สวัสดีครับ ผมสมัครสามชิกมาเพื่อระบายเรื่องที่เกิดขึ้นกับครอบครัวผม ขณะที่พิมพ์อยู่ตอนนี้กำลังนั้งเฝ้าศพ ที่วัด
เริ่มแรกพ่อผมป่วย และพักอยู่ที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ สองวัน และอาการโคม่า จึงต้องทำใบส่งตัวไปโรงพยาบาลใหญ่ อีกที่หนึ่ง ต่างอำเภอที่การรักษาดีกว่า คือโรงพยาบาลทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช (01/07/2021) อาการคือระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ระบบย่อยล่มเหลว คืนที่ส่งตัวหมอบอกให้ทำใจ และไปเอาผ้ามาเตรียมรับศพ น้องชายก็กลับบ้านไปเตรียมผ้า คืนนั้นผมอยู่ที่ กทม นอนไม่หลับทั้งคืนรอข่าวจากที่บ้าน จนผ่านคืนนั้นไปพ่อ อาการดีขึ้น ลืมตา รู้สึกตัว ขยับตัวได้ แต่ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพราะหายใจเองไม่ได้ เครื่องช่วยหายใจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการรักษา อาการของพ่อ ดีขึ้นแย่ลง
สลับกันไปวันต่อวัน จน อาการแย่ลงอีก และ ส่งตัวเข้า ICU พ่ออยู่ในห้อง ICU 1 วัน จนวันรุ่งขึ้น คุณหมอวินิฉัยว่าพ่อเป็น วัณโรคปอด และให้ออกมารักษาในห้องที่มีไว้สำหรับผู้ป่วยโดยเฉพาะ ขณะนั้น พ่อก็อาการเหมอนเดิมคือ รู้สึกตัว ขยับตัวได้แต่หายใจเองไม่ได้ วันที่ 05/07/2021 ขณะรักษาตัว ในห้องระจกปลอดเชื้อ มีเสียงดังตุ๊บในห้อง และไฟก็ดับ เวลาประมาณเที่ยง ผมจึงไปแจ้งพยาบาล ว่ามีเสียงระเบิดและไฟดับ ไฟที่ดับไม่ได้ดับทั้งชั้น ดับแค่ในห้องปลอดเชื้อเท่านั้น ซึ่งมีผู้ป่วยในห้อง 3 เตียง และมีเตียเดียวที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ คือเตียงพ่อผม ขณะนั้นตกใจ ว่าเครื่องช่วยหายใจจะทำงานไหม พยาบาลรับเรื่องและแจ้งว่า เครื่องมี แบ๊ตฉุกเฉิน จนเวลาผ่านไปพักใหญ่ ไฟเครื่องช่วยหายใจ ไม่พอ จำต้องถอดออกและใช้เป็นแบบ บีบเองพักใหญ่ๆ โดยคนที่บิบคือผม สลับกับน้องชาย จนรู้สึกว่านานไปแล้ว ผมจึงเสนอให้พยาบาล ต่อปลั๊คพ่วงจาก ห้องข้างนอก เข้ามาข้างใน เพื่อใช้เครื่องช่วยหายใจ
จนว่าลาผ่านไป เครื่องวัดทีพจรก็แบตหมดตาม ผมจึงย้ายไปเสียบกับปลั๊คที่พ่วงมา ขณะนั้น เวลา น่าจะ บ่าย 3 โมงแล้ว ผมทนไม่ไหว เพราะไม่มีช่างมาซ่อมเลย จึงเดินไปที่ส่วนของ รีเซฟชั่น เพื่อแจ้งเรื่องเผื่อการประสานงานจะไวขึ้น ตอนแจ้ง รีเซพชั้นก็มองเหมือนผมเป็นเพียง ญาติขี้โวยวาย และรับปากประสานงานแบบส่งๆ ผมก็เข้าใจว่าคงประสานงานแล้ว หกโมงเย็น ผมกลับบ้านเพื่อพักผ่อน และจามาเปลี่ยนเฝ้าอีกทีช่วงดึก อาการพ่อก็ยังเหมือนเดิม ตอบสนอง ดี ผมกลับมาอีกที ตอนตี 3 เพื่อมาเฝ้าแทน ขณะนั้น ไฟยังไม่มีการ ซ่อม ยังต้องต่อพ่วงจากข้างนอก จนผ่านไปช่วงเช้า คุณพ่ออาการดีขึ้น การตอบสนองดีขึ้น คุยกัน ยักคิ้ว พยักหน้า ผมโล่งใจมาก และตั้งใจจะกลับ กทม เพราะพ่ออาการดีขึ้นแล้ว ค่าออ๊คซิเจน 90-100 อัตราการเต้นหัวใจ ก็ 95-110 ผมเลยตัดสินใจกลับในช่วงเช้า ประมาณ 8 โมงเช้า ขณะนั้นไฟก็ยังไม่ซ่อม ผมเดินทางไประหว่างทาง แม่โทรศัพมาบอกว่า พ่ออาการแย่ลง เพราะไฟที่ต่อพ่วงตกและเครื่องช่วยหายใจไฟไม่พอ ขณะนั้นเวลาประมาณเที่ยง ผมจึงโทรไปโวยโรงพยาบาลอีก และคุยในโทรศัพว่าทำอะไรกันอยู่ พ่อผมอาการโคม่าแล้ว ไฟยังไม่มาซ่อม ตอนนั้นเวลาประมาณเที่ยง ซึ่งจากที่ไฟดับ จนถึงตอนนี้ ก็ 24 ชมไปแล้ว ผมเลยขอให้ญาติที่เฝ้าใข้ถ้ายรูปปลั๊คที่ต่อจากข้างนอกไว้ เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น ขณะนั้นควารู้สึกผม ทั้งโกรธ ทั้งแค้น ทำไมไม่มีการซ่อมหรือปรับปรุงอะไรเลย พญาบาลทำอะไรกันอยู่ ช่างทำอะไรกันอยู่ พนักงานต้อนรับที่บอกว่าประสานงานให้แล้วทำอะไรกันอยู่ หลักจากที่ญาติถ่ายรูป พญาบาลจึงจะรีบขยับไปตามช่างมาดู รู้อะไรไหมครับ ปัญหาคือ เบรกเกอร์ทริป ช่างมายกเบรคเกอร์ ไฟก็ใช้ได้ทั้งห้อง แล้วที่ผ่านมา ทำอะไรกัน ทิ้งเวลาผ่านมาจนคนใข้อาการโคม่า เวลาต่อมา คุณหมอประจำใข้จะขึ้น รู้อะไรไหมครับ ความสำคัญของพญาบาลคืออะไร เตียงไม่เรียบ พยาบาลโวยแม่ผมว่าหมอใหญ่จะขึ้นแล้วทำไมจัดเตียงไม่เรียบ ผ้าปูเตียงไม่ตึง แม่ผมเลยสวนกลับไปว่า ถ้าผ้าปูเตียงตึงพ่อผมอาการจะดีขึ้นไหม เมื่อหมอใหญ่ขึ้น หมอบอกว่าให้ทำใจ เพราะอาการคุณพ่อแย่แล้ว หากหัวใจหยุดเต้นปั้มหัวใจก็เป็นการทรมาณผู้ป่วยเปล่าๆ แม่จึกโทรบอกผม ความรู้สึกผมตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก พ้อมกับคำถามในใจว่า หน้าที่พญาบาลคืออะไร หน้าที่ของบุคลากร ในโรงพยาบาลคืออะไร ชีวิตคนใน รพ รัฐมีค่าแค่ใหน อยากถามถึงจรรยาบรรณวิชาชีพว่ามีกันไหม คุณรักอาชีพที่ทำจริงๆ หรือทำแค่เพราะได้เงิน ถ้าจะบอกว่ารักอาชีพผมว่าไม่ใช่ ไปลาออกให้หมดทั้งชุด ตั้งแต่ พยาบาล พนักงานต้อนรับ ยันช่าง แล้ว มาตรฐานโรงพยาบาลคืออะไร โรงพยาบาลรัฐ ทำไมปล่อยปละละเลยกันแบบนี้ ทำงานแค่ผักชีโรยหน้า เตียงต้องตึง แต่คนใข้จะตายไม่เป็นไร 06/07/2021 เวลา 19.28 คุณพ่อผมเสีย ผมมั่นใจเรื่องนี้หากฟ้องร้อง สามารถฟ้องร้องได้แน่ แต่ที่บ้านมองว่า ถึงคราวพ่อจะจากไปแล้วอะไรก็ขัดทุกอย่าง เลยไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรม ผมก็เคารพการตัดสินใจของทางบ้าน แต่ในมุมมองผม ผมมองว่า หากพยาบาลเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประสานงานเร็วกว่านี้ พ่อผมคงไม่จากไป ความผิดคือ ปล่อยให้ไฟดับ มากกว่า 24 ชม ในผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจโดยไม่ทำอะไรได้ยังไง พวกคุณทำอะไรกัน ถ้าโรงพยาบาลทุ่งสง อยากจะฟ้องผมกลับ หรือจะลองงัดก็ได้นะครับ หลักฐานผมก็ค่อนข้างพร้อมที่จะสู้กัน ทั้งพยานบุคคล ทั้งรูปถ่าย ผมพร้อมสู้ตลอด แต่ที่บ้านขอไว้ ผมก็ทำได้แค่ระบาย และขออย่าปล่อยให้เรื่องนี้เงียบครับ เพราะถ้าเงียบ เคสแบบพ่อผมก็อาจเกิดขึ้นอีก เรื่อยๆ ฝากถึงบุคลากรในที่รับผิดชอบในช่วงนั้น ลองเป็นพ่อ พวกคุณบ้างไหมครับ อยากรู้จริงๆ ว่าจะนิ่งนอนใจแบบนี้กันไหม เสียดายพันทิพด่าไม่ได้ ไม่งั้นผมคงด่าเละเทะแน่ครับ
โรงพยาบาลรัฐ และการไร้ความรับผิดชอบต่อหน้าที่ของบุคลากร มีส่วนต่อการจากไปของพ่อผม
เริ่มแรกพ่อผมป่วย และพักอยู่ที่โรงพยาบาลประจำอำเภอ สองวัน และอาการโคม่า จึงต้องทำใบส่งตัวไปโรงพยาบาลใหญ่ อีกที่หนึ่ง ต่างอำเภอที่การรักษาดีกว่า คือโรงพยาบาลทุ่งสง จังหวัดนครศรีธรรมราช (01/07/2021) อาการคือระบบทางเดินหายใจล้มเหลว ระบบย่อยล่มเหลว คืนที่ส่งตัวหมอบอกให้ทำใจ และไปเอาผ้ามาเตรียมรับศพ น้องชายก็กลับบ้านไปเตรียมผ้า คืนนั้นผมอยู่ที่ กทม นอนไม่หลับทั้งคืนรอข่าวจากที่บ้าน จนผ่านคืนนั้นไปพ่อ อาการดีขึ้น ลืมตา รู้สึกตัว ขยับตัวได้ แต่ยังต้องใช้เครื่องช่วยหายใจเพราะหายใจเองไม่ได้ เครื่องช่วยหายใจจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการรักษา อาการของพ่อ ดีขึ้นแย่ลง
สลับกันไปวันต่อวัน จน อาการแย่ลงอีก และ ส่งตัวเข้า ICU พ่ออยู่ในห้อง ICU 1 วัน จนวันรุ่งขึ้น คุณหมอวินิฉัยว่าพ่อเป็น วัณโรคปอด และให้ออกมารักษาในห้องที่มีไว้สำหรับผู้ป่วยโดยเฉพาะ ขณะนั้น พ่อก็อาการเหมอนเดิมคือ รู้สึกตัว ขยับตัวได้แต่หายใจเองไม่ได้ วันที่ 05/07/2021 ขณะรักษาตัว ในห้องระจกปลอดเชื้อ มีเสียงดังตุ๊บในห้อง และไฟก็ดับ เวลาประมาณเที่ยง ผมจึงไปแจ้งพยาบาล ว่ามีเสียงระเบิดและไฟดับ ไฟที่ดับไม่ได้ดับทั้งชั้น ดับแค่ในห้องปลอดเชื้อเท่านั้น ซึ่งมีผู้ป่วยในห้อง 3 เตียง และมีเตียเดียวที่จำเป็นต้องใช้เครื่องช่วยหายใจ คือเตียงพ่อผม ขณะนั้นตกใจ ว่าเครื่องช่วยหายใจจะทำงานไหม พยาบาลรับเรื่องและแจ้งว่า เครื่องมี แบ๊ตฉุกเฉิน จนเวลาผ่านไปพักใหญ่ ไฟเครื่องช่วยหายใจ ไม่พอ จำต้องถอดออกและใช้เป็นแบบ บีบเองพักใหญ่ๆ โดยคนที่บิบคือผม สลับกับน้องชาย จนรู้สึกว่านานไปแล้ว ผมจึงเสนอให้พยาบาล ต่อปลั๊คพ่วงจาก ห้องข้างนอก เข้ามาข้างใน เพื่อใช้เครื่องช่วยหายใจ
จนว่าลาผ่านไป เครื่องวัดทีพจรก็แบตหมดตาม ผมจึงย้ายไปเสียบกับปลั๊คที่พ่วงมา ขณะนั้น เวลา น่าจะ บ่าย 3 โมงแล้ว ผมทนไม่ไหว เพราะไม่มีช่างมาซ่อมเลย จึงเดินไปที่ส่วนของ รีเซฟชั่น เพื่อแจ้งเรื่องเผื่อการประสานงานจะไวขึ้น ตอนแจ้ง รีเซพชั้นก็มองเหมือนผมเป็นเพียง ญาติขี้โวยวาย และรับปากประสานงานแบบส่งๆ ผมก็เข้าใจว่าคงประสานงานแล้ว หกโมงเย็น ผมกลับบ้านเพื่อพักผ่อน และจามาเปลี่ยนเฝ้าอีกทีช่วงดึก อาการพ่อก็ยังเหมือนเดิม ตอบสนอง ดี ผมกลับมาอีกที ตอนตี 3 เพื่อมาเฝ้าแทน ขณะนั้น ไฟยังไม่มีการ ซ่อม ยังต้องต่อพ่วงจากข้างนอก จนผ่านไปช่วงเช้า คุณพ่ออาการดีขึ้น การตอบสนองดีขึ้น คุยกัน ยักคิ้ว พยักหน้า ผมโล่งใจมาก และตั้งใจจะกลับ กทม เพราะพ่ออาการดีขึ้นแล้ว ค่าออ๊คซิเจน 90-100 อัตราการเต้นหัวใจ ก็ 95-110 ผมเลยตัดสินใจกลับในช่วงเช้า ประมาณ 8 โมงเช้า ขณะนั้นไฟก็ยังไม่ซ่อม ผมเดินทางไประหว่างทาง แม่โทรศัพมาบอกว่า พ่ออาการแย่ลง เพราะไฟที่ต่อพ่วงตกและเครื่องช่วยหายใจไฟไม่พอ ขณะนั้นเวลาประมาณเที่ยง ผมจึงโทรไปโวยโรงพยาบาลอีก และคุยในโทรศัพว่าทำอะไรกันอยู่ พ่อผมอาการโคม่าแล้ว ไฟยังไม่มาซ่อม ตอนนั้นเวลาประมาณเที่ยง ซึ่งจากที่ไฟดับ จนถึงตอนนี้ ก็ 24 ชมไปแล้ว ผมเลยขอให้ญาติที่เฝ้าใข้ถ้ายรูปปลั๊คที่ต่อจากข้างนอกไว้ เผื่อมีอะไรเกิดขึ้น ขณะนั้นควารู้สึกผม ทั้งโกรธ ทั้งแค้น ทำไมไม่มีการซ่อมหรือปรับปรุงอะไรเลย พญาบาลทำอะไรกันอยู่ ช่างทำอะไรกันอยู่ พนักงานต้อนรับที่บอกว่าประสานงานให้แล้วทำอะไรกันอยู่ หลักจากที่ญาติถ่ายรูป พญาบาลจึงจะรีบขยับไปตามช่างมาดู รู้อะไรไหมครับ ปัญหาคือ เบรกเกอร์ทริป ช่างมายกเบรคเกอร์ ไฟก็ใช้ได้ทั้งห้อง แล้วที่ผ่านมา ทำอะไรกัน ทิ้งเวลาผ่านมาจนคนใข้อาการโคม่า เวลาต่อมา คุณหมอประจำใข้จะขึ้น รู้อะไรไหมครับ ความสำคัญของพญาบาลคืออะไร เตียงไม่เรียบ พยาบาลโวยแม่ผมว่าหมอใหญ่จะขึ้นแล้วทำไมจัดเตียงไม่เรียบ ผ้าปูเตียงไม่ตึง แม่ผมเลยสวนกลับไปว่า ถ้าผ้าปูเตียงตึงพ่อผมอาการจะดีขึ้นไหม เมื่อหมอใหญ่ขึ้น หมอบอกว่าให้ทำใจ เพราะอาการคุณพ่อแย่แล้ว หากหัวใจหยุดเต้นปั้มหัวใจก็เป็นการทรมาณผู้ป่วยเปล่าๆ แม่จึกโทรบอกผม ความรู้สึกผมตอนนั้นทำอะไรไม่ถูก พ้อมกับคำถามในใจว่า หน้าที่พญาบาลคืออะไร หน้าที่ของบุคลากร ในโรงพยาบาลคืออะไร ชีวิตคนใน รพ รัฐมีค่าแค่ใหน อยากถามถึงจรรยาบรรณวิชาชีพว่ามีกันไหม คุณรักอาชีพที่ทำจริงๆ หรือทำแค่เพราะได้เงิน ถ้าจะบอกว่ารักอาชีพผมว่าไม่ใช่ ไปลาออกให้หมดทั้งชุด ตั้งแต่ พยาบาล พนักงานต้อนรับ ยันช่าง แล้ว มาตรฐานโรงพยาบาลคืออะไร โรงพยาบาลรัฐ ทำไมปล่อยปละละเลยกันแบบนี้ ทำงานแค่ผักชีโรยหน้า เตียงต้องตึง แต่คนใข้จะตายไม่เป็นไร 06/07/2021 เวลา 19.28 คุณพ่อผมเสีย ผมมั่นใจเรื่องนี้หากฟ้องร้อง สามารถฟ้องร้องได้แน่ แต่ที่บ้านมองว่า ถึงคราวพ่อจะจากไปแล้วอะไรก็ขัดทุกอย่าง เลยไม่อยากสร้างเวรสร้างกรรม ผมก็เคารพการตัดสินใจของทางบ้าน แต่ในมุมมองผม ผมมองว่า หากพยาบาลเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลประสานงานเร็วกว่านี้ พ่อผมคงไม่จากไป ความผิดคือ ปล่อยให้ไฟดับ มากกว่า 24 ชม ในผู้ป่วยที่ต้องใช้เครื่องช่วยหายใจโดยไม่ทำอะไรได้ยังไง พวกคุณทำอะไรกัน ถ้าโรงพยาบาลทุ่งสง อยากจะฟ้องผมกลับ หรือจะลองงัดก็ได้นะครับ หลักฐานผมก็ค่อนข้างพร้อมที่จะสู้กัน ทั้งพยานบุคคล ทั้งรูปถ่าย ผมพร้อมสู้ตลอด แต่ที่บ้านขอไว้ ผมก็ทำได้แค่ระบาย และขออย่าปล่อยให้เรื่องนี้เงียบครับ เพราะถ้าเงียบ เคสแบบพ่อผมก็อาจเกิดขึ้นอีก เรื่อยๆ ฝากถึงบุคลากรในที่รับผิดชอบในช่วงนั้น ลองเป็นพ่อ พวกคุณบ้างไหมครับ อยากรู้จริงๆ ว่าจะนิ่งนอนใจแบบนี้กันไหม เสียดายพันทิพด่าไม่ได้ ไม่งั้นผมคงด่าเละเทะแน่ครับ