จริงๆเรื่องออกไปดูจอข้างสนามเนี่ย
มันไม่จำเป็นเลยครับ
เพราะทีม VAR ก็เช็คซ้ำแล้ว และก็ใช้เวลาเช็คพอควร
ถ้าเห็นไม่ตรงกันกับกรรมการในสนามหรือไม่ชัวร์ว่าจะเป็นการฟาวล์ไหม
ก็จะให้กรรมการในสนาม ออกไปดู VAR เอง
แต่อันนี้กรรมการไม่ไปดู แสดงว่าในห้อง VAR ก็เห็นพ้องต้องกัน ว่าเป็นจุดโทษ
ส่วนการให้ลูกจุดโทษนั้น จุดโทษงานหรือเปล่า
ผมว่าไม่หรอก มันแค่เป็นความโชคร้ายเดนมาร์ก และตัดสินใจพลาดของเมห์เล่ก็เท่านั้นแหละ
มันมีการกระทบกระทั่งกันจริงๆ
จะเห็นว่าเข่าของทางเมห์เล่ไปโดนขาของสเตอร์ริ่งจริงๆ
เพียงแค่มันไม่รุนแรง ถึงขนาดจะทำให้สเตอร์ริ่งล้มกลิ้งได้หรอก
แต่สเตอร์ริ่งก็เตรียมตัว เตรียมพร้อมจะล้มได้ตลอดเวลาอยู่แล้วจังหวะแบบนี้ ขอแค่มีอะไรมาสะกิดเถอะ
เพราะมันเข้าพื้นที่สุดท้ายแล้ว
จังหวะนี้เลยกลายเป็นการฟาวล์ เพราะขัดขวางจังหวะการเล่นบอล ที่กำลังจะนำไปสู่การลุ้นประตู
ไม่ใช่การฟาวล์เพราะเข้าสะกัดรุนแรง
และจุดสำคัญที่ทำให้มันกลายเป็นจุดโทษก็คือ ตำแหน่งที่เมห์เล่สะกัด
คือมันมาจากด้านหลัง เพราะเป็นจังหวะต่อเนื่องจากการถูกสเตอร์ริ่งสลัดหนีมา
การเข้าสกัดจากด้านหลัง ไม่ว่าจะหนักหรือเบา แต่ถ้าเข้าไปแล้วไม่เจอบอล นั่นก็คือฟาวล์ 100% อยู่แล้ว
ยกเว้นจะไม่โดนทั้งบอลทั้งคน การฟาวล์ถึงจะไม่เกิดขึ้น
จังหวะนี้ยกผลประโยชน์ให้ฝั่งใดฝั่งนึง ฝั่งตรงข้ามฝั่งนั้นจะเป็นฝั่งที่โชคร้ายทันที
คิดดูว่าถ้าเช็ค VAR แล้ว ไม่ให้เป็นจุดโทษ
ในขณะที่สเตอร์ริ่งถูกขัดจังหวะการเล่น
อังกฤษที่เป็นฝ่ายรุกจะเสียประโยชน์ขนาดไหน
เพราะถ้าไม่ถูกขัดจังหวะ สเตอร์ริ่งมีโอกาสผ่านบอลเข้าไปลุ้นประตูแน่นอน
จุดโทษงาน?? กรรมการไม่ออกไปดู VAR
มันไม่จำเป็นเลยครับ
เพราะทีม VAR ก็เช็คซ้ำแล้ว และก็ใช้เวลาเช็คพอควร
ถ้าเห็นไม่ตรงกันกับกรรมการในสนามหรือไม่ชัวร์ว่าจะเป็นการฟาวล์ไหม
ก็จะให้กรรมการในสนาม ออกไปดู VAR เอง
แต่อันนี้กรรมการไม่ไปดู แสดงว่าในห้อง VAR ก็เห็นพ้องต้องกัน ว่าเป็นจุดโทษ
ส่วนการให้ลูกจุดโทษนั้น จุดโทษงานหรือเปล่า
ผมว่าไม่หรอก มันแค่เป็นความโชคร้ายเดนมาร์ก และตัดสินใจพลาดของเมห์เล่ก็เท่านั้นแหละ
มันมีการกระทบกระทั่งกันจริงๆ
จะเห็นว่าเข่าของทางเมห์เล่ไปโดนขาของสเตอร์ริ่งจริงๆ
เพียงแค่มันไม่รุนแรง ถึงขนาดจะทำให้สเตอร์ริ่งล้มกลิ้งได้หรอก
แต่สเตอร์ริ่งก็เตรียมตัว เตรียมพร้อมจะล้มได้ตลอดเวลาอยู่แล้วจังหวะแบบนี้ ขอแค่มีอะไรมาสะกิดเถอะ
เพราะมันเข้าพื้นที่สุดท้ายแล้ว
จังหวะนี้เลยกลายเป็นการฟาวล์ เพราะขัดขวางจังหวะการเล่นบอล ที่กำลังจะนำไปสู่การลุ้นประตู
ไม่ใช่การฟาวล์เพราะเข้าสะกัดรุนแรง
และจุดสำคัญที่ทำให้มันกลายเป็นจุดโทษก็คือ ตำแหน่งที่เมห์เล่สะกัด
คือมันมาจากด้านหลัง เพราะเป็นจังหวะต่อเนื่องจากการถูกสเตอร์ริ่งสลัดหนีมา
การเข้าสกัดจากด้านหลัง ไม่ว่าจะหนักหรือเบา แต่ถ้าเข้าไปแล้วไม่เจอบอล นั่นก็คือฟาวล์ 100% อยู่แล้ว
ยกเว้นจะไม่โดนทั้งบอลทั้งคน การฟาวล์ถึงจะไม่เกิดขึ้น
จังหวะนี้ยกผลประโยชน์ให้ฝั่งใดฝั่งนึง ฝั่งตรงข้ามฝั่งนั้นจะเป็นฝั่งที่โชคร้ายทันที
คิดดูว่าถ้าเช็ค VAR แล้ว ไม่ให้เป็นจุดโทษ
ในขณะที่สเตอร์ริ่งถูกขัดจังหวะการเล่น
อังกฤษที่เป็นฝ่ายรุกจะเสียประโยชน์ขนาดไหน
เพราะถ้าไม่ถูกขัดจังหวะ สเตอร์ริ่งมีโอกาสผ่านบอลเข้าไปลุ้นประตูแน่นอน