ก่อนอื่นขอย้อนไปตอนปี 1 ก่อนนะครับ ช่วงนั้นเป็นช่วงกิจกรรมเฟรชชี่ที่ปี 1 ต้องมาทำกิจกรรมร่วมกัน จนมีอยู่วันหนึ่งที่รุ่นพี่บอกให้ปี 1 ทำพานไหว้ครูซึ่งในทุกๆ ปี ปี 1 จะเป็นปีที่ต้องเข้ากิจกรรมไหว้ครูนี้ วันนั้นก็เป็นวันที่รวมกันทำพานของแต่ละคณะ ก็มีผู้ชายคนนึงเข้ามาจีบ เขาใช้คำว่าขอจีบกับเราโดยตรงเลย เราก็โอเคจีบได้ จนเวลาผ่านไปเกือบสองเดือนสถานะของเราก็ค่อยๆ ขยับขึ้น เขาก็ไม่เคยจะขอเราเป็นแฟนนะครับแต่ในสายตาคนอื่นคือมองเราสองคนเป็นแฟนกันไปโดยปริยายก็เนื่องด้วยการกระทำและการแสดงออกมันมากกว่าคนที่เพิ่งจะคุยเพิ่งจะจีบกัน จนเวลาก็ผ่านล่วงเลยไปเกือบจบปี 1 เราเองก็เป็นคนบอกเลิกเขา ต้องขอบอกก่อนว่าสาเหตุที่เลิกคือเขาปิดบังเรามาตลอดว่าคบอีกคนไว้ก่อนหน้าที่จะมาจีบเราจนเราก็จับได้ 3 รอบ เขาก็บอกว่าเขาจะไปเคลียร์กับฝั่งทางนู้นให้เสร็จและก็มีเพื่อนสนิทที่ก็คอยเกลี้ยกล่อมให้เรากลับไปคืนดีกันด้วยเหตุผลที่ว่าตอนที่เรากับเขาอยู่ด้วยกันมันเป็นภาพที่ดูมีความสุขมากเลยนะ เราก็เออออไปตามเพื่อนในทุกๆ ครั้ง จนครั้งที่ 4 เราเลยขอแยกทางเพราะสองเหตุผลเลย คือ พฤติกรรมของเขาและนิสัยที่ขอโทษคนอื่นไม่เป็น เหตุผลที่สองนี่เองเป็นเหตุผลที่เราค่อนข้างที่ซีเรียส การขอโทษคนอื่นแม้เรื่องเล็กๆ น้อยๆ มันเป็นอะไรที่ทำให้คนฟังอุ่นใจและรู้สึกเอ็นดูนะ ถึงส่วนตัวแล้วจะรู้ว่าหากขอโทษบ่อยไปมันก็อาจจะน่ารำคาญ หากเปรียบเทียบกับคนที่ไม่แม้แต่จะขอโทษทั้งที่ตัวเองผิดและโยนเรื่องที่ตัวเองผิดมาให้เราจนกลายเป็นเราเองที่ผิด มันเหนื่อยจนเราก็ต้องตัดสินใจเลือกที่จะก้าวถอยหลังออกมาตั้งต้นของตัวเองใหม่ จากนั้นมาก็ไม่คุยและไม่ยุ่งอะไรอีกเลย จนกระทั่งมาถึงช่วงปี 4 เราได้รู้จักกับน้องปี 2 คนนึง ซึ่งก็รู้จักกันมาตั้งแต่น้องอยู่ปี 1 แล้ว และน้องเองก็ขอเป็นเมทร่วมห้องเรา เราก็ไม่ได้ว่าอะไรก็เห็นว่าเป็นน้องคนนึงที่นิสัยคล้ายๆ กับตัวเราเลย ประเด็นอยู่แฟนเก่าเรามันตามจีบน้องคนนี้โดยที่มันเองก็ไม่รู้ว่าน้องคนนี้เป็นเมทเรา เราก็เฉยๆ ในทีแรกจนน้องเมทเราก็ถามขึ้นว่า "รู้จักคนนี้มั้ย?" ด้วยความสนิทสนมของเรากับน้องเมทเราก็เลยถือวิสาสะเล่าให้ฟังแต่แต่ต้นและน้องเมทเองก็มีแฟนอยู่แล้วแต่แค่ไม่เปิดตัวซึ่งก็มีแค่เราที่รู้ กับแฟนเก่าเราน้องเมทก็บอกว่า "คิดกับพี่เขาได้แค่พี่น้องเท่านั้นเพราะส่วนตัวแล้วก็ไม่ได้ชอบนิสัยตอนที่พี่เขามาจีบอยู่แล้ว" และตกลงกันว่าจะเป็นแค่พี่น้อง จากนั้นมาน้องเมทเราก็ชวนแฟนเก่าเรามากินเหล้าที่ห้อง ลึกๆ แล้วน้องเมทเราก็สารภาพว่าที่ชวนมาก็เพราะอยากจะให้เราคืนดีกับแฟนเก่าถึงจะไม่ใช่สถานะเดิมก็เป็นเพื่อนกันแบบไม่มีอะไรผิดใจกันก็ดีจนเราเองก็ได้ปรับความเข้าใจกัน
จนเวลาผ่านไปเกือบเดือนเราก็สารภาพไปว่าจริงๆ แล้วลึกๆ เราก็ยังมีความรู้สึกที่ดีต่อเขาอยู่ถึงแม้จะรู้ตัวว่าเขาเป็นคนที่ทำไม่ดีต่อเรา อันนี้ต้องโทษตัวเองจริงๆ ที่มันไม่เข้มแข็งพอที่จะมูฟออน ตลอด 3 ปีที่ผ่านมาเราก็รอคอยเขามาตลอดว่าสักวันเขาจะกลับมาง้อพร้อมกับที่เขาจะเปลี่ยนตัวตนของตัวเองให้ดีขึ้น เรารู้ว่าเป็นการหวังที่ลมๆ แล้งๆ แต่ก็ทำได้แค่หวังไปแค่นั้น แต่คำตอบที่เราได้กลับมาคือเขาบอกว่า "จริงๆ ก็อยากไปคืนดีนะ แต่ก็ไม่อยากให้เธอเสียใจอีก เพราะเราก็ยังทำนิสัยเดิมๆ" เรารู้ตัวดีว่าเขาก็มีคนคบคนคุยอยู่เยอะ และเราจะไม่รู้สึกกับคำพูดนี้เลยแต่หากตัวของเขาเองที่ไม่ซื่อสัตย์ต่อคำพูดตัวเอง พฤติกรรมการแสดงออกที่เขาทำตลอดเวลาที่เราปรับความเข้าใจกันแล้ว เขาทำเหมือนเรากับเขากลับไปคบกันอีกครั้ง ทำเหมือนตอนนี้สถานะของเราคือเป็นแฟนกัน แบบที่เพื่อนกันไม่ทำแบบนี้ จนหลายคนที่เห็นเรากับเขาอยู่ด้วยกันถามเป็นคำถามเดียวกันเลยว่า "คืนดีกันแล้วหรอ?" "กลับมาคบกันแล้วหรอ?" เราก็บอกปัดทุกคนไป จนมาถึงช่วงที่เราอึดอัดทนไม่ไหวและเป็นอีกครั้งที่เราเดินออกมาเองอีกครั้ง และจากก่อนหน้านี้ที่เรารู้สึกดีกลับกลายเป็นไม่ชอบเลยที่เขาทำตัวฟอร์มจัดพร้อมกับปากไม่ตรงกับใจ...
...หรือเป็นเราเองที่ผิด และอันที่จริงเราควรโกรธตัวเอง?
โกรธแฟนเก่าด้วยเหตุผลแบบนี้ผิดไหม?