ปกติเวลาประเทศไทยมีศึกสงคราม กระทรวงต่างประเทศ จะพาไทยรอดพ้นวิกฤติได้ทุกที

มาคราวนี้ เป็นสงครามเชื้อโรค  กลับไม่ค่อยเห็นบทบาทกระทรวงต่างประเทศเท่าที่ควร ทั้งที่กระทรวงนี้เก่งภาษาที่สุด ทักษะการต่อรองระหว่างประเทศเก่งที่สุด

ต่างจากมาเลเซีย ฟิลิปปินส์  สิงคโปร์  ไต้หวัน  ญี่ปุ่น ที่กระทรวงต่างประเทศเขาทำงานแข็งขันมาก 

ล็อบบี้ จนได้วัคซีนชั้นนำเข้าประเทศตัวเองมากมาย  (ล่าสุด รัฐมนตรีต่างประเทศมาเลเซีย มาต่อรองไทยเรื่องแอสตร้าแบบเข้มข้นมาก)

และเอกชนไทย ที่มีคอนเนคชั่นระดับสูงกับต่างประเทศก็มีเยอะ น่าจะเข้ามาช่วยตรงนี้ด้วย 

รัฐบาลเองก็ต้องเปิดกว้างได้แล้ว ระดมคนเก่งเข้ามาช่วยแก้วิกฤติ  เอาแค่เรื่องภาษาอังกฤษ ในคณะรัฐมนตรีรวมไปถึงนายก ทุกคนอ่อนภาษามากๆ ต่อรองไม่ได้หรอก ต้องให้กระทรวงต่างประเทศหรือเอกชนทำเรื่องนี้

นี่เรายังโชคดีนะ ที่มีโรงงานผลิตวัคซีนอยู่ในประเทศ แม้จะเป็นลิขสิทธิ์ของแอสตร้า แต่อย่างน้อยเราก็รู้ Know how วิธีทำวัคซีน 

ซึ่ง Know how ตัวนี้แหละ จะทำให้เราผลิตวัคซีนของไทยแท้ 100% ภายในหกเดือนนี้

นอกจากนั้น ก็ยังอุ่นใจว่า ยังมีแอสตร้า มาฉีดในประเทศเดือนนึง 5-6 ล้านโดส (จากเดิมที่คาดว่าจะได้ 10 ล้านโดส)

5-6 ล้านโดสต่อเดือน เป็นฐาน แล้วให้กระทรวงต่างประเทศ  เอกชนไทย เร่งนำเข้าอีกเดือนละ 4-5 ล้านโดส เพื่อเติมเต็มให้ครบ 10 ล้าน