คือประมาณสองสามวันก่อนเราอ่านหนังสือเกี่ยวกับการไม่ยืดติดกับกาย กับ ทังหมดที่เห็นหรือรู้สืกอยู่เป็นสิ่งที่ไม่ใช้สิ่งจริงเป็นการยืดติดกับขัน5 เเล้วรู้สืกว่าตัวเองสามารถเเยกระหว่างความรู้สืก กิเลศ ตัณหา ตอนที่มันเกีด คือเราเห็นมันเกีดขื้น เเล้วก็รู้สืกว่า ตัวเองมีสติตลอดเวลา พอเรามอง คนอื่นก็เห็นเขากำลังหลงไหลในสิ่งพวกนี่อยู่ ยังยืดติดกับสิ่งที่มันหลอกขื้นมาอยู่ ทำให้เหมือนเราเปี่ยนไปเป็นอีกเเบบ คือเราไม่ยืดติดกับร่างนี้เราคิดว่าตัวเราไม่มีจริงเป็นเเค่ร่างที่เหมือนมีสิ่งที่บังคับอยู่ข้างใน เเล้วยืดติดกับมันอยู่ ความจริงคืว่างเปล่า ไม่มีตัวตนอะไรเลย
เเล้วประเด็นคืออยู่ดีๆ วันนี่ความรู้สืกที่ว่าเมื่อสองสามวันก่อน อยู่ดีๆวันนี้มันก็ไม่ได้สามารถ รู้สืกเหมือนกับเมื่อสองสามวันก่อนครับ คือเราก็รู้สืกเห็น กิเลส ตันหานะ เเต่ก็เเบบว่า มันรู้เเต่ก็เหมือนมันควบคุมเราได้อ่ะครับ เเบบว่ายังมีผลต่อจิตของเรา คือสงสัยว่า ผมรู้สืกชินไปเอง หรือว่า เป็นอะไรหรอครับอยากรู้จริงๆ
ผมมีความสังสัยว่าหรือว่า การที่ไปเจอกับสิ่งภายนอก เช่น: เพื่อน อะไรประมาณนั้น ทำให้เราลืมตัว เลยหลุดออก จากสมาธิตอนนั้น เป็นไปได้ไหมครับ ความคิดผมเฉยๆนะครับ
อยากถามเรื่อง การรู้ถืงความจริงของตัวเรา
เเล้วประเด็นคืออยู่ดีๆ วันนี่ความรู้สืกที่ว่าเมื่อสองสามวันก่อน อยู่ดีๆวันนี้มันก็ไม่ได้สามารถ รู้สืกเหมือนกับเมื่อสองสามวันก่อนครับ คือเราก็รู้สืกเห็น กิเลส ตันหานะ เเต่ก็เเบบว่า มันรู้เเต่ก็เหมือนมันควบคุมเราได้อ่ะครับ เเบบว่ายังมีผลต่อจิตของเรา คือสงสัยว่า ผมรู้สืกชินไปเอง หรือว่า เป็นอะไรหรอครับอยากรู้จริงๆ
ผมมีความสังสัยว่าหรือว่า การที่ไปเจอกับสิ่งภายนอก เช่น: เพื่อน อะไรประมาณนั้น ทำให้เราลืมตัว เลยหลุดออก จากสมาธิตอนนั้น เป็นไปได้ไหมครับ ความคิดผมเฉยๆนะครับ