สวัสดีครับโดยส่วนตัวนั้นตัวผมเป็นคนที่ชอบดูหนังหรือการ์ตูน โดยในปัจจุบันนั้นการรับชม Contents ก็สามารถหารับชมได้ง่ายผ่านตัว Smart TV หรือ Smartphone กันโดยใช้ Application ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Netflix หรือ Disney+ ในปัจจุบัน แต่สำหรับคนที่ไม่มี Smart TV หรือไม่สะดวกรับชมผ่าน Smartphone จอเล็กๆ แล้วละก็กล่อง Android ถือว่าสำคัญไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นวันนี้ผมจะมาแนะนำเกี่ยวกับตัวกล่อง Android หรือ iOS อย่าง Apple TV กันครับ โดยจะเริ่มจากตัวท๊อปของแรง ราคาแซงโค้ง จนไปถึง งบประหยัดราคาน่ารักแต่ยัดสเปคเพียบครับผม
*ราคาที่เป็น XXX นั้นหมายความว่า ณ ตอนนี้ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแต่สามารถหาซื้อได้ผ่าน Shopee และ Lazada ครับ
1. Apple TV ราคา 6,700 บาท ตัวจบสำหรับสาวก Apple
มากันที่ตัวแรกสุดอย่าง Apple TV โดยตอนนี้เพิ่งมีออกรุ่นใหม่มาอย่าง Apple TV 2021 โดยพัฒนาการออกแบบดีไซน์ในส่วนของ Remote Control ที่ใข้งานได้มากยิ่งขึ้นและยังสามารถรองรับการแสดงผลต่างๆ ได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น Dolby Vision, Dolby Atmos และ HDR นอกจากนั้นแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยก็คือค่า Bitrate ของตัว Application Apple TV+ จะสูงกว่าการใช้งานผ่านตัว Application บนอุปกรณ์ตัวอื่นอีกด้วย จึงให้ภาพที่ชัดกว่าคมกว่าอุปกรณ์ตัวอื่นอย่างแน่นอนสำหรับการใช้งาน Application Apple TV+
ข้อดี
- รอบรับการใช้งานได้ครบไม่ว่าจะเป็น Dolby Vision, Dolby Atmos และ HDR
- มีระบบปรับจูนสีการแสดงผล อัตโนมัติ เพื่อให้ภาพที่สวยงามมากยิ่งขึ้น (จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ iPhone ช่วย)
- Bitrate ของภาพผ่าน Apple TV+ จะเยอะกว่าจึงให้ภาพที่คมชัดมากกว่า
ข้อสังเกต
- ไม่มี Chromecast Built-in
- ราคาสูงตามสไตล์ Apple
2. Nvidia Shield ราคา 6,xxx บาท และ 9,xxx บาท กล่องเทพแบบ All in one จะเล่นเกมจะดูหนังก็จัดมา
มาฝั่ง Android กันบ้างกับ Nvidia Shield โดยสามารถใช้งานได้ทั้งตัว Pro และ ตัวปกติ อย่างไรก็ตามขออนุญาติข้างฟีเจอร์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับเกมไปก่อนเพราะรอบนี้เรามาเน้นในเรื่องภาพกันดีกว่า แน่นอนว่าราคาระดับนี้สามารถรอบรับการแสดงผลได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็Dolby Vision, Dolby Atmos และ HDR ก็มากันครบนอกจากนั้นยังสามารถรองรับได้ทั้ง Android และ iOS อีกด้วย แต่จุดเด่นจริงๆ ของ Nvidia Shield นั้นก็คือระบบ Ai Upscaling ที่จะช่วยให้เราสามารถรับชมภาพ 1080p ในความชัดระดับ 4K ได้นั้นเอง
ข้อดี
- รอบรับการใช้งานได้ครบไม่ว่าจะเป็น Dolby Vision, Dolby Atmos และ HDR
- ระบบ Ai Upscaling ทีเด็ดภาพชัดเกือบทุก Contents คมจบมีดต้องเรียกพี่
- มี Chromecast Built-in
ข้อสังเกต
- ไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ไทย มีปัญหามา ลำบากหน่อย
- ราคาสูง
ก่อนจะไปข้อถัดไปถ้าชื่นชอบบทความรีวิวหรือวิเคราะห์ต่างๆ สามารถกดติดตามได้ผ่านทาง Fanpage Fudo Play ได้เลยครับ https://www.facebook.com/FudoPlay
3. Mi Box S ราคา 2,599 บาท สายประหยัดราคาถูก คุณภาพล้นจอ
มากันถึงกล่องยอดฮิตเพราะว่าสามารถใช้งานได้ครบเครื่องแถมราคาก็ถูกกว่าสองตัวข้างบนอีกด้วยกับตัว Mi Box S โดยตัวกล่องนี้สามารถรับชมภาพแบบ 4K ได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด พร้อมกับการอัพเดท Firmware มาอย่างต่อเนื่อง อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Mi Box S ได้รับความนิยมคงหนีไม่พ้นอิทธิพลของแบรนด์ Mi ที่ราคาถูก หาซื้อง่าย แต่มาพร้อมกับคุณภาพที่คุ้มกับเงินที่เสียไปจริงๆ
ข้อดี
- หาซื้อง่าย ใช้งานง่าย
- มี Chromecast Built-in
ข้อสังเกต
- ไม่รองรับการแสดงผลระดับสูงอย่าง Dolby Vision และ Dolby Atmos
4. Chromecast with Google tv ราคา 2,xxx บาท ของใหม่ราคาประหยัด แต่คุณภาพจัดเต็ม
มากันที่กล่องสุดท้ายอย่าง Chromecast with google TV ที่เพิ่งออกมาใหม่ได้ไม่นาน โดยตัวนี้นั้นมีจุดเด่นที่ขนาดค่อนข้างเล็กจึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้พื้นที่มากเท่ากับกล่องรุ่นอื่นๆ นอกจากนั้นแล้วระบบการแสดงผลยังจัดเต็มเพราะสามารถรับรับได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น Dolby Vision, Dolby Atmos และ HDR ส่วนราคานั้นก็ถูกมากเมื่อเทียบกับคุณภาพถือว่าเป็นอีกหนึ่งกล่องที่น่าสนใจมากๆ ในนาทีนี้
ข้อดี
- รองรับการแสดงผลได้ทุกรูปแบบ
- มี Chromecast Built-in
ข้อสังเกต
- ไม่มีตัวแทนจำหน่ายในไทยดังนั้นราคาจึงไม่แน่นอน และ เสียเมื่อไหร่ใจสั่นแน่นอน
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 4 กล่องที่ผมเอามาแนะนำกัน ก่อนจะไปถ้าชื่นชอบบทความรีวิวหรือวิเคราะห์ต่างๆ สามารถกดติดตามได้ผ่านทาง Fanpage Fudo Play ได้เลยครับ https://www.facebook.com/FudoPlay ขอบคุณครับ
แนะนำ 4 กล่องต่อทีวีคุณภาพเยี่ยม 4K ลื่นๆ ไม่มีสะดุด ตั้งแต่งบประหยัด ยัน ตัวเทพ!
สวัสดีครับโดยส่วนตัวนั้นตัวผมเป็นคนที่ชอบดูหนังหรือการ์ตูน โดยในปัจจุบันนั้นการรับชม Contents ก็สามารถหารับชมได้ง่ายผ่านตัว Smart TV หรือ Smartphone กันโดยใช้ Application ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Netflix หรือ Disney+ ในปัจจุบัน แต่สำหรับคนที่ไม่มี Smart TV หรือไม่สะดวกรับชมผ่าน Smartphone จอเล็กๆ แล้วละก็กล่อง Android ถือว่าสำคัญไม่ใช่น้อยเลยทีเดียว ดังนั้นวันนี้ผมจะมาแนะนำเกี่ยวกับตัวกล่อง Android หรือ iOS อย่าง Apple TV กันครับ โดยจะเริ่มจากตัวท๊อปของแรง ราคาแซงโค้ง จนไปถึง งบประหยัดราคาน่ารักแต่ยัดสเปคเพียบครับผม
*ราคาที่เป็น XXX นั้นหมายความว่า ณ ตอนนี้ยังไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการในประเทศไทยแต่สามารถหาซื้อได้ผ่าน Shopee และ Lazada ครับ
1. Apple TV ราคา 6,700 บาท ตัวจบสำหรับสาวก Apple
มากันที่ตัวแรกสุดอย่าง Apple TV โดยตอนนี้เพิ่งมีออกรุ่นใหม่มาอย่าง Apple TV 2021 โดยพัฒนาการออกแบบดีไซน์ในส่วนของ Remote Control ที่ใข้งานได้มากยิ่งขึ้นและยังสามารถรองรับการแสดงผลต่างๆ ได้ทุกอย่างไม่ว่าจะเป็น Dolby Vision, Dolby Atmos และ HDR นอกจากนั้นแล้วอีกสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจไม่น้อยเลยก็คือค่า Bitrate ของตัว Application Apple TV+ จะสูงกว่าการใช้งานผ่านตัว Application บนอุปกรณ์ตัวอื่นอีกด้วย จึงให้ภาพที่ชัดกว่าคมกว่าอุปกรณ์ตัวอื่นอย่างแน่นอนสำหรับการใช้งาน Application Apple TV+
ข้อดี
- รอบรับการใช้งานได้ครบไม่ว่าจะเป็น Dolby Vision, Dolby Atmos และ HDR
- มีระบบปรับจูนสีการแสดงผล อัตโนมัติ เพื่อให้ภาพที่สวยงามมากยิ่งขึ้น (จำเป็นต้องใช้โทรศัพท์ iPhone ช่วย)
- Bitrate ของภาพผ่าน Apple TV+ จะเยอะกว่าจึงให้ภาพที่คมชัดมากกว่า
ข้อสังเกต
- ไม่มี Chromecast Built-in
- ราคาสูงตามสไตล์ Apple
2. Nvidia Shield ราคา 6,xxx บาท และ 9,xxx บาท กล่องเทพแบบ All in one จะเล่นเกมจะดูหนังก็จัดมา
มาฝั่ง Android กันบ้างกับ Nvidia Shield โดยสามารถใช้งานได้ทั้งตัว Pro และ ตัวปกติ อย่างไรก็ตามขออนุญาติข้างฟีเจอร์ต่างๆ ที่เกี่ยวกับเกมไปก่อนเพราะรอบนี้เรามาเน้นในเรื่องภาพกันดีกว่า แน่นอนว่าราคาระดับนี้สามารถรอบรับการแสดงผลได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็Dolby Vision, Dolby Atmos และ HDR ก็มากันครบนอกจากนั้นยังสามารถรองรับได้ทั้ง Android และ iOS อีกด้วย แต่จุดเด่นจริงๆ ของ Nvidia Shield นั้นก็คือระบบ Ai Upscaling ที่จะช่วยให้เราสามารถรับชมภาพ 1080p ในความชัดระดับ 4K ได้นั้นเอง
ข้อดี
- รอบรับการใช้งานได้ครบไม่ว่าจะเป็น Dolby Vision, Dolby Atmos และ HDR
- ระบบ Ai Upscaling ทีเด็ดภาพชัดเกือบทุก Contents คมจบมีดต้องเรียกพี่
- มี Chromecast Built-in
ข้อสังเกต
- ไม่มีตัวแทนจำหน่ายอย่างเป็นทางการที่ไทย มีปัญหามา ลำบากหน่อย
- ราคาสูง
ก่อนจะไปข้อถัดไปถ้าชื่นชอบบทความรีวิวหรือวิเคราะห์ต่างๆ สามารถกดติดตามได้ผ่านทาง Fanpage Fudo Play ได้เลยครับ https://www.facebook.com/FudoPlay
3. Mi Box S ราคา 2,599 บาท สายประหยัดราคาถูก คุณภาพล้นจอ
มากันถึงกล่องยอดฮิตเพราะว่าสามารถใช้งานได้ครบเครื่องแถมราคาก็ถูกกว่าสองตัวข้างบนอีกด้วยกับตัว Mi Box S โดยตัวกล่องนี้สามารถรับชมภาพแบบ 4K ได้อย่างลื่นไหลไม่มีสะดุด พร้อมกับการอัพเดท Firmware มาอย่างต่อเนื่อง อีกสิ่งหนึ่งที่ทำให้ Mi Box S ได้รับความนิยมคงหนีไม่พ้นอิทธิพลของแบรนด์ Mi ที่ราคาถูก หาซื้อง่าย แต่มาพร้อมกับคุณภาพที่คุ้มกับเงินที่เสียไปจริงๆ
ข้อดี
- หาซื้อง่าย ใช้งานง่าย
- มี Chromecast Built-in
ข้อสังเกต
- ไม่รองรับการแสดงผลระดับสูงอย่าง Dolby Vision และ Dolby Atmos
4. Chromecast with Google tv ราคา 2,xxx บาท ของใหม่ราคาประหยัด แต่คุณภาพจัดเต็ม
มากันที่กล่องสุดท้ายอย่าง Chromecast with google TV ที่เพิ่งออกมาใหม่ได้ไม่นาน โดยตัวนี้นั้นมีจุดเด่นที่ขนาดค่อนข้างเล็กจึงไม่จำเป็นที่จะต้องใช้พื้นที่มากเท่ากับกล่องรุ่นอื่นๆ นอกจากนั้นแล้วระบบการแสดงผลยังจัดเต็มเพราะสามารถรับรับได้ทุกรูปแบบไม่ว่าจะเป็น Dolby Vision, Dolby Atmos และ HDR ส่วนราคานั้นก็ถูกมากเมื่อเทียบกับคุณภาพถือว่าเป็นอีกหนึ่งกล่องที่น่าสนใจมากๆ ในนาทีนี้
ข้อดี
- รองรับการแสดงผลได้ทุกรูปแบบ
- มี Chromecast Built-in
ข้อสังเกต
- ไม่มีตัวแทนจำหน่ายในไทยดังนั้นราคาจึงไม่แน่นอน และ เสียเมื่อไหร่ใจสั่นแน่นอน
เป็นอย่างไรกันบ้างสำหรับ 4 กล่องที่ผมเอามาแนะนำกัน ก่อนจะไปถ้าชื่นชอบบทความรีวิวหรือวิเคราะห์ต่างๆ สามารถกดติดตามได้ผ่านทาง Fanpage Fudo Play ได้เลยครับ https://www.facebook.com/FudoPlay ขอบคุณครับ