ชื่อเดียวเอี่ยวทุกเรื่อง ‘ ขอโทษ.. ’ (สองตอนจบ)

กระทู้สนทนา


               ลมละเลียด  ใบไม้โบก  นกกระจิบเย้าหยอก  นกกระจอกอยู่ไม่สุข  แสงตะวันแยงตา  ท้องฟ้าแจ่มใส  เงาต้นกระโดนร่มรื่น ไม่ร้อนและไม่หนาว  หนาวอย่างนั้นหรือ? มันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้วที่กลางเดือนพฤษภาคมอย่างวันนี้ อุณหภูมิไทยแลนด์จะตีลังกาติดลบ  ฉะนั้น หมู่บ้านไกลปืนเที่ยงอย่างบ้านเห็ดละโงก  บ้านโสกก้านเหลียง  บ้านโคกนํ้าเกลี้ยง  บ้านนาวังเวิน ไม่ต้องไปคิดฝันให้หิมะมันตกหรอก มันจะมีก็แต่ลูกเห็บพญานาคเท่านั้นแหละ ที่จะมาเยือน

               ณ โคนต้นกระโดนบ้านโคกนํ้าเกลี้ยง

               ‘ปู่จันจี’
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ยกแฟ้มกระดาษสีหม่นขึ้นตลบหน้า  ถึงแม้กระดาษเหล่านั้นจะเคยเป็นแผ่นโฆษณายาฆ่าหญ้า  ยาฆ่าไส้เดือน~ไส้ดาว  ยาฆ่าหอย(เชอรี่)  ยาฆ่าหนู หรือแม้กระทั่งยาดองเหล้าที่ดูเหมือนจะไร้ประโยชน์ แต่ปู่จันจีกลับเห็นว่ามันมีประโยชน์ ไม่มีได้อย่างไร ในเมื่อมันไม่ต้องเสียเงินซื้อแม้แต่สลึงเดียว ด้านหลังกระดาษยาเพชฌฆาตเหล่านั้น แค่ตลบฝ่ากระดาษขึ้นมา ก็สามารถเขียนข้อมูลคนไข้สารพันก่อนเก็บเข้าไฟล์สารเพได้แล้ว

               ชายแก่ชุดขาว ผมขาว คิ้วขาว หนวดขาว เคราขาว ริ้วรอยบนใบหน้าอวดกาลเวลาของชีวิตชัดเจน ริมฝีปากแตกระแหงขมุบขมิบไล่แมงหวี่บนหนวดด้วยความยับยั้งชั่งใจ นั่นเป็นสิ่งซึ่งบ่งบอกให้รู้ว่า‘เขา’ยึดมั่นในศีลห้าข้อที่หนึ่ง  ปาณาติปาตา เวรมณี ... เสมอมา  นับเป็นบุญของพวกเอ็งยิ่งนัก... ไอ้พวกหวี่เวรมณี ...

               แม้ตอนนี้สถาบันวิเคราะห์โรคทางจิตจะดูร่มรื่น แต่อาการปู่จันจีกลับดูไม่ค่อยจะรื่นรมย์

               ‘ปู่หมอ’ค่อย ๆ ลําดับความจําถึงคนไข้รายล่าสุด เมื่อวาน ..

               ‘ทิดอ๊าก’
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
คือชื่อเรียกขานของบุรุษร่างกำยำที่มาพบปู่หมอเมื่อวาน ความถึกประดุจดังเจ้าปีโป้ สิโรจน์ ฉัตรทอง อดีตศูนย์หน้าทีมชาติไทยแซะอารมณ์หมั่นไส้ปู่จันจียิ่งนัก ปู่หมอพยักหน้าไป ฟังอาการเบื้องต้นไป ก่อนจะได้โอกาสเปรยขึ้นว่า

               ก็ดูแข็งแรงดีนี่นา แล้วทําไมถึงสู้เมียไม่ได้(วะ)ล่ะ?

               นางมักจะจู่โจมตอนผมก้มหัวให้ครับ เอ่อ.. ไม่ใช่ผมโค้งคำนับนะปู่หมอ ผมกําลังถูบ้าน กำลังขัดพื้น ขัดบันไดหน้าบ้านอยู่ดี ๆ แล้วใครจะไปทันระวังตัวตอนที่นางถีบผมลงมาจากบันได  นั่นแหละครับคือช่วงจังหวะพลาดของผมทุกครั้ง

               คําคมบนแผ่นศิลาไกลโพ้น  แว่บเข้ามาในหัวปู่หมอ ..บุญคุณต้องทดแทน แค้นต้องชำระ ..

               ถึงเหล่าจอมยุทธทั่วสารทิศจะยึดมั่นกับประโยคบ้าบอนั้น แต่ปู่จันจีก็ไม่เคยยุยงส่งเสริมคนไข้ของตนแม้แต่รายเดียว  เรื่องบุญคุณ ใช่!  มันต้องทดแทนอยู่แล้ว แต่เรื่องความแค้น  วิถีแห่งการเอาคืนแบบนั้น  มันเหมือนจะขัดกับหลักวิชาการยิ่งนัก

               ...บําบัด และจัดหมวดหมู่คนไข้ ...  อีแบบนี้ต่างหากที่ปู่จันจีรํ่าเรียนมา  คนไข้ทุกผู้นามเปรียบเสมือนพระเจ้า พวกเขาต่างชําระค่ารักษาเป็นเบรคฟาสต์ปิ่นโตทุกครั้งที่มารับการเยียวยา ทําไมจะต้องไปส่งเสริมให้พวกเขาทุบตีกันเล่า เผลอ ๆ เถาปิ่นโตอาจพลอยบุบบี้เสียหายไปกันใหญ่  มันไม่ใช่แบบนั้น  มันบ่แมน  แบบนั่นแมนรับบ่ได้ ..  ใช่!  แบบนั้นมันผิดหลักการแห่งสถาบันต้นกระโดนชัด ๆ

               เรื่องราวของเจ้าจอมถึกค่อย ๆ เคลื่อนไหวขึ้นเป็นภาพและเสียงในความทรงจำปู่หมอ

               ... ผมอดทนแล้วอดทนอีก อดทนจนไม่อยากต่อปากต่อคําด้วย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไร ...

               เสียงทิดอ๊ากเปรยเหมือนกําลังตั้งนโมสามจบ ก่อนสวดมนต์

               แล้วการสวดมนต์ก็เริ่มขึ้น..

               ... ปู่หมอลองคิดดูนะว่าผมอดทนขนาดไหน ดึกดื่นเที่ยงคืน นางก็ยังถีบผมตกเตียงเป็นประจํา คืนหนึ่งนะ ผมต้องปลุกนางขึ้นมาถามตรง ๆ เลยว่า  ..เธอตั้งใจถีบฉัน หรือว่าละเมอฝัน? นางตอบหนักแน่นเลยว่า เออ! ฉันตั้งใจ! แล้วมีไรป่ะ? พูดเสร็จฝ่ามือนางพญาก็มาเลยยังกะค้างคาวแตกรัง พอเหนื่อย ถึงได้ถามหาเงินหายในฝัน นางหาว่าผมขโมยเงินในฝันไป เวรกรรม ..  ผมอยากให้เรื่องมันจบจะได้นอนต่อ เลยตามนํ้าตามฝันไปว่า.. ไม่ได้ขโมย ในฝันของเธอน่ะ ฉันแค่แอบเอาไปซื้อนํ้ามันมวยสามสิบบาทเอง กะจะเอามานวดก้านคอหน่อย เก๊าะวันก่อนเธอฝันว่าเตะฉันจําไม่ได้เหรอ วันนี้ ฉันก็ต้องแอบไปหายามาทาแก้เคล็ดอ่ะดิ่  พูดจบแค่นั้นแหละปู่หมอ ฝ่ามือสารพัดนางพญาก็ปลิวว่อนเต็มมุ้ง พอเหนื่อยอีกรอบ จมูกพะเยิบพะยาบอยู่แท้ ๆ ยังยกนิ้วชี้หน้าได้อีก หน็อยยยยยย.. ฉันฝันว่าแกเอาไปแค่ยี่สิบ ที่แท้แกเอาไปสามสิบบาทเชียวเร๊อะไอ้อ๊ากก! มานี่เลยเอ็ง มานี่ซิ! ... คืนนั้นนะ กว่าผมจะอธิบายว่านั่นมันแค่ฝัน ก็เล่นเอาเกือบสว่าง ...ดูเอาสิ  ปู่หมอ ...

               ตอนฟังทิดอ๊ากเล่าเรื่อง ปู่จันจีเองก็นึกไปถึงนํ้ามันมวยเหมือนกัน ถ้ามันวางอยู่ใกล้ตัว ปู่หมอคงเผลอยกขึ้นซดแก้วิงเวียนเป็นแน่

               ปู่ชื่นชมในตัวทิดอ๊ากนะ ทิดอ๊ากสมกับเป็นสุภาพบุรุษ  ไม่ใช่สิ  ต้องเสงี่ยมบุรุษสิ ดึกดื่นเที่ยงคืนยังไง ทิดอ๊ากก็ยังควบคุมจิตตัวเองได้อย่างยอดเยี่ยม นี่สิถึงจะคู่ควรกับฉายาเสงี่ยมบุรุษ นับถือ นับถือ ปู่นับถือยิ่ง   ปู่หมอเอ่ยบอกด้วยความชื่นชม

               ปิดแฟ้มกระดาษยาเพชฌฆาตลงในอ้อมขาขัดสมาธิ   ปู่หมอยังไม่วายนึกถึงคำสนทนากับทิดอ๊ากอีกเรื่อง

               ผมเคยลองมาแล้วปู่หมอ นั่นคือคำยืนยันจากคนร่างถึก หลังจากปู่จันจีให้ลองแอบหายตัวไปสักสองสามคืนดู ไม่ต้องนอนที่บ้าน เพื่อดูว่านางพญาของทิดอ๊ากจะมีปฏิกิริยาเยี่ยงใด

               ผมหายไปแค่คืนเดียวเอง พอเข้าบ้านอีกวัน แม่ยายดีกรีนักธรรมเอกก็ดันโผล่เพิ่มมาในบ้านซะงั้น   พูดไปส่ายหัวไป สายตาจ้องแน่วอยู่กับหัวแม่เท้าปู่หมอ ไม่กล้าจะเปิดเผยสายตาของผู้แพ้เวร  แพ้กรรมตัวเอง

               แล้วมันไม่ดีดอกหรือ  ที่บรรยากาศในบ้านจะได้เปลี่ยนเวอร์ชั่นใหม่มั่ง

               ดีกับผี เย๊ย!  ดีกับแม่ยายผมน่ะสิครับ มีแวบหนึ่งแล้ว ที่ทิดอ๊ากเริ่มเงยหน้าขึ้นมาสบตา เตียงที่ผมนอนมาตั้งแต่คืนส่งตัวเจ้าบ่าวเจ้าสาว มันถูกยึดไปโดยนักธรรมเอกกับลูกสาวเฉยเลย ผมต้องได้ย้ายไปนอนหน้าเตาผิงแทน

               โอว้...  ดูท่าทิดอ๊ากจะรวยไม่เบานะ ที่บ้านมีเตาผิงด้วย

               เตาอั้งโล่ครับปู่  เอาไว้ต้มหน่อไม้ปี๊บ นอนเหม็นกลิ่นเปรี้ยวไม่พอ  ยังเหม็นกลิ่นฟืนต้นตะโกอีกต่างหาก ฟังเสียงเล่าเรื่องซึ่งไร้ความขมขื่นใด ๆ ปู่หมอได้แต่อมยิ้มอยู่คนเดียว  อ๊ากเอ๊ยอ๊าก..  เอ็งมันช่างสมกับฉายา‘เสงี่ยมบุรุษ ซะจริง ๆ

               ปู่หมอหลับตาลง ใบหน้าเจ้าอ๊ากลอยล่อง ทำให้ต้องยิ้มด้วยความสุขอีกครั้งเมื่อนึกถึงแผนที่มอบให้ไป ถึงแม้จะคล้ายกับวิธีการเดิมของเจ้าอ๊าก แต่คราวนี้ปู่หมอเพิ่มเติมบทพระนางเข้าไปให้อีกซีน รายละเอียดถูกกำชับเป็นขั้นเป็นตอน ทิดอ๊ากไม่จำเป็นต้องหายศีรษะไปจากบ้าน เพียงแต่หลบไปจากขอบเหวเตียงแค่นั้นพอ เจ้าจอมถึกปฏิบัติตามแผนได้แน่นอน  เพราะมันน่าจะชินกับเตาผิงและกลิ่นฟืนแล้ว

               คืนนี้สินะ.. ทาสในเรือนฝัน หรือเสงี่ยมบุรุษในเรือนจริง มันจะได้เมียคนเดิมกลับมาเสียที

               ‘ ปู่หมอใช่ไหมค๊าาา..  ’  ปู่จันจีสะดุ้งโหยง!!

               พอหันไปมอง ก็เห็นหญิงร่างท้วมนุ่งผ้าถุงคนหนึ่งกำลังคุกเข่าคลานเข้ามาหา

               จำเริญ..จำเริญจ้า.. โอ๊ะโอว้  ไม่ต้อง ๆ  ไม่ต้องกราบปู่หรอกแม่นาง ปู่หมอโบกมือพัลวันเมื่อเห็นเธอทำท่าจะก้มลงกราบ ซึ่งพอได้ยินอย่างนั้น ร่างอวบอ้วนจึงขยับตัวนั่งพับเพียบยิ้มแป้น

               มีอะไรให้ปู่ช่วยเหรอ  เอ่อ ..  ชื่ออะไรล่ะ  ปู่จะได้เรียกถูก

               ชื่อตุ้ยค่ะ      ...เออแฮะ  ช่างเข้ากับสรีระแท้ ยิ่งหากเติมนุ้ยเข้าไปด้วยนะ ยิ่งจะเป๊ะเลย... ปู่หมอคิดทะเล้นอยู่คนเดียว เปิดปึกกระดาษหาหน้าว่าง  จรดดินสอหัวกุดบันทึกข้อมูล  เริ่มต้นด้วยชื่อคนไข้รายใหม่  แม่นางตุ้ย

............

............

จบตอนที่ 1 


ขออภัยคุณน้ำด้วยนะครับ  ที่บังอาจเขียนสองตอน  เหตุผลอยู่ในสปอยล์ครับผม
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่