก็ลดลงเหลือแค่ 13 คนเท่านั้นโดย Cobb ซึ่งเป็นผู้หญิงคนเดียวที่ผ่านการฝึกทั้งสามระยะ ติดอันดับ 2% แรกของนักบินอวกาศของทั้งสองเพศ

ตลอดหลายปีที่ผ่านมาของการเตรียมการ เนื่องจากการทดสอบเป็นความลับ และการขาดสิ่งอำนวยความสะดวกในการทดสอบ(การทดสอบทั้งทางร่างกายและจิตใจได้ดำเนินการที่คลินิกส่วนตัวของ Lovelace ) ผู้สมัครที่เป็นผู้หญิงไม่ได้รู้จักกันทั้งหมด เพราะการทดสอบดำเนินการคนเดียวหรือเป็นคู่ จนกระทั่งปี 1994 ได้มีการแนะนำ 10 คนของ Mercury 13 ให้รู้จักกันเป็นครั้งแรก

หลังจากที่โปรแกรมถูกยกเลิก Jerrie Cobb ก็บินไปวอชิงตัน ดี.ซี. เพื่อพยายามให้โปรแกรมการทดสอบกลับมาทำงานต่อ เธอยังเขียนจดหมายถึงประธานาธิบดี John Kennedy และไปเยี่ยมรองประธานาธิบดี Lyndon Johnson ด้วย ซึ่งในที่สุด Cobb ก็ได้รับการไต่สวนต่อหน้าคณะอนุกรรมการพิเศษของคณะกรรมาธิการสภาวิทยาศาสตร์และอวกาศ

Cobb และ FLAT อีกคนคือ Jane Hart ให้การเกี่ยวกับประโยชน์ของโครงการส่วนตัวของ Lovelace แต่น่าประหลาดใจที่ Jackie Cochran (นักบินหญิงที่คนแรกที่บินได้เร็วกว่าความเร็วของเสียง) ต่อต้านนักบินอวกาศหญิงทั้งสองอย่างรุนแรง โดยกล่าวว่าโครงการนี้อาจส่งผลเสียต่อโครงการ NASA ได้ เนื่องจากผู้หญิงมักจะลาออกอย่างมีนัยสำคัญเนื่องจากเหตุผลเล็กๆ น้อยๆ เช่น การแต่งงาน การคลอดบุตร และสาเหตุอื่นๆ ในขณะที่ ตัวแทนของ NASA ชี้ให้เห็นว่าผู้หญิงไม่สามารถเป็นนักบินอวกาศได้ เนื่องจากพวกเธอไม่มีคุณสมบัติตรงตามข้อกำหนดของการเป็นผู้สำเร็จการศึกษาจากโครงการนำร่องทดสอบเครื่องบินไอพ่นของกองทัพ

Jerrie Cobb ได้รับการทดสอบในปี 1960 ในศูนย์ทดสอบความเฉื่อยของการทดสอบอวกาศหลายแกนของ NASA 
Cr.ภาพ: NASA
โครงการทดสอบสตรีที่ได้รับทุนส่วนตัวของ Lovelace ได้รับความสนใจจากสื่ออีกครั้งเมื่อ Valentina Tereshkova นักบินอวกาศชาวโซเวียตกลายเป็น
ผู้หญิงคนแรกในอวกาศเมื่อวันที่ 16 มิถุนายน 1963 ซึ่งนิตยสาร LIFE และ New York Times ได้วิจารณ์ NASA และผู้มีอำนาจตัดสินใจของอเมริกา โดยอ้างคำพูดของ Cobb ว่า ในที่สุดก็มีการพาผู้หญิงเข้าสู่อวกาศ น่าเสียใจจริงๆที่เราทำได้ก่อนหน้านั้นแต่ไม่ทำ 

จนกระทั่งสองทศวรรษต่อมาในปี 1983 NASA ได้นักบินอวกาศหญิงคนแรก Sally Ride และอีก 12 ปีต่อมาในปี 1995 ที่ผู้หญิงที่ชื่อ Eileen Collins ได้รับอนุญาตให้ควบคุมกระสวยอวกาศเป็นครั้งแรก แม้จะผิดหวังอย่างมหันต์ในความฝันของพวกเธอ แต่ Mercury 13 ยังคงประสบความสำเร็จอย่างไม่ธรรมดา นั่นคือ
- Jerrie Cobb ผู้ซึ่งเริ่มบินตั้งแต่ยังเล็ก เธอเริ่มทำงานกับมิชชันนารีกว่า 30 ปีในอเมริกาใต้ เป็นการบินเพื่อมนุษยธรรม (เช่น การขนส่งเสบียงไปยังชนเผ่าพื้นเมือง) ตลอดจนการสำรวจเส้นทางทางอากาศใหม่ไปยังพื้นที่ห่างไกล 

- Wally Funk กลายเป็นหนึ่งในผู้ตรวจสอบ FAA หญิงคนแรก 

- Janey Hart คุณแม่ของลูก 9 mujเป็นนักบินอวกาศที่อายุมากที่สุด มีความเข้าใจทางการเมืองในการนำพาผู้หญิงผ่านการพิจารณาของรัฐสภา และต่อ       มาได้ช่วยก่อตั้งองค์การเพื่อสตรีแห่งชาติ
เพื่อรำลึกถึงสตรีผู้น่าทึ่งเหล่านี้ " Mercury 13 " จะเป็นเรื่องราวที่ยากจะลืมเลือนของความมุ่งมั่น ความยืดหยุ่น และความหวังที่ไม่อาจดับได้

เรื่องราวของนักบินหญิงคนแรกของสหรัฐฯ ที่ได้รับการทดสอบในอวกาศคือจุดสนใจของสารคดี Netflix ชื่อ "Mercury 13" 
ผู้หญิงมีคุณสมบัติที่จะเป็นนักบินอวกาศได้ แต่ NASA ไม่สนใจนักบินอวกาศหญิงในเวลานั้น  (เครดิตรูปภาพ: Netflix)


ที่มา
# Lovelace’s Woman in Space Program, NASA
# Swapna Krishna, The Mercury 13: The women who could have been NASA's first female astronauts, Space.com
# Wikipedia

Cr.https://www.amusingplanet.com/2021/07/mercury-13-women-who-almost-became.html / KAUSHIK PATOWARY
Cr.https://www.bbc.com/news/science-environment-57849364
Cr.https://www.nasa.gov/missions/highlights/f_mercury13.html
Cr.https://www.space.com/mercury-13.html / By Swapna Krishna 
Cr.https://www.space.com/14498-photos-nasa-mercury-space-capsule-spaceflights.html / By Space.com Staff 

(ขอขอบคุณที่มาของข้อมูลทั้งหมดและขออนุญาตนำมา)
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่