ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับแฟนฟ้าชาวอาร์เจนติน่าทุกท่านนะครับ ที่เหล่านักเตะขุนพลฟ้าขาวทีมชาติอาร์เจติน่า คว้า แชมป์โคปาอเมริกามาครองได้สำเร็จ ในรอบเกือบ 28 ปี (เรียกว่านักเตะแชมป์ชุดนี้หลายคนยังเกิดไม่ทันเห็นทีมคว้าแชมป์หนนั้นด้วยซ้ำ) แต่ที่แฟนบอลลุ้นมากที่สุด ก็น่าจะเห็นการที่ลีโอเนล เมสซี่ นักเตะที่เป็นเบอร์ 1 ของโลกมายาวนาน ได้แชมป์แรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ได้ซักที แม้จะไม่ได้เป็นแชมป์โลก แต่แชมป์ทวีปก็เป็นแชมป์ที่ทรงคุณค่ามากพอที่จะทำให้คนอาร์เจนทั้งชาติ และแฟนคลับเมสซี่มีความสุขแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนได้สำเร็จ
ผมลองไปเปรียบเทียบกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ทุกคนยกย่องว่าเป็นเบอร์ 1 ของโลกเหมือนเมสซี่เช่นกันมาหลายปี คว้าแชมป์ยูโรกับทีมชาติโปรตุเกสได้เมื่อ 5 ก่อน ไม่น่าเชื่อว่า กว่าที่ทั้งคู่จะคว้าแชมป์แรกกับทีมชาติได้สำเร็จ มีอะไรแทบจะคล้ายๆกัน
1.ทั้งคู่ผ่านการเป็นรองแชมป์กับทีมชาติมากก่อน เมสซี่ได้รองแชมป์โคปามา 3 ครั้ง (2007,2015,2016) ส่วนโรนัลโด้ได้รองแชมป์มา 1 ครั้ง (2004)
2.ทั้งเมสซี่และโรนัลโด้กว่าจะได้แชมป์กับทีมชาติชุดใหญ่ นับตั้งแต่ติดทีมชาติครั้งแรก ก็กินเวลาเกิน 10 ปีขึ้นทั้งนั้น (โดยเมสซี่ติดทีมชาติปี 2005 คว้าแชมป์ปี 2021 กินเวลาถึง 16ปี และโรนัลโด้ ติดทีมชาติปี 2003 คว้าแชมป์ปี 2016 กินเวลาถึง 13 ปี)
3.ก่อนทัวร์มาเมนต์รายการนั้นๆครั้งก่อน ทั้งของทีมชาติทั้งคู่ จะต้องหยุดที่แค่รอบรองชนะเลิศก่อน (โปรตุเกสแพ้สเปน รอบรองยูโร 2012 และอาร์เจนแพ้บราซิล รอบรองโคปา 2019)
4.ทีมชาติโปรตุเกสและอาร์เจนติน่า คว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะเจ้าภาพในนัดชิงชนะเลิศด้วยกันทั้งคู่ (โปรตุเกสชนะฝรั่งเศส เจ้าภาพยูโร 2016 ส่วนอาร์เจนชนะบราซิล เจ้าภาพโคปา 2021)
5.ก่อนที่ทั้งคู่จะคว้าแชมป์ได้ ต้องยิงประตูในนามทีมชาติเกิน 50 ลูกได้ก่อนถึงจะคว้แชมป์ได้ (โรนัลโด้ยิงได้ 61 ลูก และเมสซี่ยิงได้ 76 ลูก)
6.อันนี้ไม่รู้เกี่ยวหรือเปล่า แต่ก่อนที่ทีมชาติโปรตุเกสและอาร์เจนติน่าจะคว้าแชมป์ได้ ก่อนหน้านั้น พวกเขาต้องสูญเสียตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเขาไปก่อนตลอด (โปรตุเกสเสียยูเซบิโอ้ เจ้าของฉายาเสือดำ ปี 2014 และอาร์เจนติน่าเสียมาราโดน่า เจ้าของฉายาเสือเตี้ย ปี 2020) ซึ่งมันน่าเสียดายจริงๆที่พวกเขาไม่ได้ทันเห็นทีมชาติประสบความสำเร็จต่อหน้าต่อตาตนเอง (นอกเรื่องนิดหน่อย คือข้อนี้แอบเสียวแทนทีมชาติอังกฤษก่อนชิงยูโรกับอิตาลีเลย เพราะอิตาลีก็เสียเปาโล รอสซี่ เจ้าของดาวซัลโวชุดแชมป์บอลโลกปี 1982 ก่อนเช่นกัน และถ้าอิตาลีได้แชมป์ก็จะคล้ายๆอาร์เจนและโปรตุเกสเลย คือชนะเจ้าบ้านในนัดชิง)
ป.ล.อันนี้เท่าคิดออกมานะครับ แต่ไม่ว่าบังเอิญหรือเปล่า ก็ต้องให้เครคิตกับนักเตะคนอื่นๆด้วย ที่ทำงานหนักจนได้เห็นทีมชาติของตัวเองประสบความสำเร็จซักที
ไม่น่าเชื่อว่า ทั้งเมสซี่และโรนัลโด้ได้แชมป์ทีมชาติแทบจะมีอะไรบังเอิญคล้ายๆกัน
ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับแฟนฟ้าชาวอาร์เจนติน่าทุกท่านนะครับ ที่เหล่านักเตะขุนพลฟ้าขาวทีมชาติอาร์เจติน่า คว้า แชมป์โคปาอเมริกามาครองได้สำเร็จ ในรอบเกือบ 28 ปี (เรียกว่านักเตะแชมป์ชุดนี้หลายคนยังเกิดไม่ทันเห็นทีมคว้าแชมป์หนนั้นด้วยซ้ำ) แต่ที่แฟนบอลลุ้นมากที่สุด ก็น่าจะเห็นการที่ลีโอเนล เมสซี่ นักเตะที่เป็นเบอร์ 1 ของโลกมายาวนาน ได้แชมป์แรกในนามทีมชาติชุดใหญ่ได้ซักที แม้จะไม่ได้เป็นแชมป์โลก แต่แชมป์ทวีปก็เป็นแชมป์ที่ทรงคุณค่ามากพอที่จะทำให้คนอาร์เจนทั้งชาติ และแฟนคลับเมสซี่มีความสุขแบบที่ไม่เคยเป็นมาก่อนได้สำเร็จ
ผมลองไปเปรียบเทียบกับ คริสเตียโน่ โรนัลโด้ ที่ทุกคนยกย่องว่าเป็นเบอร์ 1 ของโลกเหมือนเมสซี่เช่นกันมาหลายปี คว้าแชมป์ยูโรกับทีมชาติโปรตุเกสได้เมื่อ 5 ก่อน ไม่น่าเชื่อว่า กว่าที่ทั้งคู่จะคว้าแชมป์แรกกับทีมชาติได้สำเร็จ มีอะไรแทบจะคล้ายๆกัน
1.ทั้งคู่ผ่านการเป็นรองแชมป์กับทีมชาติมากก่อน เมสซี่ได้รองแชมป์โคปามา 3 ครั้ง (2007,2015,2016) ส่วนโรนัลโด้ได้รองแชมป์มา 1 ครั้ง (2004)
2.ทั้งเมสซี่และโรนัลโด้กว่าจะได้แชมป์กับทีมชาติชุดใหญ่ นับตั้งแต่ติดทีมชาติครั้งแรก ก็กินเวลาเกิน 10 ปีขึ้นทั้งนั้น (โดยเมสซี่ติดทีมชาติปี 2005 คว้าแชมป์ปี 2021 กินเวลาถึง 16ปี และโรนัลโด้ ติดทีมชาติปี 2003 คว้าแชมป์ปี 2016 กินเวลาถึง 13 ปี)
3.ก่อนทัวร์มาเมนต์รายการนั้นๆครั้งก่อน ทั้งของทีมชาติทั้งคู่ จะต้องหยุดที่แค่รอบรองชนะเลิศก่อน (โปรตุเกสแพ้สเปน รอบรองยูโร 2012 และอาร์เจนแพ้บราซิล รอบรองโคปา 2019)
4.ทีมชาติโปรตุเกสและอาร์เจนติน่า คว้าแชมป์ด้วยการเอาชนะเจ้าภาพในนัดชิงชนะเลิศด้วยกันทั้งคู่ (โปรตุเกสชนะฝรั่งเศส เจ้าภาพยูโร 2016 ส่วนอาร์เจนชนะบราซิล เจ้าภาพโคปา 2021)
5.ก่อนที่ทั้งคู่จะคว้าแชมป์ได้ ต้องยิงประตูในนามทีมชาติเกิน 50 ลูกได้ก่อนถึงจะคว้แชมป์ได้ (โรนัลโด้ยิงได้ 61 ลูก และเมสซี่ยิงได้ 76 ลูก)
6.อันนี้ไม่รู้เกี่ยวหรือเปล่า แต่ก่อนที่ทีมชาติโปรตุเกสและอาร์เจนติน่าจะคว้าแชมป์ได้ ก่อนหน้านั้น พวกเขาต้องสูญเสียตำนานผู้ยิ่งใหญ่ของพวกเขาไปก่อนตลอด (โปรตุเกสเสียยูเซบิโอ้ เจ้าของฉายาเสือดำ ปี 2014 และอาร์เจนติน่าเสียมาราโดน่า เจ้าของฉายาเสือเตี้ย ปี 2020) ซึ่งมันน่าเสียดายจริงๆที่พวกเขาไม่ได้ทันเห็นทีมชาติประสบความสำเร็จต่อหน้าต่อตาตนเอง (นอกเรื่องนิดหน่อย คือข้อนี้แอบเสียวแทนทีมชาติอังกฤษก่อนชิงยูโรกับอิตาลีเลย เพราะอิตาลีก็เสียเปาโล รอสซี่ เจ้าของดาวซัลโวชุดแชมป์บอลโลกปี 1982 ก่อนเช่นกัน และถ้าอิตาลีได้แชมป์ก็จะคล้ายๆอาร์เจนและโปรตุเกสเลย คือชนะเจ้าบ้านในนัดชิง)
ป.ล.อันนี้เท่าคิดออกมานะครับ แต่ไม่ว่าบังเอิญหรือเปล่า ก็ต้องให้เครคิตกับนักเตะคนอื่นๆด้วย ที่ทำงานหนักจนได้เห็นทีมชาติของตัวเองประสบความสำเร็จซักที