ไม่รีรอครับขอเริ่มเลย จากการใช้งานผ่านมาเดือนกว่าๆครับ
1. M1 ไม่ได้แรงขนาดนั้น
ใครที่คิดว่าชิพตัวนี้ มันเทพไร้เทียมทาน ต้องบอกเลยนะครับว่าไ่ใช่ โดยรวมแล้วมันทำงานได้ดีในระดับของพีซี ในราคาไม่ต่างกัน ยกเว้นว่าคุณจะเทียบกับช่วงการ์ดจอแพงๆ ก็จะพบว่า มันมีภาษีมากกว่านิดๆในด้านกราฟฟิก อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เครื่องระดับทำงานใหญ่ยักษ์ครับ ด้วย แรมที่มาแค่ 8-16 เท่านั้น ถ้าคุณต้องทำงานระดับโปรดักชั่น ที่ซับซ้อนกว่า ก็สามารถ"ทำได้ไ แต่ไม่ถึงกับรื่นเริงครับ อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้งานของคนทั่วไป 90% ในยุคนี้ และอีก 5 ปีข้างหน้า มันเกินพอแน่นอน
2.เมส์ห่วยมาก
อันนี้คงไม่เฉพาะรุ่นนี้ครับ แต่เมจิกเมาส์ของเค้า มีดีทุกอย่างยกเว้นสิ่งที่ควรจะต้องดีเป็นพื้นฐานของการใช้เมาส์คือ การจับที่เหมาะมือ ถ้าคุณต้องใช้เมาส์นานๆ เลื่อนไปมาบ่อยๆ แบบกดนั่น กดนี่ตำแหน่งต่างๆของจอ จะเมื่อยกับการลากเมาส์แบนๆนี้ไปมา ซึ่งผมเข้าใจว่า เขาออกแบบมาให้เน้นใช้งานร่วมกันระหว่างคำสั่งด้วยการสัมผัส กับปุ่มลัดบนคีย์บอร์ด และ สั่งการด้วยเสียงผสมกัน นั่นแหละครับ จะทำงานได้สะดวกขึ้น แต่มันไม่ได้ทำให้เมาส์นี้ใช้ได้ถนัดมือมากขึ้น ผมไม่รู้สึกว่าการชาร์จด้วยการหงายมันขึ้นเป็นปัญหานะครับ เพราะชาร์จแค่แป๊บเดียวเท่านั้นเอง ไม่ได้เดือดร้อนถึงขนาดที่ต้องชาร์จไป ใช้ไปให้ได้ ไม่งั้นโลกจะแตกสลาย
3 รุ่นเริ่มต้นราคาดี แต่แอบกั๊ก
เราจะเห็นได้ว่า ไอแม็ครุ่นเริ่มต้นนี้ ราคาถือว่าไม่เลวเลย แต่อย่างที่หลายๆคนรู้ว่า เค้ากั๊กคอร์ของภาคกราฟฟิกลง กั๊กพัดลมหายไปหนึ่งอัน ทั้งหมดนี้ ทำให้หากคุณมองหาไอแม็คไปมากกว่าแค่ใช้งานทั่วๆไป คงต้อขยับขึ้นมาเป็นรุ่นกลางเป็นตัวตั้งต้น เพราะ แม้ว่าการรีวิวออกมาพบว่ามันต่างกันไม่มากเท่าไหร่ แต่ ในการทำงานหนักๆ ไอ้ไม่เท่าไหร่ รวมๆกันบ่อยๆก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆครับ ที่สำคัญ การกั๊กพอร์ท ถือว่าทำให้ชีวิตค่อนข้างไม่ง่ายเลยทีเดียว
4.พอร์ทหายไปหมด
กลุ่มเป้าหมายของไอแม็คตัวนี้ คือ การใช้งานในบ้านคนทั่วไป ไปจนถึงงานสำนักงานมากกว่า งานสร้างสรรค์ผลิตงาน เอ้า ไม่ได้แปลว่ามันทำไม่ได้ครับ มันทำได้ แต่ คุณต้องต่อพ่วงสิ่งต่างๆพอสมควร ไปๆมาๆ ความเรียบและจบในตัวเดียว ก็จะตามมาด้วยสารพัดของที่ต่อพ่วงออกมากองอยู่บนโต๊ะ ดูๆไปแล้ว รกไม่แพ้พีซีด้วยซ้ำไป ยิ่งถ้านับรุ่นล่าง อย่างไรแล้วคุณก็ต้องมีพื้นที่เก็บงานภายนอกแน่นอน ผมต่อฮาร์ดไดรฟ์และ SSD รวมๆกันกว่า 4TB เอาไว้ เก็บซ่อนในโต๊ะก็แล้ว แต่ก็ยังไม่วายที่จะมีสายลากไปมา ดังนั้น นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้มันอาจไม่เหมาะกับคนที่ทำงานจริงๆจังๆครับ เอาแค่ ไม่มี SD Card Reader สำหรับงานภาพถ่าย แล้วเราต้องมี HUB วางไว้หรือห้อยออกมาจากด้านหลัง ก็ทำให้ความ compact ของมันหายไปเยอะเลย
5.จอเล็ก
24" ใหญ่เพียงพอกับการใช้งานปกติอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ไม่นับว่าสะดวกนักถ้าจะเอาไปทำงานอื่นๆจริงจัง อาจจะดูล้วต่างจาก 27" ไม่มาก แต่พอคุณตัดต่อวิดีโอ หรือทำภาพ คุณต้องจัดหน้าการทำงานให้เล็กลงสักหน่อย เพื่อให้ได้ไทม์ไลน์ที่ยาวขึ้น หรือ มีพื้นที่เลื่อนปุ่มต่างๆยาวขึ้นเพื่อความสะดวก และหากคุณแบ่งจอเป็นครึ่งหนึ่งเพื่อใช้งานสองหน้าต่างคู่กัน ผมว่า หน้าต่างมันแคบไปสักนิด เวลาอ่านอะไรจริงๆจัง บรรทัดมันสั้นไปหน่อย ซึ่งข้อนี้ ไม่ใช่เฉพาะสายกราฟฟิก สายงานภาพจะพบ แต่ ถ้าเป็นคนที่ต้องพิมพ์งาน ทำเอกสาร ทำข้อมุลสถิติ พร้อมกับที่เปิดอ่านเอกสารอีกชุด หรืออีเมลคำสั่งเจ้านาย ก็จะพบกับความรู้สึกนี่ได้ไม่ยากครับ
สรุป
นี่คือไอแม็คสำหรับการใช้งานทั่วไป ที่ทำได้เกินตัว ในราคาที่น่าสนใจที่สุดตัวหนึ่งของแอปเปิ้ล แต่ ถ้าจะนับว่ามันเป็นคอมฯสำหรับการทำงานสร้างสรรค์ ในราคาที่เย้ายวน ต้องบอกว่า มันไม่ใช่แบบนั้นครับ ทั้งสมรรถนะของตัวมันเอง และ ปัจจัยรอบๆเครื่อง ที่เมื่อรวมๆกันแล้ว รอเวลาอีกสักหน่อยให้ราคามันลงมาเพื่อจัดหาตัวเสิรมเช่น จอเพิ่ม และ ฮับดีๆ น่าจะคุ้มกว่า เพราะในราคาเปิดตัวถ้าจัดทั้งหมดที่ว่ามา มันชักจะบานปลายครับ ไม่ก็ รอดูราคาของรุ่นโปรที่จะมาในอนาคต อาจจะคุ้มค่ากว่า
และสำหรับการใช้งานทั่วไป ผมว่า แม็คมินิ เป็นคำตอบที่โอเคกว่าเยอะ เพราะ คุณไม่จำเป็นต้องใช้จอที่สีละเอียด ครอบคลุมพื้นที่สีกว้างเวลาทำสีกราฟแท่งครับ การจ่ายเพื่อให้ได้สิ่งนี้ที่ไม่ได้ใช้มามันก็ไม่ได้ถือว่าจำเป็นเลย เอาเงินไปซื้อจอเน้นใหญ่และละเอียดมาจะได้การทำงานที่โอเคกว่ามาก นอกจากนั้น ไปหาเมาส์จับถนัดๆมา ใช้ร่วมกับแทร็คแพด น่าจะโอเคกว่าเมาส์ตัวเดียวครับ
นอกเสียจากว่า
คุณอยากได้จอแบนๆ มีสีสันสวยงาม อยากได้เครื่องที่เรียบสนิทรวมกันเป็นชิ้นเดียวบนโต๊ะเรียบๆ(ซึ่งในความเป็นจริง ก็จะงอกของต่อออกมา) หรือคุณไม่สนใจจะใช้พื้นที่เก็บงานเยอะๆ(งานเอกสาร จริงๆ 256GB นี่ใช้ได้ยาวนานมาก ยิ่งรวมกับระบบคลาวด์ค่ายต่างๆ ถูกกว่าเยอะ) ซึ่งอันนี้น่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่น่าจะเป็นเหตุเป็นผลให้ตัดสินใจซื้อ
ส่วนตัว
ผมว่ามันไม่สุดครับ ทำงานหนักๆก็ไม่สุด จะราคาจับต้องได้ก็ไม่สุดเพราะ ในความต้องการทำงานพื้นฐาน ฟีเจอร์หลายๆอย่างก็เกินความต้องการและทำให้มันแพงกว่าตัวเลือกอื่นๆได้ไม่ยาก แต่ ถามว่าสีสวยมั้ย ต้องบอกว่า มีเสน่ห์ครับ ยิ่งถ้าคุณอินกับปรัชญาการออกแบบของค่ายนี้ หากเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือทำงานฟรีแลนซ์ที่ต้องไปพื้นที่อื่นๆ ผมว่า ไปแม็คบุ๊คแอร์ จะดีกว่า แล้วเอาเงินอีกครึ่งหมื่น ไปหาจอ 27" สีปกติๆมาต่อซะ คุ้มกว่าเยอะครับ นอกจากใช้งานในบ้านแล้ว ยังไว้ออกไปทำงานข้างนอกได้ด้วย มีเงินเหลือซื้อคีย์บอร์ด เมาส์ อย่าลืมนะครับว่า ตัวนั้น ออกมาก่อน ตอนนี้ก็มีโปรแล้ว ในอนาคต เมื่อมีการทำราคาลงมา มันจะกลายเป็นโน้ตบุ๊คโคตรคุ้มเลยทีเดียว (ผมก็จะรอเปลี่ยนแม็คบุ๊คตอนนั้นแหละครบ)
iMac 24" M1 GPU 8 Core Ram 8GB SSD256GB
งานที่ทำ
- งานเขียนบทความ
- งานถ่ายภาพ แต่งภาพ
- งานกราฟฟิก ภาพ และตัวหนังสือ
- ตัดต่อวิดีโอ 1080p - 4K
- งาน FX พื้นฐาน ตัวหนังสือ แสง ซ้อนภาพ ย้อมสี
- งานตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง
- งานไลฟ์ถ่ายทอดสด
Software : Adobe PS, Adobe Lr, Davinci Resolve, OBS Studio, Google Chrome, Line, Groundaudio
นอกนั้นใช้ Native App ครับ
5 ข้อเสีย imac 24"
1. M1 ไม่ได้แรงขนาดนั้น
ใครที่คิดว่าชิพตัวนี้ มันเทพไร้เทียมทาน ต้องบอกเลยนะครับว่าไ่ใช่ โดยรวมแล้วมันทำงานได้ดีในระดับของพีซี ในราคาไม่ต่างกัน ยกเว้นว่าคุณจะเทียบกับช่วงการ์ดจอแพงๆ ก็จะพบว่า มันมีภาษีมากกว่านิดๆในด้านกราฟฟิก อย่างไรก็ตาม มันไม่ใช่เครื่องระดับทำงานใหญ่ยักษ์ครับ ด้วย แรมที่มาแค่ 8-16 เท่านั้น ถ้าคุณต้องทำงานระดับโปรดักชั่น ที่ซับซ้อนกว่า ก็สามารถ"ทำได้ไ แต่ไม่ถึงกับรื่นเริงครับ อย่างไรก็ตาม สำหรับการใช้งานของคนทั่วไป 90% ในยุคนี้ และอีก 5 ปีข้างหน้า มันเกินพอแน่นอน
2.เมส์ห่วยมาก
อันนี้คงไม่เฉพาะรุ่นนี้ครับ แต่เมจิกเมาส์ของเค้า มีดีทุกอย่างยกเว้นสิ่งที่ควรจะต้องดีเป็นพื้นฐานของการใช้เมาส์คือ การจับที่เหมาะมือ ถ้าคุณต้องใช้เมาส์นานๆ เลื่อนไปมาบ่อยๆ แบบกดนั่น กดนี่ตำแหน่งต่างๆของจอ จะเมื่อยกับการลากเมาส์แบนๆนี้ไปมา ซึ่งผมเข้าใจว่า เขาออกแบบมาให้เน้นใช้งานร่วมกันระหว่างคำสั่งด้วยการสัมผัส กับปุ่มลัดบนคีย์บอร์ด และ สั่งการด้วยเสียงผสมกัน นั่นแหละครับ จะทำงานได้สะดวกขึ้น แต่มันไม่ได้ทำให้เมาส์นี้ใช้ได้ถนัดมือมากขึ้น ผมไม่รู้สึกว่าการชาร์จด้วยการหงายมันขึ้นเป็นปัญหานะครับ เพราะชาร์จแค่แป๊บเดียวเท่านั้นเอง ไม่ได้เดือดร้อนถึงขนาดที่ต้องชาร์จไป ใช้ไปให้ได้ ไม่งั้นโลกจะแตกสลาย
3 รุ่นเริ่มต้นราคาดี แต่แอบกั๊ก
เราจะเห็นได้ว่า ไอแม็ครุ่นเริ่มต้นนี้ ราคาถือว่าไม่เลวเลย แต่อย่างที่หลายๆคนรู้ว่า เค้ากั๊กคอร์ของภาคกราฟฟิกลง กั๊กพัดลมหายไปหนึ่งอัน ทั้งหมดนี้ ทำให้หากคุณมองหาไอแม็คไปมากกว่าแค่ใช้งานทั่วๆไป คงต้อขยับขึ้นมาเป็นรุ่นกลางเป็นตัวตั้งต้น เพราะ แม้ว่าการรีวิวออกมาพบว่ามันต่างกันไม่มากเท่าไหร่ แต่ ในการทำงานหนักๆ ไอ้ไม่เท่าไหร่ รวมๆกันบ่อยๆก็ไม่ใช่เรื่องเล็กๆครับ ที่สำคัญ การกั๊กพอร์ท ถือว่าทำให้ชีวิตค่อนข้างไม่ง่ายเลยทีเดียว
4.พอร์ทหายไปหมด
กลุ่มเป้าหมายของไอแม็คตัวนี้ คือ การใช้งานในบ้านคนทั่วไป ไปจนถึงงานสำนักงานมากกว่า งานสร้างสรรค์ผลิตงาน เอ้า ไม่ได้แปลว่ามันทำไม่ได้ครับ มันทำได้ แต่ คุณต้องต่อพ่วงสิ่งต่างๆพอสมควร ไปๆมาๆ ความเรียบและจบในตัวเดียว ก็จะตามมาด้วยสารพัดของที่ต่อพ่วงออกมากองอยู่บนโต๊ะ ดูๆไปแล้ว รกไม่แพ้พีซีด้วยซ้ำไป ยิ่งถ้านับรุ่นล่าง อย่างไรแล้วคุณก็ต้องมีพื้นที่เก็บงานภายนอกแน่นอน ผมต่อฮาร์ดไดรฟ์และ SSD รวมๆกันกว่า 4TB เอาไว้ เก็บซ่อนในโต๊ะก็แล้ว แต่ก็ยังไม่วายที่จะมีสายลากไปมา ดังนั้น นี่จึงเป็นสิ่งที่ทำให้มันอาจไม่เหมาะกับคนที่ทำงานจริงๆจังๆครับ เอาแค่ ไม่มี SD Card Reader สำหรับงานภาพถ่าย แล้วเราต้องมี HUB วางไว้หรือห้อยออกมาจากด้านหลัง ก็ทำให้ความ compact ของมันหายไปเยอะเลย
5.จอเล็ก
24" ใหญ่เพียงพอกับการใช้งานปกติอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ไม่นับว่าสะดวกนักถ้าจะเอาไปทำงานอื่นๆจริงจัง อาจจะดูล้วต่างจาก 27" ไม่มาก แต่พอคุณตัดต่อวิดีโอ หรือทำภาพ คุณต้องจัดหน้าการทำงานให้เล็กลงสักหน่อย เพื่อให้ได้ไทม์ไลน์ที่ยาวขึ้น หรือ มีพื้นที่เลื่อนปุ่มต่างๆยาวขึ้นเพื่อความสะดวก และหากคุณแบ่งจอเป็นครึ่งหนึ่งเพื่อใช้งานสองหน้าต่างคู่กัน ผมว่า หน้าต่างมันแคบไปสักนิด เวลาอ่านอะไรจริงๆจัง บรรทัดมันสั้นไปหน่อย ซึ่งข้อนี้ ไม่ใช่เฉพาะสายกราฟฟิก สายงานภาพจะพบ แต่ ถ้าเป็นคนที่ต้องพิมพ์งาน ทำเอกสาร ทำข้อมุลสถิติ พร้อมกับที่เปิดอ่านเอกสารอีกชุด หรืออีเมลคำสั่งเจ้านาย ก็จะพบกับความรู้สึกนี่ได้ไม่ยากครับ
สรุป
นี่คือไอแม็คสำหรับการใช้งานทั่วไป ที่ทำได้เกินตัว ในราคาที่น่าสนใจที่สุดตัวหนึ่งของแอปเปิ้ล แต่ ถ้าจะนับว่ามันเป็นคอมฯสำหรับการทำงานสร้างสรรค์ ในราคาที่เย้ายวน ต้องบอกว่า มันไม่ใช่แบบนั้นครับ ทั้งสมรรถนะของตัวมันเอง และ ปัจจัยรอบๆเครื่อง ที่เมื่อรวมๆกันแล้ว รอเวลาอีกสักหน่อยให้ราคามันลงมาเพื่อจัดหาตัวเสิรมเช่น จอเพิ่ม และ ฮับดีๆ น่าจะคุ้มกว่า เพราะในราคาเปิดตัวถ้าจัดทั้งหมดที่ว่ามา มันชักจะบานปลายครับ ไม่ก็ รอดูราคาของรุ่นโปรที่จะมาในอนาคต อาจจะคุ้มค่ากว่า
และสำหรับการใช้งานทั่วไป ผมว่า แม็คมินิ เป็นคำตอบที่โอเคกว่าเยอะ เพราะ คุณไม่จำเป็นต้องใช้จอที่สีละเอียด ครอบคลุมพื้นที่สีกว้างเวลาทำสีกราฟแท่งครับ การจ่ายเพื่อให้ได้สิ่งนี้ที่ไม่ได้ใช้มามันก็ไม่ได้ถือว่าจำเป็นเลย เอาเงินไปซื้อจอเน้นใหญ่และละเอียดมาจะได้การทำงานที่โอเคกว่ามาก นอกจากนั้น ไปหาเมาส์จับถนัดๆมา ใช้ร่วมกับแทร็คแพด น่าจะโอเคกว่าเมาส์ตัวเดียวครับ
นอกเสียจากว่า
คุณอยากได้จอแบนๆ มีสีสันสวยงาม อยากได้เครื่องที่เรียบสนิทรวมกันเป็นชิ้นเดียวบนโต๊ะเรียบๆ(ซึ่งในความเป็นจริง ก็จะงอกของต่อออกมา) หรือคุณไม่สนใจจะใช้พื้นที่เก็บงานเยอะๆ(งานเอกสาร จริงๆ 256GB นี่ใช้ได้ยาวนานมาก ยิ่งรวมกับระบบคลาวด์ค่ายต่างๆ ถูกกว่าเยอะ) ซึ่งอันนี้น่าจะเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่น่าจะเป็นเหตุเป็นผลให้ตัดสินใจซื้อ
ส่วนตัว
ผมว่ามันไม่สุดครับ ทำงานหนักๆก็ไม่สุด จะราคาจับต้องได้ก็ไม่สุดเพราะ ในความต้องการทำงานพื้นฐาน ฟีเจอร์หลายๆอย่างก็เกินความต้องการและทำให้มันแพงกว่าตัวเลือกอื่นๆได้ไม่ยาก แต่ ถามว่าสีสวยมั้ย ต้องบอกว่า มีเสน่ห์ครับ ยิ่งถ้าคุณอินกับปรัชญาการออกแบบของค่ายนี้ หากเป็นนักเรียน นักศึกษา หรือทำงานฟรีแลนซ์ที่ต้องไปพื้นที่อื่นๆ ผมว่า ไปแม็คบุ๊คแอร์ จะดีกว่า แล้วเอาเงินอีกครึ่งหมื่น ไปหาจอ 27" สีปกติๆมาต่อซะ คุ้มกว่าเยอะครับ นอกจากใช้งานในบ้านแล้ว ยังไว้ออกไปทำงานข้างนอกได้ด้วย มีเงินเหลือซื้อคีย์บอร์ด เมาส์ อย่าลืมนะครับว่า ตัวนั้น ออกมาก่อน ตอนนี้ก็มีโปรแล้ว ในอนาคต เมื่อมีการทำราคาลงมา มันจะกลายเป็นโน้ตบุ๊คโคตรคุ้มเลยทีเดียว (ผมก็จะรอเปลี่ยนแม็คบุ๊คตอนนั้นแหละครบ)
iMac 24" M1 GPU 8 Core Ram 8GB SSD256GB
งานที่ทำ
- งานเขียนบทความ
- งานถ่ายภาพ แต่งภาพ
- งานกราฟฟิก ภาพ และตัวหนังสือ
- ตัดต่อวิดีโอ 1080p - 4K
- งาน FX พื้นฐาน ตัวหนังสือ แสง ซ้อนภาพ ย้อมสี
- งานตัดต่อเสียง มิกซ์เสียง
- งานไลฟ์ถ่ายทอดสด
Software : Adobe PS, Adobe Lr, Davinci Resolve, OBS Studio, Google Chrome, Line, Groundaudio
นอกนั้นใช้ Native App ครับ