กรมควบคุมโรค แถลงพบบุคลากรทางการแพทย์ติดโควิด 19 แล้ว 880 ราย ภายในเวลา 4 เดือน เสียชีวิต 7 ราย พบมีเคสพยาบาลฉีดวัคซีนซิโนแวคครบ 2 เข็ม ยังเสียชีวิต
ภาพจาก กรมควบคุมโรค
วันที่ 11 กรกฎาคม 2564 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ขอแสดงความเสียใจกับพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 หลังติดเชื้อโควิด 19 ขอแสดงความเสียใจมายังญาติพี่น้องของพยาบาลท่านนี้ด้วย ถือว่าเป็นความเสียสละของพยาบาลที่ปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเท
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า อยู่ในการดูแลของทีมแพทย์ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เสียชีวิตวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พยาบาลท่านี้ฉีดวัคซีนซิโนแวค เมื่อเดือนเมษายน เป็นเข็มแรก ฉีดเข็ม 2 ต้นเดือนพฤษภาคม แต่ด้วยการปฏิบัติงานจึงมีโอกาสได้รับเชื้อ บวกกับมีประวัติเสี่ยงคือภาวะอ้วน ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้อาการรุนแรง
โดยตั้งแต่การระบาดรอบเมษายน - 10 กรกฎาคม พบว่า มีบุคลากรการแพทย์ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งสิ้น 880 ราย ส่วนใหญ่เป็นหญิง โดย 54 เปอร์เซ็นต์ เป็นพยาบาลหรือผู้ช่วยพยาบาล ส่วนแพทย์ /ทันตแพทย์ ติดเชื้อ 7 เปอร์เซ็นต์ แม่บ้าน/ หน่วยจ่ายกลาง 6 เปอร์เซ็นต์ และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ส่วนใหญ่อายุ 20-29 ปี ถัดมาคือ 30-39 ปี โดยมากกว่า 97 เปอร์เซ็นต์ ฉีดวัคซีนแล้ว
ทั้งนี้ตามฐานข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำแนกเป็นกลุ่มบุคลากรการแพทย์ที่รายงานเข้ามา 880 รายนั้น พบว่าไม่มีประวัติว่ารับวัคซีน 173 ราย มีผู้เสียชีวิต 7 ราย โดยคนที่เสียชีวิตไม่ได้รับวัคซีน 5 ราย ได้รับวัคซีนซิโนแวค 1 เข็ม 1 ราย โดยเพิ่งได้รับเข็ม 2 เพียง 1 วัน ก็เริ่มป่วย แต่อย่างอธิบายคือปกติภูมิฯ จะขึ้นหลังฉีดเข็ม 2 แล้ว ประมาณ 14 วัน ส่วนอีก 1 ราย ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 โดส 1 ราย คือน้องพยาบาลที่เป็นข่าวในวันนี้
อย่างไรก็ตามบุคลากรการแพทย์ เป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับวัคซีนครบโดสในเดือนเมษายน มีส่วนน้อยที่ได้รับหลังจากนั้น ดังนั้นเมื่อเกิดการระบาดของโควิด ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน จะอยู่ในกลุ่มที่ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว และมี 1 รายที่เสียชีวิต มีอาการรุนแรง 1 ราย ส่วนคนที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าฯ ส่วนใหญ่ได้รับ 1 เข็ม มีอาการป่วยน้อย 43 ราย ป่วยปานกลาง 1 ราย อาการรุนแรง 2 ราย โดย 1 รายใช้ท่อช่วยหายใจ อีก 1 ราย ใช้ออกซิเจนไฮโฟล แต่ยังไม่มีรายงานเสียชีวิต
ภาพจาก กรมควบคุมโรค
ภาพจาก กรมควบคุมโรค
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์
ที่มา :
https://covid-19.kapook.com/view243830.html
อึ้ง ! บุคลากรทางการแพทย์ติดโควิด 880 ราย ดับ 7 มีฉีดซิโนแวคครบ 2 เข็มด้วย
ภาพจาก กรมควบคุมโรค
วันที่ 11 กรกฎาคม 2564 เดลินิวส์ออนไลน์ รายงานว่า นพ.โสภณ เอี่ยมศิริถาวร รองอธิบดีกรมควบคุมโรค เปิดเผยว่า ขอแสดงความเสียใจกับพยาบาลโรงพยาบาลเอกชนที่เสียชีวิตเมื่อวันที่ 10 กรกฎาคม 2564 หลังติดเชื้อโควิด 19 ขอแสดงความเสียใจมายังญาติพี่น้องของพยาบาลท่านนี้ด้วย ถือว่าเป็นความเสียสละของพยาบาลที่ปฏิบัติงานด้วยความทุ่มเท
จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า อยู่ในการดูแลของทีมแพทย์ตั้งแต่วันที่ 1 กรกฎาคม เสียชีวิตวันที่ 10 กรกฎาคม ที่ผ่านมา พยาบาลท่านี้ฉีดวัคซีนซิโนแวค เมื่อเดือนเมษายน เป็นเข็มแรก ฉีดเข็ม 2 ต้นเดือนพฤษภาคม แต่ด้วยการปฏิบัติงานจึงมีโอกาสได้รับเชื้อ บวกกับมีประวัติเสี่ยงคือภาวะอ้วน ที่เป็นปัจจัยเสี่ยงทำให้อาการรุนแรง
โดยตั้งแต่การระบาดรอบเมษายน - 10 กรกฎาคม พบว่า มีบุคลากรการแพทย์ติดเชื้อโควิด-19 ทั้งสิ้น 880 ราย ส่วนใหญ่เป็นหญิง โดย 54 เปอร์เซ็นต์ เป็นพยาบาลหรือผู้ช่วยพยาบาล ส่วนแพทย์ /ทันตแพทย์ ติดเชื้อ 7 เปอร์เซ็นต์ แม่บ้าน/ หน่วยจ่ายกลาง 6 เปอร์เซ็นต์ และเจ้าหน้าที่อื่น ๆ ส่วนใหญ่อายุ 20-29 ปี ถัดมาคือ 30-39 ปี โดยมากกว่า 97 เปอร์เซ็นต์ ฉีดวัคซีนแล้ว
ทั้งนี้ตามฐานข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด 19 จำแนกเป็นกลุ่มบุคลากรการแพทย์ที่รายงานเข้ามา 880 รายนั้น พบว่าไม่มีประวัติว่ารับวัคซีน 173 ราย มีผู้เสียชีวิต 7 ราย โดยคนที่เสียชีวิตไม่ได้รับวัคซีน 5 ราย ได้รับวัคซีนซิโนแวค 1 เข็ม 1 ราย โดยเพิ่งได้รับเข็ม 2 เพียง 1 วัน ก็เริ่มป่วย แต่อย่างอธิบายคือปกติภูมิฯ จะขึ้นหลังฉีดเข็ม 2 แล้ว ประมาณ 14 วัน ส่วนอีก 1 ราย ที่ได้รับวัคซีนซิโนแวคครบ 2 โดส 1 ราย คือน้องพยาบาลที่เป็นข่าวในวันนี้
อย่างไรก็ตามบุคลากรการแพทย์ เป็นกลุ่มแรก ๆ ที่ได้รับวัคซีนครบโดสในเดือนเมษายน มีส่วนน้อยที่ได้รับหลังจากนั้น ดังนั้นเมื่อเกิดการระบาดของโควิด ตั้งแต่กลางเดือนเมษายน จะอยู่ในกลุ่มที่ฉีดครบ 2 เข็มแล้ว และมี 1 รายที่เสียชีวิต มีอาการรุนแรง 1 ราย ส่วนคนที่ได้รับวัคซีนแอสตร้าฯ ส่วนใหญ่ได้รับ 1 เข็ม มีอาการป่วยน้อย 43 ราย ป่วยปานกลาง 1 ราย อาการรุนแรง 2 ราย โดย 1 รายใช้ท่อช่วยหายใจ อีก 1 ราย ใช้ออกซิเจนไฮโฟล แต่ยังไม่มีรายงานเสียชีวิต
ภาพจาก กรมควบคุมโรค
ภาพจาก กรมควบคุมโรค
ขอบคุณข้อมูลจาก เดลินิวส์ออนไลน์
ที่มา : https://covid-19.kapook.com/view243830.html