จากอัตราการตรวจที่น้อยกว่าความเป็นจริงมาก
อัตราการติดจริงคูณสามไปได้เลย วันละ 30,000 คน
จากสถิติอาการหนักต้องเข้า ICU 2% เท่ากับ 600 คน/วัน ห้อง ICU ที่ไหนจะรับไหว
อาการหนักแบบต้องเฝ้าระวัง 10% ก็ตกวันละ 3,000 คน เตียง admit ที่ไหนจะพอ
อาการพอสมควร พอเข้าศูนย์กักกันตามที่ต่างๆได้ 20% ประมาณ 6,000 คน/ต่อวัน ให้เปิดศูนย์กักแบบเมืองทองธานีวันละศูนย์ ก็ยังไม่ทัน
ในหนึ่งสัปดาห์ จะมีคนต้องเข้า ICU 4,200 คน ไม่มีทางที่จะทำได้เลย
นอกจากเคอร์ฟิวแล้ว รัฐได้วางแผนอะไรไว้อีกไหม เพื่อสกัดอัตราการติดเชื้อ
วัคซีน แอสตร้า ที่ว่าเราเป็นผู้ผลิต ทำไมวันนี้วันที่ 10 แล้ว ยังไม่มีข่าวอะไรเลย
วิธีเดียวที่จะสกัดอัตราการติดเชื้อได้เร็วที่สุดคือ วัคซีน
รัฐบาลต้องห้ามหยุดเสาร์ อาทิตย์แล้ว สถานการณ์ตอนนี้วิกฤติมากๆ วิกฤติกว่าสงครามระหว่างประเทศอีก
สมัยสงครามร่มเกล้า เสียชีวิตวันละ 20 คน เรายังตื่นกันทั้งประเทศ ทุกองค์กร ออกมาช่วยกัน เอกชนทุ่มสุดตัว
แต่วิกฤติคราวนี้ เราเสียชีวิตวันละเกินร้อย ( ยอดผู้เสียชีวิตจริงมากกว่าที่ประกาศแน่นอน) ทำไมไม่เห็นบริษัทเอกชนใหญ่ๆออกมาช่วยอะไรบ้างเลย
รัฐบาลก็เหมือนกัน ตอนนี้ประชาชนขวัญเสียมาก ควรออกมาบอกว่าเตรียมการอะไรไว้บ้าง สยามไบโอไซน์ขาดแคลนอะไร รัฐต้องทุ่มลงไป ทั้งบุคลากร เครื่องไม้เครื่องมือ จะทุ่มเป็นพันล้าน ก็ยังคุ้มกว่าไปซื้อซิโนแวคเข้ามา
จริงๆแล้ว สิ่งที่ต้องการให้แถลงทุกวันคือ ยอดฉีดวัคซีน จำนวนวัคซีนที่ได้รับ แผนการกระจายวัคซีน และ การเร่งการผลิต แต่ไม่ต้องการข่าวระยะไกล เช่น ในปี 2565 จะมีวัคซีนเข้าไทยอีก 150 ล้านโดส มันไม่มีประโยชน์อะไร ความรู้สึกเหมือนเดือนที่แล้วที่รัฐบอกว่า จะมีวัคซีนแอสต้าเดือนละสิบล้านโดส ขอให้เป็นจำนวนจริงๆ ที่ฉีดได้จริงๆ จินตนาการไม่เอา
พิมพ์กระทู้ยาวหน่อย เพราะมันวิกฤติจริงๆ ล็อคดาวน์สองสัปดาห์นี้ ถ้ายังไม่เตรียมแผนอื่น หวังแต่ว่าการล็อคดาวน์จะทำให้การติดเชื้อน้อยลงเอง ก็เตรียมตัวเสียชีวิตวันละสามพันคน แบบบราซิลได้เลย
ถ้าติดวันละเก้าพัน แบบนี้ อีกหนึ่งสัปดาห์ ระบบโรงพยาบาลจะล่มทั้งหมด
อัตราการติดจริงคูณสามไปได้เลย วันละ 30,000 คน
จากสถิติอาการหนักต้องเข้า ICU 2% เท่ากับ 600 คน/วัน ห้อง ICU ที่ไหนจะรับไหว
อาการหนักแบบต้องเฝ้าระวัง 10% ก็ตกวันละ 3,000 คน เตียง admit ที่ไหนจะพอ
อาการพอสมควร พอเข้าศูนย์กักกันตามที่ต่างๆได้ 20% ประมาณ 6,000 คน/ต่อวัน ให้เปิดศูนย์กักแบบเมืองทองธานีวันละศูนย์ ก็ยังไม่ทัน
ในหนึ่งสัปดาห์ จะมีคนต้องเข้า ICU 4,200 คน ไม่มีทางที่จะทำได้เลย
นอกจากเคอร์ฟิวแล้ว รัฐได้วางแผนอะไรไว้อีกไหม เพื่อสกัดอัตราการติดเชื้อ
วัคซีน แอสตร้า ที่ว่าเราเป็นผู้ผลิต ทำไมวันนี้วันที่ 10 แล้ว ยังไม่มีข่าวอะไรเลย
วิธีเดียวที่จะสกัดอัตราการติดเชื้อได้เร็วที่สุดคือ วัคซีน
รัฐบาลต้องห้ามหยุดเสาร์ อาทิตย์แล้ว สถานการณ์ตอนนี้วิกฤติมากๆ วิกฤติกว่าสงครามระหว่างประเทศอีก
สมัยสงครามร่มเกล้า เสียชีวิตวันละ 20 คน เรายังตื่นกันทั้งประเทศ ทุกองค์กร ออกมาช่วยกัน เอกชนทุ่มสุดตัว
แต่วิกฤติคราวนี้ เราเสียชีวิตวันละเกินร้อย ( ยอดผู้เสียชีวิตจริงมากกว่าที่ประกาศแน่นอน) ทำไมไม่เห็นบริษัทเอกชนใหญ่ๆออกมาช่วยอะไรบ้างเลย
รัฐบาลก็เหมือนกัน ตอนนี้ประชาชนขวัญเสียมาก ควรออกมาบอกว่าเตรียมการอะไรไว้บ้าง สยามไบโอไซน์ขาดแคลนอะไร รัฐต้องทุ่มลงไป ทั้งบุคลากร เครื่องไม้เครื่องมือ จะทุ่มเป็นพันล้าน ก็ยังคุ้มกว่าไปซื้อซิโนแวคเข้ามา
จริงๆแล้ว สิ่งที่ต้องการให้แถลงทุกวันคือ ยอดฉีดวัคซีน จำนวนวัคซีนที่ได้รับ แผนการกระจายวัคซีน และ การเร่งการผลิต แต่ไม่ต้องการข่าวระยะไกล เช่น ในปี 2565 จะมีวัคซีนเข้าไทยอีก 150 ล้านโดส มันไม่มีประโยชน์อะไร ความรู้สึกเหมือนเดือนที่แล้วที่รัฐบอกว่า จะมีวัคซีนแอสต้าเดือนละสิบล้านโดส ขอให้เป็นจำนวนจริงๆ ที่ฉีดได้จริงๆ จินตนาการไม่เอา
พิมพ์กระทู้ยาวหน่อย เพราะมันวิกฤติจริงๆ ล็อคดาวน์สองสัปดาห์นี้ ถ้ายังไม่เตรียมแผนอื่น หวังแต่ว่าการล็อคดาวน์จะทำให้การติดเชื้อน้อยลงเอง ก็เตรียมตัวเสียชีวิตวันละสามพันคน แบบบราซิลได้เลย