เรื่องนี้กำลังเป็นปัญหากับเรามากๆเลยค่ะ เป็นมากหลายครั้งเเล้วด้วย
มันเหมือนเราชอบเเคร์ความรู้สึกมากๆ จนเรารู้สึกลำบากใจ
ยกตัวอย่างเช่น
เราชอบเเคร์ความรู้สึกเพื่อนมากๆ พยายามทำอะไรทุกอย่างให้เพื่อนมีความสุข เวลาทำงานให้เพื่อนเราก็กังวลตลอดว่าเขาจะพอใจกลับงานที่เราทำให้มั้ย ทั้งๆที่จริงๆเเล้วเราไม่จำเป็นต้องทำงานให้เค้าด้วยซ้ำ เเต่ก็ชอบเอามาทำให้ตลอดเลย ( เเต่เพื่อนไม่ได้ว่าอะไรนะคะ มันเป็นความกังวลจากตัวเองทั้งนั้น )
หรือตอนที่เพื่อนทำผิดกับเรา ตอนเเรกเราจะโกรธมากๆ จนไม่คุยด้วย เเล้วเพื่อนก็จะพูดว่า”ขอบโทดจะไม่ทำอีกเเล้ว” เป็นเเบบนี้ทุกครั้ง เเล้วเราก็จะหายโกรธง่ายๆทุกครั้ง ทั้งๆที่เราตั้งใจไว้เเล้วว่าจะโกรธนานๆให้เค้าเข็ด ครั้งหน้าจะได้ไม่ทำอีก เเต่ก็ชอบใจอ่อนอยู่เรื่อย
หรือจะเป็นตอนที่เพื่อนขอข้อสอบหรือขอการบ้าน เรารู้ก่อนล้วงหน้าว่าเค้าต้องมาขอเเน่ๆ ในใจก็คิดว่าจะไม่ให้ เพราะเราให้เค้ามาหลายครั้งเเล้ว เเล้วถ้าให้ข้อสอบเค้า เกรดเค้าก็จะดีกว่าเราสิ ไม่ให้เด็ดขาด เเต่พอเพื่อนมาขอก็จะใจอ่อนยอมให้ทุกทีเลยค่ะ
เเละเรื่องที่จะปรึกษาก็คือ
เวลามีคนมาจีบ เราจะไม่ค่อยกล้าปฏิเสธ
ไม่ค่อยกล้าปฏิเสธในที่นี้คือเราจะหาวิธีที่จะปฏิเสธให้ไม่ทำร้ายจิจใจเค้ามากที่สุด ล่าสุดก็คือมีคนมาขอจีบ เเต่เรารู้ว่ายังไงเราก็ไม่ชอบเค้าหรอก เราเลยบอกเค้าว่า จีบไม่ได้หรอกนะ เเม่ไม่อนุญาติให้มีเเฟนเเต่ถ้าให้เล่นเกมด้วยก็โอเค ประโยคหลังนี้ที่เราพิมพ์ไปเพราะเรากลัวเค้าเสียใจ เราผิดเองที่ไม่คิดให้ดีก่อนส่ง เรารู้สึกเเย่มาก มันเหมือนเราให้ความหวังเค้าเลย
เราอยากจะบล็อคเค้าเเต่ในใจก็กลัวว่าเค้าจะเสียใจรึเปล่า อาจจะเป็นเพราะเราเองก็เคยเสียใจมากก่อน มันเลยทำให้เราเป็นห่วงความรู้สึกคนอื่นมาก ไม่อยากให้เค้ารู้สึกเเบบที่เรารู้สึก เพราะเรารู้ว่ามันเเย่เเค่ไหน
เราอยากจะปรึกษาใครสักคน เเต่เราอยู่โรงเรียนนานาชาติเเล้วสังคมมันเเตกต่างจากรร.ไทยค่อนค้างมาก เลยทำให้หาคนที่จะเข้าใจเราได้ยากจริงๆ ถ้าเราบอกเค้าเรื่องนี้ คนๆนั้นก็คงจะคิดว่า เราอยากอวดว่ามีผู้ชาจมาจีบ หรือ ไม่ก็อยากทำตัวให้ตัวเองดูสวย เเน่ๆค่ะ
เราต้องการคำปรึกษาจริงๆค่ะ
เเคร์ความรู้สึกคนอื่นมากเกินไป
มันเหมือนเราชอบเเคร์ความรู้สึกมากๆ จนเรารู้สึกลำบากใจ
ยกตัวอย่างเช่น
เราชอบเเคร์ความรู้สึกเพื่อนมากๆ พยายามทำอะไรทุกอย่างให้เพื่อนมีความสุข เวลาทำงานให้เพื่อนเราก็กังวลตลอดว่าเขาจะพอใจกลับงานที่เราทำให้มั้ย ทั้งๆที่จริงๆเเล้วเราไม่จำเป็นต้องทำงานให้เค้าด้วยซ้ำ เเต่ก็ชอบเอามาทำให้ตลอดเลย ( เเต่เพื่อนไม่ได้ว่าอะไรนะคะ มันเป็นความกังวลจากตัวเองทั้งนั้น )
หรือตอนที่เพื่อนทำผิดกับเรา ตอนเเรกเราจะโกรธมากๆ จนไม่คุยด้วย เเล้วเพื่อนก็จะพูดว่า”ขอบโทดจะไม่ทำอีกเเล้ว” เป็นเเบบนี้ทุกครั้ง เเล้วเราก็จะหายโกรธง่ายๆทุกครั้ง ทั้งๆที่เราตั้งใจไว้เเล้วว่าจะโกรธนานๆให้เค้าเข็ด ครั้งหน้าจะได้ไม่ทำอีก เเต่ก็ชอบใจอ่อนอยู่เรื่อย
หรือจะเป็นตอนที่เพื่อนขอข้อสอบหรือขอการบ้าน เรารู้ก่อนล้วงหน้าว่าเค้าต้องมาขอเเน่ๆ ในใจก็คิดว่าจะไม่ให้ เพราะเราให้เค้ามาหลายครั้งเเล้ว เเล้วถ้าให้ข้อสอบเค้า เกรดเค้าก็จะดีกว่าเราสิ ไม่ให้เด็ดขาด เเต่พอเพื่อนมาขอก็จะใจอ่อนยอมให้ทุกทีเลยค่ะ
เเละเรื่องที่จะปรึกษาก็คือ
เวลามีคนมาจีบ เราจะไม่ค่อยกล้าปฏิเสธ
ไม่ค่อยกล้าปฏิเสธในที่นี้คือเราจะหาวิธีที่จะปฏิเสธให้ไม่ทำร้ายจิจใจเค้ามากที่สุด ล่าสุดก็คือมีคนมาขอจีบ เเต่เรารู้ว่ายังไงเราก็ไม่ชอบเค้าหรอก เราเลยบอกเค้าว่า จีบไม่ได้หรอกนะ เเม่ไม่อนุญาติให้มีเเฟนเเต่ถ้าให้เล่นเกมด้วยก็โอเค ประโยคหลังนี้ที่เราพิมพ์ไปเพราะเรากลัวเค้าเสียใจ เราผิดเองที่ไม่คิดให้ดีก่อนส่ง เรารู้สึกเเย่มาก มันเหมือนเราให้ความหวังเค้าเลย
เราอยากจะบล็อคเค้าเเต่ในใจก็กลัวว่าเค้าจะเสียใจรึเปล่า อาจจะเป็นเพราะเราเองก็เคยเสียใจมากก่อน มันเลยทำให้เราเป็นห่วงความรู้สึกคนอื่นมาก ไม่อยากให้เค้ารู้สึกเเบบที่เรารู้สึก เพราะเรารู้ว่ามันเเย่เเค่ไหน
เราอยากจะปรึกษาใครสักคน เเต่เราอยู่โรงเรียนนานาชาติเเล้วสังคมมันเเตกต่างจากรร.ไทยค่อนค้างมาก เลยทำให้หาคนที่จะเข้าใจเราได้ยากจริงๆ ถ้าเราบอกเค้าเรื่องนี้ คนๆนั้นก็คงจะคิดว่า เราอยากอวดว่ามีผู้ชาจมาจีบ หรือ ไม่ก็อยากทำตัวให้ตัวเองดูสวย เเน่ๆค่ะ
เราต้องการคำปรึกษาจริงๆค่ะ