อุบลฯ เริ่มฉีดวัคซีนไขว้เข็มสอง บางส่วนกังวลผลข้างเคียง
เผยแพร่: 14 ก.ค. 2564 10:27   ปรับปรุง: 14 ก.ค. 2564 10:27   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



อุบลราชธานี - คนอุบลราชธานีส่วนหนึ่งกังวลผลข้างเคียงฉีดซิโนแวคไขว้แอสตร้าเซนเนก้า อย่างไรก็ตามอีกส่วนไม่แคร์ เดินหน้าขอฉีดเพื่อเซฟตัวเองไว้ก่อน
 
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่จุดฉีดวัคซีนโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ภายในวิทยาลัยพยาบาลบรมราชชนนีสรรพสิทธิประสงค์ อ.เมืองอุบลราชธานี มีประชาชนทยอยเข้ารับการฉีดวัคซีนซิโนแวคเข็มแรก และส่วนหนึ่งเป็นผู้เข้ารับการฉีดเข็มสอง ซึ่งผู้ที่เข้ารับการฉีดเข็มสอง เจ้าหน้าที่ได้ฉีดไขว้เป็นวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าตามปริมาณวัคซีนที่เหลืออยู่จำนวนหนึ่ง
ส่วนผู้ยังไม่ได้รับการฉีดเข็มสองเพราะวัคซีนหมดก่อน เจ้าหน้าที่ได้เลื่อนให้มาฉีดในวันหลังที่วัคซีนแอสตร้าเซนเนก้าเดินทางมาถึง
 
จากการสอบถามนายชรันวัฒน์ เนติพัฒนานนท์ ระบุว่า รู้สึกงงทำไมเข็มสองต้องปรับคนละยี่ห้อ เพราะคนในครอบครัวฉีดยี่ห้อเดียวกันทั้งสองเข็ม แต่ถึงคิวของตัวเองมีการสลับยี่ห้อ ก็จะติดตามดูข่าวจะมีผลอย่างไร ส่วนตัวกังวลเพราะไม่รู้จะมีปฏิกิริยาอะไรกับเราหรือเปล่าเพราะวัคซีนคนละยี่ห้อ

สำหรับการเข้ามาฉีดวัคซีนซิโนแวควันนี้ไม่ได้เลือกวัคซีนที่จะฉีด แต่เป็นความต้องการที่จะได้ฉีดวัคซีน ตอนแรกรู้สึกกังวล แต่จากการสอบถามคนในครอบครัวที่ฉีดครบสองเข็มไม่มีผลอะไรเลย ส่วนเข็มสองที่ต้องมีการฉีดไขว้ตอนนี้ยังรู้สึกไม่มั่นใจ แต่ถ้าส่วนรวมไม่มีผลอะไรก็จะฉีดให้ครบ

ขณะที่ผู้เข้ารับการฉีดวัคซีนรายอื่นที่ต้องฉีดวัคซีนไขว้กันมีความเห็นแตกต่างกันไป โดยระบุว่า เพื่อเซฟตัวเองก็ยินดีฉีด ส่วนความมั่นใจที่จะต้องฉีดเข็มสองเป็นแอสตร้าเซนเนก้าบอกว่ามั่นใจวัคซีนที่ฉีดทุกเข็ม

https://mgronline.com/local/detail/9640000068466

เข้าใจผิด! WHO แจงใหม่ไม่ห้าม ‘ฉีดวัคซีนสลับชนิด’ แต่ต้องเป็นการตัดสินใจของ จนท.แพทย์
เผยแพร่: 14 ก.ค. 2564 06:29   ปรับปรุง: 14 ก.ค. 2564 06:29   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หัวหน้าคณะวิทยาศาสตร์ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ชี้แจงประเด็นเกี่ยวกับการฉีดวัคซีนสลับยี่ห้อ ระบุว่า ประชาชนไม่ควรฉีดวัคซีนสลับชนิด (Mix And Match Vaccine) จากผู้ผลิตต่างกันด้วยตนเอง และการตัดสินใจดังกล่าวควรเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ด้านสาธารณสุข

"มันเป็นเทรนด์ที่ค่อนข้างอันตรายเล็กน้อย" ดร.โสมยา สวามีนาธัน หัวหน้าทีมนักวิทยาศาสตร์ WHO ได้เอ่ยเตือนระหว่างการแถลงข่าวขององค์การอนามัยโลกเมื่อวันจันทร์ (12 ก.ค.) หลังถูกถามเกี่ยวกับวัคซีนเข็มกระตุ้น "มันจะเกิดสถานการณ์ที่ยุ่งเหยิงในประเทศต่างๆ หากพลเมืองเริ่มตัดสินใจเองว่าเมื่อไหร่และใครควรรับวัคซีนเข็มที่ 2 เข็มที่ 3 และเข็มที่ 4"

ในตอนแถลงข่าว สวามีนาธัน เรียกการฉีดวัคซีนสลับชนิดว่า "เป็นขอบเขตที่ปราศจากข้อมูล" แต่เขียนบนทวิตเตอร์ชี้แแจงความเห็นของเธอในเวลาต่อมา

"บุคคลใดๆ ไม่ควรตัดสินใจด้วยตนเอง หน่วยงานสาธารณสุขสามารถทำได้บนพื้นฐานของข้อมูลที่มีอยู่" เธอระบุบนทวิตเตอร์ "ยังต้องรอข้อมูลการศึกษาวัคซีนสลับชนิดของวัคซีนต่างยี่ห้อ จำเป็นต้องประเมินความสามารถในการกระตุ้นสร้างแอนติบอดีและความปลอดภัย"

คณะผู้เชี่ยวชาญที่ปรึกษายุทธศาสตร์ด้านวัคซีนขององค์การอนามัยโลก เคยแนะนำในเดือนมิถุนายน ว่า วัคซีนของไฟเซอร์ อิงค์ ควรถูกใช้เป็นวัคซีนเข็มที่ 2 หลังเข็มแรกฉีดวัคซีนของแอสตร้าเซนเนก้า หากว่าวัคซีนอย่างหลังไม่สามารถหาได้

การทดลองทางคลินิกที่นำโดยมหาวิทยาลัยออกซ์ฟอร์ดในสหราชอาณาจักร อยู่ระหว่างการตรวจสอบการฉีดวัคซีนสลับชนิดระหว่างแอสตร้าเซนเนก้าและไฟเซอร์ และเมื่อเร็วๆ นี้การทดลองได้ขยายขอบเขตครอบคลุมถึงวัคซีนของโมเดอร์นา อิงค์ และโนวาแว็กซ์ ด้วยเช่นกัน

(ที่มา : รอยเตอร์)

https://mgronline.com/around/detail/9640000068410

ข่าวนี้ทำให้ไทยเดินหน้านำโลกไปแล้ว 

ขนาดWHO ยังกลับลำ เรื่องสวมหน้ากากอนามัย

ตอนนี้ก็บอกว่าการฉีดวัคซีนต่าง
ชนิดกันให้อยู่ในการตัดสินใจ เจ้าหน้าที่แพทย์