Nintendo Switch รุ่น OLED มาพร้อมกับการปรับปรุงใหม่ จาก Nintendo Switch เดิม ขนาดหน้าจอเพิ่มขึ้นจาก LCD ขนาด 6.2 นิ้ว เป็น OLED ขนาด 7 นิ้ว ความละเอียดยังคงเดิม 1280x720 พิกเซล เมื่อเชื่อมต่อเข้ากับทีวี รองรับความละเอียดที่ Full HD เท่ากับสวิตช์รุ่นก่อน
หน้าจอที่เพิ่มขึ้น จากการขยายพื้นที่หน้าจอทั้ง 4 ด้าน ทำให้ขอบจอดำบางลงแทน ตัวเครื่องยังคงมีสัดส่วนเท่าเดิม แต่น้ำหนักเพิ่มขึ้นที่ 421 กรัม เมื่อเทียบกับรุ่นก่อน 297 กรัม ในส่วนจอ OLED ในตอนนี้ยังไม่รองรับการแสดงผลระดับ 4K แต่สิ่งที่ได้มาคือ การแสดงผลที่สวยสดมากกว่าเดิม สามารถเล่นกลางแจ้งได้ หน้าจอสู้แสงได้ดีกว่า
รุ่น OLED ยังคงใช้ซีพียู Tegra X1 ของ Nvidia มาพร้อมกับที่เก็บข้อมูลภายใน 64GB เทียบกับ 32GB บนสวิตช์รุ่นก่อน สามารถขยายเพิ่มได้ผ่านการ์ด microSDHC หรือ microSDXC (สูงสุด 2TB) มีความจุแบตเตอรี่เท่ากันที่ 4,310mAh สามารถใช้งานได้นานถึง 9 ชั่วโมง ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ชาร์จ 100% ภายใน 3 ชั่วโมง
ระบบเสียง รุ่น OLED มีการปรับปรุงลำโพงสเตอริโอให้คุณภาพเสียงดีกว่าเดิม เสียงดังชัดขึ้น ช่องลำโพงวางตำแหน่งล่างของตัวเครื่อง และขาตั้งออกแบบให้มีขนาดใหญ่ขึ้น ปรับระดับได้หลายองศา ทำให้ตั้งวางได้มั่นคงยิ่งขึ้น
ในส่วนของด็อก รุ่น OLED ได้เพิ่มพอร์ตเสียบสาย LAN เข้ามา 1 ช่อง แทนที่พอร์ต USB เดิม ทำให้จำนวนพอร์ต USB จาก 3 ช่อง ลดเหลือ 2 ช่อง ทั้งนี้ สวิตช์ทั้ง 2 รุ่น สามารถใช้ด็อกของกันและกันได้
Nintendo Switch รุ่น OLED สีขาว (White set) วางจำหน่ายวันที่ 8 ตุลาคม 2564 นี้ ในราคา 350 ดอลลาร์ หรือราว 11,300 บาท และ Nintendo Switch ราคา 300 ดอลลาร์ หรือราว 9,690 บาท
อ้างอิง : nintendo , gadgets 360
.
.
เปรียบเทียบ Nintendo Switch (รุ่น OLED) กับ Nintendo Switch ปรับขนาดหน้าจอ ลำโพง และเพิ่มพอร์ต LAN เข้ามาให้อีกด้วย
อ้างอิง : nintendo , gadgets 360