เราในฐานะลูกจ้างบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง จากที่ทำงานครึ่งปีเลยได้เห็นปัญหาที่ถือว่าเป็นเรื่องใหญ่สำหรับบางคน..
เหตุคือ มีคนงานใหม่ยืมเงิน แต่ประเด็นคือเขายืมเงินคนทั้งบริษัท (แกยืมทุกคนจริงๆ เว้นแต่ ผจก) โรงงานนี้เป็นโรงงานเล็กๆ คนงานมีไม่กี่คน แต่ละคนมีเงินสำรองก่อนมาเริ่มงานที่นี่ เลยไม่ค่อยมีปัญหา
แต่คนนี้ แกบอกว่าว่างงานมานาน สามีแกก็ว่างงาน มาสมัครทั้งสามีภรรยาแต่บริษัทก็จ้างผู้หญิงก่อน แกเลยกลายเป็นเสาหลักหาเงิน
มาอาทิตย์แรกก็ขอยืมเงินคนไปทั่ว แต่ก็ไม่มีใครให้ยืม แต่เรารู้ว่าอีกตั้งกว่าครึ่งเดือนกว่าเงินแกจะออก เลยให้ยืมไป (ก็ได้คืนนะ แถมแกให้ดอกด้วย)
.
พอเงินเดือนออก สามีแกเอาเงินไปใช้หนี้หมด เงิน9พันที่ได้หมดไปภายใน 3วัน แล้วแกก็มายืมเงินคนอื่นต่อ ซึ่งนิสัยแกจะแย่ตรงที่ชอบพูดแบบหยอกๆ เจอหน้าใครก็พูดยืมแบบทีเล่นทีจริง คนอื่นก็จะคิดว่าไม่น่าไว้วางใจ กลัวยืมเงินแล้วจะลาออกชิ่งไปซะก่อน
เราเลยหันไปถามฝ่ายบุคคลว่าพอจะมีเบิกล่วงหน้าไหม เพราะไม่อยากให้แกหันไปยืมใครอีก มันลำบากทั้งคนยืมและคนให้ยืม
แต่ฝ่ายบุคคลกลับตอบว่าไม่มี และบอกว่ามันเป็นปัญหาของเขา ซึ่งเราก็ฉุกคิด ถ้าสมมตว่าคนๆนั้นมันคือเราขึ้นมา จะทำยังไง? ถ้าเราเป็นคนที่แม้แต่เงินกินข้าวยังไม่มี ลูกป่วยแต่ไปใช้สิทธิ รพ ไม่ได้เพราะไม่มีใครพาไป ทำให้เงินค่ารักษาแพงขึ้นจะทำยังไง
.
เรื่องยืมเงินเราทำให้มีผลตามกฎหมาย ออกสัญญายืมให้เขาเซนต์ ก็โอเคนะดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้เราตั้งคำถามคือ
1.เราคิดว่าประเทศไทยถือว่าเงินช่วยเหลือน้อยมาก ทั้งจากรัฐและบริษัท เราว่ามันเข้าถึงยาก ประเทศอื่นมันเป็นปัญหาเหมือนประเทศเราไหม
2.งานที่ไทยหายาก แถมได้งานมาก็แทบจะทำงานถวายชีวิต
((บริษัทเราบังคับ 12 ชม/วัน แบ่งเป็น2กะ ทำจันทร์-เสาร์ งานยืน เงินออกเดือนละครั้งทุกคน มีค่าข้าวค่าน้ำมันแต่เบิกมาใช้ก่อนไม่ได้ (อันนี้คืองงมาก) )) และเรารู้ว่าทั้งหัวหน้าและฝ่ายบุคคลยังไม่ส่งเรื่องนี้ถึง ผจก 1คือ ผจก เขาเป็นคนต่างชาติ คุยยากระดับหนึ่ง 2คือคนที่มีอำนาจรองลงมาก็เป็นคนใหม่ อำนาจการตัดสินใจเลยไม่มี อีกคนที่มีอำนาจตัดสินใจเขาก็ปล่อยเรื่องในออฟฟิศแล้วมาเต็มที่กับไลน์ผลิต ไม่ยุ่งเกี่ยวแล้ว
.
จากเหตุการณ์ด้านต้น เราจึงบอกว่ามันลำบากมาก บางเม้นอาจบอกว่าให้ไปขอข้าววัดสิ ((ทุกวันนี้เขาขอข้าววัดอยู่นะคะ แลกกับการล้างจาน)) ซึ่งถึงจะขอข้าววัดได้ แต่ก็ขัดสนเรื่องเงินอยู่ดี น้ำมันรถก็ต้องใช้เงิน ค่าเทอม ค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจิปาถะ เงินทั้งนั้น แถมน้อยคนที่จะขอผ่อนผันได้ ((อย่างครอบครัวพี่คนนี้แล้ว 1 ก่อนได้งานต้องยืมคนนั้นมาโปะคนนี้ ฟังแล้วปวดหัวแทน))
ค่าจ้าง/ค่าครองชีพของไทยกับต่างชาติต่างกันรึเปล่า??
เหตุคือ มีคนงานใหม่ยืมเงิน แต่ประเด็นคือเขายืมเงินคนทั้งบริษัท (แกยืมทุกคนจริงๆ เว้นแต่ ผจก) โรงงานนี้เป็นโรงงานเล็กๆ คนงานมีไม่กี่คน แต่ละคนมีเงินสำรองก่อนมาเริ่มงานที่นี่ เลยไม่ค่อยมีปัญหา
แต่คนนี้ แกบอกว่าว่างงานมานาน สามีแกก็ว่างงาน มาสมัครทั้งสามีภรรยาแต่บริษัทก็จ้างผู้หญิงก่อน แกเลยกลายเป็นเสาหลักหาเงิน
มาอาทิตย์แรกก็ขอยืมเงินคนไปทั่ว แต่ก็ไม่มีใครให้ยืม แต่เรารู้ว่าอีกตั้งกว่าครึ่งเดือนกว่าเงินแกจะออก เลยให้ยืมไป (ก็ได้คืนนะ แถมแกให้ดอกด้วย)
.
พอเงินเดือนออก สามีแกเอาเงินไปใช้หนี้หมด เงิน9พันที่ได้หมดไปภายใน 3วัน แล้วแกก็มายืมเงินคนอื่นต่อ ซึ่งนิสัยแกจะแย่ตรงที่ชอบพูดแบบหยอกๆ เจอหน้าใครก็พูดยืมแบบทีเล่นทีจริง คนอื่นก็จะคิดว่าไม่น่าไว้วางใจ กลัวยืมเงินแล้วจะลาออกชิ่งไปซะก่อน
เราเลยหันไปถามฝ่ายบุคคลว่าพอจะมีเบิกล่วงหน้าไหม เพราะไม่อยากให้แกหันไปยืมใครอีก มันลำบากทั้งคนยืมและคนให้ยืม
แต่ฝ่ายบุคคลกลับตอบว่าไม่มี และบอกว่ามันเป็นปัญหาของเขา ซึ่งเราก็ฉุกคิด ถ้าสมมตว่าคนๆนั้นมันคือเราขึ้นมา จะทำยังไง? ถ้าเราเป็นคนที่แม้แต่เงินกินข้าวยังไม่มี ลูกป่วยแต่ไปใช้สิทธิ รพ ไม่ได้เพราะไม่มีใครพาไป ทำให้เงินค่ารักษาแพงขึ้นจะทำยังไง
.
เรื่องยืมเงินเราทำให้มีผลตามกฎหมาย ออกสัญญายืมให้เขาเซนต์ ก็โอเคนะดับหนึ่ง แต่สิ่งที่ทำให้เราตั้งคำถามคือ
1.เราคิดว่าประเทศไทยถือว่าเงินช่วยเหลือน้อยมาก ทั้งจากรัฐและบริษัท เราว่ามันเข้าถึงยาก ประเทศอื่นมันเป็นปัญหาเหมือนประเทศเราไหม
2.งานที่ไทยหายาก แถมได้งานมาก็แทบจะทำงานถวายชีวิต
((บริษัทเราบังคับ 12 ชม/วัน แบ่งเป็น2กะ ทำจันทร์-เสาร์ งานยืน เงินออกเดือนละครั้งทุกคน มีค่าข้าวค่าน้ำมันแต่เบิกมาใช้ก่อนไม่ได้ (อันนี้คืองงมาก) )) และเรารู้ว่าทั้งหัวหน้าและฝ่ายบุคคลยังไม่ส่งเรื่องนี้ถึง ผจก 1คือ ผจก เขาเป็นคนต่างชาติ คุยยากระดับหนึ่ง 2คือคนที่มีอำนาจรองลงมาก็เป็นคนใหม่ อำนาจการตัดสินใจเลยไม่มี อีกคนที่มีอำนาจตัดสินใจเขาก็ปล่อยเรื่องในออฟฟิศแล้วมาเต็มที่กับไลน์ผลิต ไม่ยุ่งเกี่ยวแล้ว
.
จากเหตุการณ์ด้านต้น เราจึงบอกว่ามันลำบากมาก บางเม้นอาจบอกว่าให้ไปขอข้าววัดสิ ((ทุกวันนี้เขาขอข้าววัดอยู่นะคะ แลกกับการล้างจาน)) ซึ่งถึงจะขอข้าววัดได้ แต่ก็ขัดสนเรื่องเงินอยู่ดี น้ำมันรถก็ต้องใช้เงิน ค่าเทอม ค่าห้อง ค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าจิปาถะ เงินทั้งนั้น แถมน้อยคนที่จะขอผ่อนผันได้ ((อย่างครอบครัวพี่คนนี้แล้ว 1 ก่อนได้งานต้องยืมคนนั้นมาโปะคนนี้ ฟังแล้วปวดหัวแทน))