ประสบการณ์ เกือบจมน้ำตายที่กาญจนบุรี เพราะลูกคนอื่น

สวัสดีค่ะ วันนี้เราอยากจะมาแชร์ประสบการณ์นึงค่ะ ซึ่งจริงๆมันผ่านมาหลายเดือนแล้วแต่ยังฝังใจเราไม่หายเลย คือประสบการณ์เกือบจมน้ำตายที่แม่น้ำแคว กาญจนบุรีค่ะ

    เรื่องมีอยู่ว่าเราได้ไปทริปนึงค่ะกับแฟน เป็นทริปจัดโดยคนที่แฟนเรารู้จักอีกที เป็นกรุ๊ปค่อนข้างใหญ่ค่ะ ทีนี้ในทริปมีวันนึงที่เราต้องไปนอนแพลอยน้ำ ที่แม่น้ำแควกันค่ะ และพี่ที่เป็นคนจัดทริปเขามาพร้อมครอบครัว(ภรรยา และลูกสาวอีก3คน อายุ10-12ขวบ)​ ลูกๆเขานิสัยดีน่ารักมากค่ะ ค่อนข้างติดเราเพราะเราก็ยังวัยรุ่นมีความเป็นเด็กอยู่ เขาก็ชวนเราลงเล่นน้ำ ตอนนั้นมีเรา แฟนเรา และเด็ก3คนที่เล่นน้ำค่ะ กระแสน้ำดูจากตาไม่แรงนะคะ แล้วเราเองก็เป็นคนว่ายน้ำแข็งค่ะ แต่เราตัวเล็ก พอมาเจอกระแสน้ำของแม่น้ำใหญ่ คือเข้าใจคำว่าน้ำนิ่งไหลลึกเลยค่ะ มันต่างจากการว่ายน้ำในสระมาก มันรู้สึกเลยว่าต้องใช้แรงขาแขนในการพยุงตัวให้ลอยมากๆ รู้สึกตัวหนักเหมือนจะถูกดูดลงไปตลอดเวลา ในน้ำจะมีโฟมแพด้วย น้องๆ2คนขึ้นไปบนนั้นกัน ส่วนอีกคนนึงจากที่สังเกตว่ายน้ำไม่ค่อยได้แต่ไม่แข็งมาก รั้นนิดนึง เราเตือนให้เขาใส่ชูชีพเขาก็ไม่ยอมใส่ กระโดดจากแพโฟมลงน้ำ แล้วว่ายกลับไป มีถีบกันบ้าง เล่นค่อนข้างแรง

    จนกระทั้งน้องคนนั้นกระโดดลงมาจากแพโฟม แล้วโดดไกลเกินไป แพก็เริ่มลอยออกห่างเกินที่เขาจะว่ายกลับไปไหว เขาก็เริ่มจะจม แล้วหน้าไม่พ้นน้ำ เริ่มมีกินน้ำเข้าไป เราสังเกตเห็น พยายามเรียกแฟน แต่เวลาเราอยู่ในน้ำ เหมือนแรงดันมันดันอกจนเราเปล่งเสียงได้ไม่ดัง เขาไม่ได้ยิน และตัวเขาเองก็ไม่สนใครคนอื่น ไม่รอบคอบระวังอะไร ก็คุยกับคนบนแพใหญ่อยู่ จังหวะนั้นคิดว่าถ้าน้องหายยกหัวไม่พ้นน้ำอีกที คงหายแล้วถูกกระแสน้ำพัดไปแน่ เราเลยคิด เอาหวะ ตายก็ตาย เราพยายามว่ายไปหาเขา จากระยะเรากับเขา และเขากับแพ คือแค่เราว่ายไปหาเขาก็หมดแรงแล้ว พอได้ตัว เขาพยายามกดเราจนจม เรากลัวมากว่าจะจมทั้งคู่หรือเราอาจจะตายเพราะช่วยลูกคนอื่น เลยสังเกตว่าแพไกลอีกแค่ไหน แล้วยอมจม ใช้แรงทั้งหมดผลักน้องไปให้ถึงโฟม พอเราตีขาพ้นน้ำมากูได้ เขาก็เกาะโฟมได้แล้ว แต่เรานี่สิ ยิ่งไกลจากแพ หมดแรงจะว่ายกลับไป แค่พยุงหัวให้พ้นน้ำก็ยากแล้ว ยิ่งใต้น้ำคือมืดจนมองไม่เห็นว่าต้องว่ายอีกแค่ไหนจะโผล่พ้นน้ำ มันทรมานมาก  เราคิดว่าก่อนจะตายต้องพยายามรอดให้ถึงที่สุด เลยฮึบว่ายไปอีกทางให้ใกล้แฟนเราให้มากที่สุด ก่อนจะถึงแพใหญ่

    พอเราขึ้นมาจากน้ำได้ เราโมโหทุกคนมากๆ เราเดินไปหยิบชูชีพบอกให้แฟนเอาไปให้น้องคนนั้น แล้วดุด้วยว่าต้องใส่ เป็นไรขึ้นมามันไม่คุ้ม แล้วคนอื่นต้องมาลำบากช่วย จากที่สังเกตคือทั้งพ่อและแม่ของน้องๆเนี่ยค่อนข้างเชื่อใจลูก คงเพราะลูกเขาเก่งในหลายๆด้าน และเขาคงคิดว่าลูกว่ายน้ำเป็นน่าจะไม่เป็นไร ตรงนั้นมีผู้ใหญ่หลายคนรวมถึงพ่อน้องด้วยที่อยู่ตรงนั้น แต่ไม่มีใครแม้แต่จะมองเด็ก10ขวบที่ว่ายน้ำแบบไม่มีชูชีพเลย มีแต่ชมวิวเอยอะไรเอย คุณจะรู้มั้ยแค่เสี่ยววินาทีคุณก็สามารถเสียลูกคุณไปได้ เราไม่ได้เล่าให้พ่อแม่เด็กฟังว่าเกิดอะไรขึ้นเพราะโมโหและโกรธมาก คิดว่าชีวิตลูกเขาก็ให้เขารับผิดชอบเอาเอง เราจะช่วยแค่ครั้งเดียว แล้วถ้ามีรอบสองอะไรจะเกิดก็ต้องเกิด เราจะไม่เอาตัวเองไปตายแทนใครแล้ว เราก็แค่เรียกแฟนมาต่อว่าที่เขาไม่ใส่ใจไม่ระวังสังเกตเราและเด็กอีก3คนที่อยู่ในแม่น้ำใหญ่ ไหลตลอดเวลาโดยไม่มีชูชีพ

    อยากฝากทุกคนที่มีลูกมีหลานนะคะ ผู้ใหญ่โตๆกันแล้วยังจมน้ำตายได้ ออกข่าวเยอะแยะ อย่าประมาทมั่นใจในตัวลูกคุณเกินไป เพราะมันอาจจะเป็นการทำร้ายเขาได้ แล้ววันนั้นคุณจะต้องมานั่งโทษตัวเองไปตลอดชีวิตโดยที่ไม่สามารถย้อนเวลากลับไปแก้ไขอะไรได้เลย
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่