▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
บันทึกนักเดินทาง
วัคซีน (Vaccine)
โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ 2019 (COVID-19)
เที่ยวต่างประเทศ
ประเทศอังกฤษ
(2 สาวเพื่อนซี้) - ฉีด Pfizer ที่ UK กับชีวิต new normal ที่ยังต้องระวังคนติดวันละ 50,000 คน!!
จากคราวที่แล้วที่เล่าเรื่องชีวิตที่อังกฤษในช่วงระบาดหนักตอนหน้าหนาว นี่ก็ผ่านไปครึ่งปีแล้ว เลยคิดว่าถึงเวลามาอัพเดตละ อย่างแรกที่เปลี่ยนไปคือเราฉีด vaccine แล้ว 1 เข็ม เลยอยากจะมาเล่าประสบการณ์ ส่วนเรื่องที่สอง คือเราย้ายออกจาก London มาอยู่ที่เมือง Cheltenham
เราเลือกที่จะย้ายออกมา เพราะคิดว่าคุณภาพชีวิตน่าจะดีกว่า ถึงแม้จะไม่ค่อยรู้จักใครแถวนี้ก็ตาม แต่ขับเราไปลอนดอนก็ 2-3 ชม อยู่แถว Cotswolds มีที่ให้ไปพักผ่อนเยอะ ไหนจะที่เที่ยว outdoor ไหนจะ spa คือชีวิตแถวนี้ดีมาก
Cheltenham ในอดีตเป็นเมืองที่คนมีเงินมาพักผ่อนคลายร้อนช่วง Summer เพราะอากาศจะเย็นกว่าลอนดอนนิดหน่อย แล้วเมืองนี้ยังขึ้นชื่อเรื่องสปาอีกด้วย ปัจจุบันคนไทยน่าจะพอเคยได้ยินชื่อเมืองนี้ บ้างเพราะโรงเรียนหญิง Cheltenham Ladies College ที่คนไทยมักจะส่งลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนมาเรียนตั้งอยู่ที่นี่
ความเดิมตอนที่แล้ว https://traveldouble.co/2020/12/30/จากนักเดินทางกว่า100ประเ/
ไปฉีด vaccine กันดีกว่า
เรานัดฉีดเข็มแรก วันที่ 5 June 2021 ที่ Heathrow Vaccination Center ตอนจองก็ง่ายมาก เข้าไปหน้า website ของ NHS เวลาที่เค้าเปิดให้ช่วงอายุเราจอง แล้วก็ใส่ข้อมูลที่แจ้งไว้กับ GP แล้วก็จองได้เลย รวมๆ น่าจะไม่ถึง 5 นาทีก็จองเสร็จทั้ง 2 เข็ม เข็มที่ 2 ของเราตอนแรกต้องรอ 12 weeks นัดได้ฉีดอีกที 26 August 2021 แต่พอต้นเดือน กค NHS เปิดให้เลื่อนเร็วขึ้นได้ เลยจองเป็นวันที่ 1 สค หลังฉีด 14 วัน ก็จะสามารถเดินทางไปหลายๆที่ได้ โดยไม่ต้องกักตัวแล้ว
ส่วนทำไมเลือกฉีดที่ Heathrow แทนที่จะฉีดที่ Cheltenham ก็เพราะว่าตอนเลือกที่ฉีดแถวบ้านไม่มีที่ อาจจะเป็นเพราะคนส่วนใหญ่ในเมืองนี้อายุมาก vaccination center เลยจะมี astra zeneca กับ moderna แต่ช่วงอายุเราที่อังกฤษให้ฉีด Pfizer ก็เลยมีให้เลือกแค่บางที่ เราขับมาจาก Cheltenham กินข้าวกับเพื่อน แล้วค่อยฉีดก็สะดวกดี เลยเลือกเข้ามาลอนดอน
ตอนฉีดก็ง่ายแสนง่าย ไปถึงก็เช็คเบอร์จอง เสร็จแล้วก็เดินไปอีกห้องหนึ่งเพื่อเช็ค health history เรื่องแพ้ยาอะไรงี้ พอเสร็จก็ไปห้องต่อไปเพื่อฉีดยา ฉีดเสร็จนั่งพัก 15 นาทีก็กลับบ้านได้ เบ็ดเสร็จ 25 นาทีเองค่ะ สถานที่ก็ดีมาก สะอาด มีแอร์ มีลานจอดรถ เจ้าหน้าที่เยอะมากๆ คนไปฉีดก็ไม่เยอะ อังกฤษจัดเวลา และสถานที่สำหรับ social distancing ดีมากๆ เลยค่ะ
ผลข้างเคียง Side effects
วันที่ฉีด ไม่รู้สึกอะไรตอนฉีด หลังจากนั้นสัก 2-3 ชม มีแขนหนักๆ
วันที่ 1-2 ปวดแขน แต่ก็ยังเล่นกีฬา ยกของหนักได้
วันที่ 3-4 เจ็บแค่ถ้าโดนตรงที่ฉีด
นอกจากนี้ ไม่มีอาการอะไรเลยค่ะ ไม่มีไข้ สบายๆ ปกติ ความเห็นส่วนตัวนะคะ ฉีดดีกว่าไม่ฉีด ผลข้างเคียงมีทุกตัว แล้วแต่คน ถ้าเราอยู่ไทย ก็คงไปฉีด Astra ถึงแม้ว่าทางอังกฤษจะไม่แนะนำให้ฉีดในคนที่อายุต่ำกว่า 40 ก็ตาม โอกาสมีผลข้างเคียงร้ายแรงจากการฉีด covax (ไม่เข้าใจว่าทำไมที่ไทยไม่เข้าโครงการนะจ๊ะ) น่าจะน้อยกว่าโอกาสตายถ้าติดเยอะเลยค่ะ อีกอย่าง ถ้าเป็น long covid จะต้องเสียเวลารักษาตัวนานมากๆ
ชีวิตที่ปกติแบบ new normal…มีที่ไหนให้เที่ยวบ้างนะ
New normal ในแง่มุมต่างๆ ก่อน Freedom Day วันที่ 19 July นี้ นี่เราก็รอดูอยู่ว่า พอประเทศเปิด แล้วบรรยากาศจะเปลี่ยนมากแค่ไหน ที่รู้แน่ๆคือ ถ้าใครฉีดวัคซีนจากอังกฤษครบแล้วสามารถเดินทางได้ เวลากลับมาไม่ต้องกักตัวนอกจากไปประเทศ red list แล้วก็ไม่บังคับใส่หน้ากาก แต่ที่เขียนเล่าให้ฟังนี้คือประสบการณ์ก่อนวันที่ 19 นะคะ
ร้านค้า/ร้านอาหาร: gov บอกให้ social distancing แต่เอาจริงๆ ก็ไม่มีร้านไหนจัดให้คนนั่งห่างกันได้ถึง 2m ส่วนร้านค้าก็แค่มี limit จำนวนคน แล้วในร้านค้าก็ต้องใส่หน้ากาก แต่ในร้านอาหารใส่แค่ตอนเดือนเข้าร้านและเวลาเดินไปห้องน้ำ
ที่เที่ยว: ทุกอย่างต้องจอง ไม่ว่าจะเข้าที่เที่ยวที่ไหน ก็ต้องจองออนไลน์ไปก่อนเพราะเค้ามีลิมิตจำนวนคน ซึ่งอันนี้เราชอบนะคะ ทำให้ไม่แออัดและหวังว่าจะใช้ระบบแบบนี้ต่อไป
หาหมอ: ยากลำบาก ยากเย็นแสนเข็ญมาก จะหาหรือจะติดต่อ GP คือไม่ใช่ง่ายๆ หมอกลัวคนไข้ ถ้าไม่จำเป็นจริงๆเค้าไม่พบนะคะ ให้นัดทำ online consultation หมอบางคนถึงขั้นไม่ยอมพบถึงแม้จะเป็น emergency อย่างเช่นเวลาเด็กเล็กป่วยหายใจไม่ออก มีหมอบางคนบอกให้กลับไปตรวจโควิดมาก่อน...อันนี้ก็โหดไปหน่อย แอบคิดถึง private healthcare ที่ไทยเลย เราอยู่นี่ ถึงจะใช้ NHS ได้ฟรี แต่ก็ไม่ได้สะดวกสะบายเท่า รพ เอกชนที่ กทม
ยิม/fitness/spa: เปิดปกติ ต้องใส่หน้ากากแค่ตอนเดินเข้าไป เอาจริงๆ หลายๆยิม ไม่รอ freedom day แล้วด้วยซ้ำ ใครจะใส่ก็ใส่ รับผิดชอบตัวเอง
Rapid Antigen Test: รัฐแจกฟรี(นะจ๊ะ) จะสั่งออนไลน์มาส่งฟรีที่บ้านก็ได้ หรือจะไปตาม Boots/ร้านขายยาก็ได้ ตรวจเสร็จก็บันทึกข้อมูลออนไลน์ ง่ายๆ เลย รัฐให้ชุดละ 7 test kits…เค้าอยากให้ตรวจอาทิตย์ละหลายๆครั้ง เฉลี่ยใช้เดือนละ 1 กล่องต่อคน แต่เอาจริงๆ คนก็ตรวจเท่าที่จำเป็นแหละ
ที่เที่ยวต่างๆ แถว Cheltenham/Cotswolds
1. Picnic: เวลาอากาศดีคนที่นี่เค้าก็จะไปนั่งกันข้างนอกตามสวนนะคะ มีวันนึงเราเลยเลือกไปปิกนิกที่ Cowley Manor ห่างจากบ้านแค่ประมาณ 15 นาที ที่โรงแรมเค้าก็มีสปา ร้านอาหาร แล้วก็บริเวณสวนให้เดินกว้างเหมือนกัน แถวนี้ mansion เก่าๆ เยอะค่ะและปัจจุบันก็โดนแปลงเป็นโรงแรมกันหลายที่เลย อีกที่ๆไปได้ คือสวน Pitville Park ที่อยู่ใกล้ๆ Cheltenham Racecourse เรายังไม่ได้ไปเพราะว่าวันที่อากาศดีคนเยอะมากๆ
2. Bamford: สปาที่ชอบที่สุดตั้งแต่ไปมา ใหม่สะอาดรู้สึกได้ถึงความใส่ใจของเจ้าของ ตัว wellness center/spa ตั้งอยู่ใน Daylesford ซึ่งเป็น organic farm ชื่อดังของอังกฤษ นอกจากนั้น farm ยังอยู่ในหมู่บ้าน Daylesford village ที่เป็นหมู่บ้านส่วนตัวอีกด้วย ทั้งหมดเป็นของมหาเศรษฐี เจ้าของ JCB...ตัวฟาร์มและสปาเป็นธุรกิจของภรรยาเขา ที่ spa ก็จะใช้ products ของเค้าเอง เราชอบ facial oil ของเค้ามาก จากหน้าพังๆ กู้หน้าเราได้ดีเลย ใครไม่อยากนวดก็ไปแค่เล่นน้ำ เข้าห้อง steam/sauna ทานอาหาร healthy และ grocery shopping ก็ได้
3. Batsford Arboretum: สวนใกล้ๆ Bamford/Daylesford เหมาะแก่การไปยืดเส้นยืดสายก่อนหรือหลังสปาค่ะ ถ้าให้ไปโดดๆคงไม่ไป ไม่มีอะไรขนาดนั้น