อย่าหลงเชื่อข่าวร้าย     ลวงพราง
กรดด่างรวมเป็นกลาง    ย่อมรู้
ภายในร่างกายลาง        แตกต่าง
หากไม่เชื่อท้าสู้            รับเชื้อใส่ตน

อีกอันก็กล่าวอ้าง           เกินจริง
ผู้ฉีดตายระวิง                มากล้น
ไม่อาจพิสูจน์อิง             สาเหตุ
ตายจากโรคอื่นพ้น          เมื่อได้ติดตาม

สี่พันจากพันล้าน            จะขอค้านไม่มากจริง
ถ้าคิดเปอร์เซ็นต์อิง        น้อยกว่าศูนย์จุดหนึ่งนา
ขอจงอย่าแตกตื่น           ยิ้มสดชื่นปวงประชา
ถ้าได้วัคซีนมา                รีบไปฉีดให้เร็วไว

กรดกับด่างเจอกันมันจะหมดฤทธิ์ไปจริงในหลอดทดลอง แต่ในร่างกายของคนเรา มันมีตัวแปรอีกหลายอย่าง ทั้งเอ็นไซม์ ฮอร์โมน ฯลฯ ซึ่งอาจทำให้ผลไม่เหมือนในหลอดทดลอง ถ้าคนไหนเชื่อมั่นในเรื่องนี้จริงว่า ถ้าร่างกายเป็นด่างแล้วไม่ติดโควิด ขอท้าให้มารับการแจกเชื้อโควิดดู แล้วดูว่าติดโรคไหม ถ้าไม่ติดโรคผมถึงจะเชื่อ
ส่วนที่กล่าวอ้างว่า ไม่ต้องไปฉีดวัคซีน ถ้าจะฉีดต้องไปทำประกันชีวิต เพราะฉีดแล้วมีคนตาย สี่พันกว่าราย การจะไปกล่าวอ้างว่า สี่พันกว่ารายที่ตายเป็นเพราะวัคซีน เป็นการด่วนสรุป ต้องไปดูข้อมูลก่อนว่า สถิติการตายในคนปกติที่ไม่เป็นโควิด มันเป็นเท่าไร แล้วหลังจากมีการฉีดวัคซีนแล้ว อัตราการตายมันเพิ่มขึ้นชัดเจนหรือไม่ ถ้าไม่ได้เพิ่มขึ้นชัดเจน เราจะไปสรุปว่าเกิดจากวัคซีนไม่ได้
สมมุติว่าสี่พันกว่ารายที่ตายทั่วโลก เกิดจากวัคซีน แต่มีผู้ฉีดวัคซีนทั่วโลกไปแล้วเกือบพ้นล้าน คิดเป็นอัตราตายแล้ว ได้ประมาณ 0.0000004%  ซึ่งถือว่า ต่ำมากๆ เทียบกับถ้าเป็นโควิทแล้วตายนี่ ประมาณ 2 %  คิดดูก็แล้วกันว่าควรฉีดหรือไม่ควรฉีด