Code : ASW-G-08
Height 1 : 18m (1st - 5th form)
Height 2 : 18.8m (5th Ground - 6th form)
Empty Weight 1 : 28.5 metric tons (4th form)
Empty Weight 2 : 30.5 metric tons (6th form)
Weapons :
Mace x 1
Long Sword x 1
Gaunlet x 1 (1st Form & 2nd Form)
300mm Smoothbore Gun x 1
GR-Es02 Wire Claw x 1 (3rd Form)
60mm Machine Gun x 1 (Attached with 300mm Smoothbore Gun)
Large Special Mace x 1 (5tth Form Onward)
100mm Autocannon x 2 (5th Form Groudn Type Onward)
Arm Mortar x 4 (5th Form)
Features :
Alaya-Vijnana System x 1
Backpack Arm x 2
JEE-M103 Kutan Type-III x 1
Chest Reactive Armor x 1 (5th Form)
Power Source : Ahab Reactor x 2
Armor : Nanolaminate Armor
Manufacturer 1 : Gjallarhorn (Calamity War)
Manufacturer 2 : Tekkadan (2nd - 3rd Form)
Manufacturer 3 : Teiwaz : (4th - 6th Form)
Operator : Chryse Guard Security (CGS)
Pilot : Mikazuki Augus
เอาล่ะ ตอนนี้ก็เข้าสู่ในช่วงวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักไปทั่ว ซึ่งก็เป็นปัญหาของการทำมาหากินของประชาชนเราๆ และก็ต้องรอคอยวัคซีนเพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน และก็ไม่รู้ว่าจะได้อีกเมื่อไร ก็ต้องรอคอยกันไป แต่ก็หวังว่าจะได้รับการฉีดโดยเร็วที่สุด และที่สำคัญ ก็คือ คอยดูแลตัวเองและให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพราะเราต้องรอดไปด้วยกัน
เอาล่ะเข้าเรื่องได้แล้ว ก็เป็น MS จากซีรีย์ Gundam Iron-Blooded Orphans ซึ่งเป็นหนึ่งใน 72 Gundam ที่พัฒนาขึ้นมาโดย Gjallarhorn และใช้งานโดยหน่วย CGS และมีการพัฒนาต่อยอดไปอีก เอ้า ลงรูปกัน
Box Art ชุดหลัก งดงามมาก แถมดุดันสุดๆ
สนนราคาก็อยู่ที่ 4,500 Yen ก็กลางๆ นะ
คิดเป็นเงินไทยแล้วก็ประมาณ 1,289 บาท (ไม่รวมค่าหิ้วและภาษี)
ถ้ารวมค่าหิ้วและภาษี ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,300 - 1,450 บาท
วันที่ออกจำหน่าย : เดือน 12 ปี 2019 (ผ่านไปเมื่อ 2 ปี)
ส่วน Box Art ของชุดแต่งก็ตามสไตล์พรีxรรลัย ที่ใช้รูปแบบสีซีดๆ พร้อมกับ Gundam Barbatos ในร่างต่างๆ (ที่เด่นสุดก็ไม่พ้นร่างที่ 6)
สนนราคาก็อยู่ที่ 3,100 Yen ใกล้เคียงกับ MG รุ่นเก่าอีก
คิดเป็นเงินไทยแล้วก็ประมาณ 888 บาท (ไม่รวมค่าหิ้วและภาษี)
ถ้ารวมค่าหิ้วและภาษี ก็จะอยู่ที่ประมาณ 900 - 1,100 บาท
วันที่ออกจำหน่าย : เดือน 10 ปี 2020 (ห่างกันปีเดียว)
มาอัพเดตกระทู้ผลงานกันต่อ ข้างกล่องสำหรับชุดหลัก ก็นับว่ากลางๆ
แต่ของชุดเสริมก็นับว่าหนาเอาเรื่อง
เปิดกล่องสำหรับชุดหลัก ก็ค่อนจะเต็มกล่องอยู่
จำนวนถุงแผงรันเนอร์ของชุดหลักก็มีอยู่ 9 ถุง
หลังฉีกถุงเลย์เสร็จ ก็มีแผงรวมทั้งหมดอยู่ 18 แผง
ใบประกอบ ตามสไตล์ MG ยุคทันสมัย พร้อมตราหน่วย Tekkadan
สติกเกอร์ที่ให้มา มีอยู่ 2 แบบ ตามนี้
1. สติกเกอร์ฟอยล์ และ
2. Marking Seal อย่างละ 1 แผ่น
มาทางด้านชุดแต่งเสริมกันบ้าง ก็พอๆ กันกับชุดหลัก
สำหรับของชุดแต่งเสริม ก็จะมีถุงแผงรันเนอร์อยู่ 6 ถุง
ฉีกถุงเลย์อีกครั้ง ก็มีแผงรันเนอร์ทั้งหมด 11 แผง
ที่มีเพิ่มในชุดแต่งเสริม ก็จะมีดังนี้
1. ลวดเส้น ใช้กับ Wire Claw และ
2. สติกเกอร์ยาง ใช้กับชิ้นส่วนเท้า
สติกเกอร์ที่ให้มาในชุดเสริม ก็จะเป็นดีคอลน้ำ ซึ่งมีแผ่นเดียว
ใบประกอบของชุดแต่งเสริม ก็เอารูป Box Art มาใช้และใส่สีสันเข้าไป
มาที่อาวุธของชุดหลัก มีตะบองมาด้วย ซึ่งของ 1/100 ไม่ได้แถมมา (คือมาแต่ดาบ แค่นั้นเอง)
ตัวดาบไม่มีลูกเล่น ตะบองจะลูกเล่นตรงที่สามารถดึงหนามออกมาได้
และปืนก็พับเก็บตอนไม่ใช้งานได้ และด้ามปืนก็เลื่อนหน้า-หลังได้
เข้าที่โครงของ MS หลักกัน รูปร่างก็มาแนวเอวบางอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีย์ Iron-Blooded Orphans พร้อมกับแกนโช้คที่มีอยู่ทั่วตัว จนเป็นจุดขายของ MG ชุดนี้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้แบบว่าขายดีจนกลายเป็นของแรร์ไปเลย
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
มาดูจุดขยับของลำตัวท่อนบนกันหน่อย แขนจะยกค่อนข้างเยอะอยู่ แต่มีจุดที่น่ารำคาญ คือส่วน C-Clip ซึ่งหลุดง่าย ถ้าขยับมากเกิน
และอีกปัญหา คือชิ้นส่วนที่ว่าจะเปราะ ซึ่งหลายคนเคยทำหักกันมานักต่อนักแล้ว จนต้องสั่งซื้ออะไหล่ ไปจนถึงชิ้นส่วนโลหะอีก
ในส่วนขอข้อศอก ก็จะงอเยอะ แต่โช้คที่ว่าก็หลุดง่ายด้วย จนอาจต้องรื้อทั้งโครงแขน ซึ่งยุ่งยาก
ไหล่ ก็โน้มมาข้างหน้าได้ แถมโช้คส่วนไหล่ก็ขยับตามด้วย
ช่วงคอ ก็เงยเยอะอยู่นะ
ก้มก็เยอะอยู่เช่นกัน
ช่วงเอว ก็โน้มซ้าย-ขวาได้มาก แถมโ๙้คก็ขยับตามเช่นกัน
แม้กระทั่งตอนเงย-ก้มช่วงท้อง
โช้คช่วงหลังคอก็ขยับตามเมื่อก้มหัว
มาที่ลำตัวช่วงล่างกันต่อ ส่วนสีทอง (ซึ่งมาแนวหมอง) ก็ไม่ค่อยสำคัญ เพราะโดนเกราะปิดอยู่แล้ว ยกเว้นว่าเราจะเลือกที่จะโชว์โครงใน ส่วนสีทอง ถ้าทำเป็นสีทองเงา ซึ่งไม่พ้นการชุบ ก็จะงามกว่าแน่นอน
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
เอาล่ะๆ ลงรูปกันต่ออีกครั้ง มาที่จุดขยับช่วงขากันไป ก็กางได้มากมาย ถ้ายังไม่ใส่เกราะ เพราะถ้าใส่เกราะ จุดขยับดังกล่างก็จะถูกจำกัดลงไปอีก
มาที่ช่วงเข่า ก็งอเยอะ ถ้าใส่เกราะ ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเกราะหลังเข่าก็เลื่อลงปได้อีก จุดขยับที่เข่าาก็เลยเพิ่มขึ้นไปด้วย แน่นอนว่า เท่ากับหักล้างตอนใส่เกราะไปในตัวเลย
อย่างที่ว่าไป คือเมื่องอเข่า โช้คที่หลังเข่าก็จะขยับตาม
และที่ส้นเท้าก็มีโช้ค ซึ่งขยับได้จริงเมื่อขยับส่วนส้นเท้า
ส่วนเป้า ก็ขยับขึ้น-ลงได้ ตอนหมุนส่วนต้นขา ก็จะไม่แน่นเวอร์เท่าของ MG 1/100 Ver. 2.0 Freedom Gundam
รวมร่างกันได้แล้ว นับว่าเท่เอาเรื่อง โดยมีรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ แต่ว่าการทรงตัวจะยากหน่อย เพราะแบบเท่าไม่เหมือนกับ Gunpla ชุดอื่นที่เคยประกอบ
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
มาที่ทาง Mobile Worker ที่มีในเฉพาะชุดเสริมบ้าง ก็แกะรายละเอียดได้ลึกดี แต่ขายแยกเป็นพรีxรรลัย (ต่างจากของ HG-IBO 1/144 ที่ขายปกติ แม้ว่าขายแยกเหมือนกับชุดนี้ก็ตาม)
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
เปิดฝา ก็เปิดง่ายอยู่
ตัวอาวุธที่ด้านข้างก็เปลี่ยนกันได้
และตัวถังก็เปลี่ยนได้เช่นกัน
ตอนนี้จำนวนตัวอักษรก็ใกล้จะเต็มแล้ว ก็ขอเอารูปไปลงต่อใน Comment ล่ะกัน
[CR] [Warning : รูปเยอะ] Review : วันที่อสูรได้ปลุกตื่นขึ้นสู่สมรภูมิ MG 1/100 Gundam Barbatos & Expansion Parts Set
Height 1 : 18m (1st - 5th form)
Height 2 : 18.8m (5th Ground - 6th form)
Empty Weight 1 : 28.5 metric tons (4th form)
Empty Weight 2 : 30.5 metric tons (6th form)
Weapons :
Mace x 1
Long Sword x 1
Gaunlet x 1 (1st Form & 2nd Form)
300mm Smoothbore Gun x 1
GR-Es02 Wire Claw x 1 (3rd Form)
60mm Machine Gun x 1 (Attached with 300mm Smoothbore Gun)
Large Special Mace x 1 (5tth Form Onward)
100mm Autocannon x 2 (5th Form Groudn Type Onward)
Arm Mortar x 4 (5th Form)
Features :
Alaya-Vijnana System x 1
Backpack Arm x 2
JEE-M103 Kutan Type-III x 1
Chest Reactive Armor x 1 (5th Form)
Power Source : Ahab Reactor x 2
Armor : Nanolaminate Armor
Manufacturer 1 : Gjallarhorn (Calamity War)
Manufacturer 2 : Tekkadan (2nd - 3rd Form)
Manufacturer 3 : Teiwaz : (4th - 6th Form)
Operator : Chryse Guard Security (CGS)
Pilot : Mikazuki Augus
เอาล่ะ ตอนนี้ก็เข้าสู่ในช่วงวิกฤตการณ์ไวรัสโควิด-19 ระบาดหนักไปทั่ว ซึ่งก็เป็นปัญหาของการทำมาหากินของประชาชนเราๆ และก็ต้องรอคอยวัคซีนเพื่อเป็นการสร้างภูมิคุ้มกัน และก็ไม่รู้ว่าจะได้อีกเมื่อไร ก็ต้องรอคอยกันไป แต่ก็หวังว่าจะได้รับการฉีดโดยเร็วที่สุด และที่สำคัญ ก็คือ คอยดูแลตัวเองและให้ความช่วยเหลือเพื่อนมนุษย์ด้วยกัน เพราะเราต้องรอดไปด้วยกัน
Box Art ชุดหลัก งดงามมาก แถมดุดันสุดๆ
สนนราคาก็อยู่ที่ 4,500 Yen ก็กลางๆ นะ
คิดเป็นเงินไทยแล้วก็ประมาณ 1,289 บาท (ไม่รวมค่าหิ้วและภาษี)
ถ้ารวมค่าหิ้วและภาษี ก็จะอยู่ที่ประมาณ 1,300 - 1,450 บาท
วันที่ออกจำหน่าย : เดือน 12 ปี 2019 (ผ่านไปเมื่อ 2 ปี)
ส่วน Box Art ของชุดแต่งก็ตามสไตล์พรีxรรลัย ที่ใช้รูปแบบสีซีดๆ พร้อมกับ Gundam Barbatos ในร่างต่างๆ (ที่เด่นสุดก็ไม่พ้นร่างที่ 6)
สนนราคาก็อยู่ที่ 3,100 Yen ใกล้เคียงกับ MG รุ่นเก่าอีก
คิดเป็นเงินไทยแล้วก็ประมาณ 888 บาท (ไม่รวมค่าหิ้วและภาษี)
ถ้ารวมค่าหิ้วและภาษี ก็จะอยู่ที่ประมาณ 900 - 1,100 บาท
วันที่ออกจำหน่าย : เดือน 10 ปี 2020 (ห่างกันปีเดียว)
มาอัพเดตกระทู้ผลงานกันต่อ ข้างกล่องสำหรับชุดหลัก ก็นับว่ากลางๆ
แต่ของชุดเสริมก็นับว่าหนาเอาเรื่อง
เปิดกล่องสำหรับชุดหลัก ก็ค่อนจะเต็มกล่องอยู่
จำนวนถุงแผงรันเนอร์ของชุดหลักก็มีอยู่ 9 ถุง
หลังฉีกถุงเลย์เสร็จ ก็มีแผงรวมทั้งหมดอยู่ 18 แผง
ใบประกอบ ตามสไตล์ MG ยุคทันสมัย พร้อมตราหน่วย Tekkadan
สติกเกอร์ที่ให้มา มีอยู่ 2 แบบ ตามนี้
1. สติกเกอร์ฟอยล์ และ
2. Marking Seal อย่างละ 1 แผ่น
มาทางด้านชุดแต่งเสริมกันบ้าง ก็พอๆ กันกับชุดหลัก
สำหรับของชุดแต่งเสริม ก็จะมีถุงแผงรันเนอร์อยู่ 6 ถุง
ฉีกถุงเลย์อีกครั้ง ก็มีแผงรันเนอร์ทั้งหมด 11 แผง
ที่มีเพิ่มในชุดแต่งเสริม ก็จะมีดังนี้
1. ลวดเส้น ใช้กับ Wire Claw และ
2. สติกเกอร์ยาง ใช้กับชิ้นส่วนเท้า
สติกเกอร์ที่ให้มาในชุดเสริม ก็จะเป็นดีคอลน้ำ ซึ่งมีแผ่นเดียว
ใบประกอบของชุดแต่งเสริม ก็เอารูป Box Art มาใช้และใส่สีสันเข้าไป
มาที่อาวุธของชุดหลัก มีตะบองมาด้วย ซึ่งของ 1/100 ไม่ได้แถมมา (คือมาแต่ดาบ แค่นั้นเอง)
ตัวดาบไม่มีลูกเล่น ตะบองจะลูกเล่นตรงที่สามารถดึงหนามออกมาได้
และปืนก็พับเก็บตอนไม่ใช้งานได้ และด้ามปืนก็เลื่อนหน้า-หลังได้
เข้าที่โครงของ MS หลักกัน รูปร่างก็มาแนวเอวบางอันเป็นเอกลักษณ์ของซีรีย์ Iron-Blooded Orphans พร้อมกับแกนโช้คที่มีอยู่ทั่วตัว จนเป็นจุดขายของ MG ชุดนี้เลย
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
มาดูจุดขยับของลำตัวท่อนบนกันหน่อย แขนจะยกค่อนข้างเยอะอยู่ แต่มีจุดที่น่ารำคาญ คือส่วน C-Clip ซึ่งหลุดง่าย ถ้าขยับมากเกิน
และอีกปัญหา คือชิ้นส่วนที่ว่าจะเปราะ ซึ่งหลายคนเคยทำหักกันมานักต่อนักแล้ว จนต้องสั่งซื้ออะไหล่ ไปจนถึงชิ้นส่วนโลหะอีก
ในส่วนขอข้อศอก ก็จะงอเยอะ แต่โช้คที่ว่าก็หลุดง่ายด้วย จนอาจต้องรื้อทั้งโครงแขน ซึ่งยุ่งยาก
ไหล่ ก็โน้มมาข้างหน้าได้ แถมโช้คส่วนไหล่ก็ขยับตามด้วย
ช่วงคอ ก็เงยเยอะอยู่นะ
ก้มก็เยอะอยู่เช่นกัน
ช่วงเอว ก็โน้มซ้าย-ขวาได้มาก แถมโ๙้คก็ขยับตามเช่นกัน
แม้กระทั่งตอนเงย-ก้มช่วงท้อง
โช้คช่วงหลังคอก็ขยับตามเมื่อก้มหัว
มาที่ลำตัวช่วงล่างกันต่อ ส่วนสีทอง (ซึ่งมาแนวหมอง) ก็ไม่ค่อยสำคัญ เพราะโดนเกราะปิดอยู่แล้ว ยกเว้นว่าเราจะเลือกที่จะโชว์โครงใน ส่วนสีทอง ถ้าทำเป็นสีทองเงา ซึ่งไม่พ้นการชุบ ก็จะงามกว่าแน่นอน
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
เอาล่ะๆ ลงรูปกันต่ออีกครั้ง มาที่จุดขยับช่วงขากันไป ก็กางได้มากมาย ถ้ายังไม่ใส่เกราะ เพราะถ้าใส่เกราะ จุดขยับดังกล่างก็จะถูกจำกัดลงไปอีก
มาที่ช่วงเข่า ก็งอเยอะ ถ้าใส่เกราะ ก็ไม่ใช่ปัญหา เพราะเกราะหลังเข่าก็เลื่อลงปได้อีก จุดขยับที่เข่าาก็เลยเพิ่มขึ้นไปด้วย แน่นอนว่า เท่ากับหักล้างตอนใส่เกราะไปในตัวเลย
อย่างที่ว่าไป คือเมื่องอเข่า โช้คที่หลังเข่าก็จะขยับตาม
และที่ส้นเท้าก็มีโช้ค ซึ่งขยับได้จริงเมื่อขยับส่วนส้นเท้า
ส่วนเป้า ก็ขยับขึ้น-ลงได้ ตอนหมุนส่วนต้นขา ก็จะไม่แน่นเวอร์เท่าของ MG 1/100 Ver. 2.0 Freedom Gundam
รวมร่างกันได้แล้ว นับว่าเท่เอาเรื่อง โดยมีรูปลักษณ์อันเป็นเอกลักษณ์ แต่ว่าการทรงตัวจะยากหน่อย เพราะแบบเท่าไม่เหมือนกับ Gunpla ชุดอื่นที่เคยประกอบ
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
มาที่ทาง Mobile Worker ที่มีในเฉพาะชุดเสริมบ้าง ก็แกะรายละเอียดได้ลึกดี แต่ขายแยกเป็นพรีxรรลัย (ต่างจากของ HG-IBO 1/144 ที่ขายปกติ แม้ว่าขายแยกเหมือนกับชุดนี้ก็ตาม)
ด้านหน้า
ด้านซ้าย
ด้านขวา
ด้านหลัง
มุมต่างๆ
เปิดฝา ก็เปิดง่ายอยู่
ตัวอาวุธที่ด้านข้างก็เปลี่ยนกันได้
และตัวถังก็เปลี่ยนได้เช่นกัน
ตอนนี้จำนวนตัวอักษรก็ใกล้จะเต็มแล้ว ก็ขอเอารูปไปลงต่อใน Comment ล่ะกัน
CR - Consumer Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ CR โดยที่เจ้าของกระทู้