พ่อมดน้อยแสนดี กับแดดดี้ฆาตกร ตอนที่1
พ่อมดน้อยแสนดี กับแดดดี้ฆาตกร
ณ ดินแดนเวทมนต์ ที่ที่เป็นที่อยู่อาของเหล่าผู้วิเศษ พวกเขาคือพ่อมดแม่มด เหล่าผู้วิเศษทั้งหลายมีลักษณะเหมือนๆกับมนุษย์ เพียงแต่พวกเขามีเวทย์มนต์และพวกเขาก็ดำเนินชีวิตด้วยการใช้เวทย์มนต์ แน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องมีทั้งคนดีคนชั่ว มีทั้งคนอ่อนแอและคนที่พลังแก่กล้า โลกของพวกเขานั้น ดูเผินๆก็เป็นเหมือนโลกในยุคโบราณของมนุษย์ มีป่า มีเมือง มีปราสาท และร้านค้าแต่ทว่าทุกๆอย่างที่นี่ดูเลวร้าย เพราะสัตว์ที่โลกเวทมนต์และปีศาจในโลกนี้นั้นดูน่ากลัวกว่าโลกมนุษย์มาก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเข้าโรงเรียนสอนเวทมนต์เพื่อพัฒนาตัวเองให้สามารถต่อสู้กับสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายรวมทั้งหลีกเลี่ยงการถูกทำร้ายจากเหล่าผู้วิเศษด้วยกันเอง
กาลครั้งหนึ่งในอาณาจักร “อันทรนินทร์” ที่ปกครองด้วยพ่อมดตระกูลอันทรนินทร์ พวกเขาปกครองอาณาจักโดยสืบเชื้อสายมาจากพ่อมดตระกูล อันทรนินทร์ เมื่อราชาพ่อมดอันทรนินทร์ได้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ เจ้าชายพ่อมด “อัง อันทรนินทร์” ก็กลายเป็นคนสืบทอดบัลลังค์แทนซึ่งทำให้อินทร พ่อมดอำมาต ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
อินทรทำการก่อกบฏ เขาได้รวบรวมพ่อมดแม่มดที่ภัคดีกับเขาและทำการกำจัดผู้วิเศษตระกูลของอินทนินทร์ อินทรต้องเอาเหล่าผู้วิเศษตระกูลของอินทนินทร์มาปลิดชีพด้วยมนต์ศิลาแลงดำ มันคือเวทย์มนต์การปลิดชีพของพ่อมดแม่มดที่เป็นกาลกินีต่ออาณาจักร ที่มีเลือเนื้อเชื้อไขของเชื้อพระวงษ์ เหล่าผู้วิเศษที่ที่ถูกกำจัดจะถูกกลืนกินด้วยมนต์ศิลาและสายเลือดของพวกเขาก็จะไม่สามารถยึดคืนบัลลังค์ได้อีกต่อไป แต่มีข้อแม้ว่าพวกเขาจะต้องตายต่อหน้าศิลาด้วยมนต์นี้เท่าและทุกคนที่มีสายเลือดของอิทนินทร์จะต้องถูกฆ่าให้หมดในสามรุ่นนับจากรุ่นปัจจุบัน นั่นคือ รุ่นของเจ้าชายอัง รุ่นลูกของเขา และรุ่นหลานของเขา
แน่นอนว่ายังมีเหล่าผู้วิเศษที่สามารถหลบหนีไปได้ หนึ่งในนั้นก็คือ อันวี
อันวีเป็นพ่อมดอายุเพียง 14 ปี พ่อของเขาชื่อว่าอันวาซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าหญิงอิงอิง น้องสาวของเจ้าชายอัง แต่เจ้าหญิงอิงอิงได้ถูกปลดออกจากราชวงษ์เพราะเขาตกหลุมรักกับ “คองคอง” พ่อมดสามัญชน และมีลูกที่ชื่อว่า อันวา ซึ่งเป็นพ่อของอันวี นั่นหมายความว่าอันวีเป็นหลานของเจ้าชายอังและก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของอินทร
เขาอยู่กับพ่อและย่า(เจ้าหญิงอิงอิง)ของเขาระหว่างที่หลบหนีส่วนปู่นั้นได้ตายจากเขาไปนานแล้ว
การหลบหนีเป็นไปอย่างยากลำบาก พวกเขามีเพียงไม้กวาดวิเศษสองด้ามที่ใช้เป็นพาหนะในการหลบหนี
การหลบหนีทำให้อิงอิงถูกจับกุมไป เธอยอมเสียสละด้วยการต่อสู้เพื่อถ่วงเวลาไว้ เพื่อให้อันวาและอันวีหลบหนีไปได้ แต่แล้วพวกเขาก็ต้องยอมจำนนเมื่อถูกไล่ล่ามาถึงหุบเขาแห่งเปลวธาร มันเป็นหุบเขาที่เต็มไปด้วยลาวาต้องมนต์ที่มีความร้อนสูง แน่นอนว่าไม่มีผู้วิเศษตนใดที่จะสามารถเดินทางข้ามผ่านลำธารที่ทอดยาวนี้ไปได้
ทั้งสองหยุดลงจอดตรงโขดหินเพื่อซ่อนตัวและพวกเขาก็รีบร่ายมนต์กำบัง แต่อันวาก็รู้ดีว่าพวกเขาคงซ่อนตัวได้ไม่นาน
อันวาได้หยิบขวดน้ำยาโคลนนิ่งที่ตนได้เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ออกมาให้ลูกชายของเขาดื่ม
เมื่ออันวีดื่มเข้าไป เขาก็พลันแยกร่าง เขามีร่างกายอีกร่างหนึ่งที่เรียกว่าร่างโคลนนิ่ง
ร่างโคลนนิ่งของเขามีลักษณะเหมือนเขาทุกประการเพียงแต่ว่ามันไม่มีชีวิต ไม่สามารถขยับเขยื้อนและไม่สามารถพูดคุยได้ แถมยังไม่มีเสื้อผ้าใส่อีกด้วย
อันวาได้จัดแจงวางแผนเพื่อทำการหลบหนี
เขาให้อันวีถอดเสื้อผ้าออกมาใส่ให้กับร่างโคลนนิ่ง ส่วนตัวของอันวีนั้นก็ให้สวมแค่ชุดชั้นในและผ้าคลุม อันวาบอกว่าเขาจะหอบร่างโคลนนิ่งนี้ขี่ไม้กวาดเดียวไปกับเขาเพื่อทำการหลอกล่อไปทางเหวแห่งความมืด เมื่อพวกพ่อมดทหารตามเขาไปหมดแล้ว ให้อันวีรีบขี่ไม้กวาดไปอีกทาง ซึ่งเป็นทางที่นำไปสู่หมู่บ้านมังกร และที่หมู่บ้านนั้นจะมีท่ามังกรข้ามฟาก ให้อันวีนำทองคำอัฐที่เหลือโดยสารมังกรเฟอรรี่ข้ามแนวเขาเปลวธารไปและไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกฟาก ให้อันวีหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้และใช้ชีวิตต่อไป
แรกทีอันวีปฏิเสธไปเพราะเขาไม่อยากทิ้งพ่อของเขา แตทว่าในที่สุดเขาก็ต้องยอมทำตาม
อันวามอบสร้อยพร้อมจี้ล้อกเก็ตให้อันวีเส้นหนึ่งและละไปจากที่ซ่อนเพื่อล่อเหล่าทหารพ่อมดไปตามแผนขณะที่อันวีได้แต่มองตามน้ำตาคลอ
เมื่อถึงคราวที่เขาต้องออกจากที่ซ่อน พ่อมดน้อยขี่ไม้กวาดออกไปทั้งน้ำตา และความรู้สึกที่แสนจะเจ็บปวด เขาอยากจะกลับไปหาพ่อและย่าของเขา แต่เมื่อนึกถึงคำขอของพ่อว่าให้มีชีวิตอยู่ต่อไป เขาก็ต้องเดินหน้า
เมื่อขี่ไม้กวาดออกมาได้สักพัก เขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างตามเขามา แล้วอยู่ๆก็มีพลังซัดผ่านลำตัวของเขาไป
อันวีกรีดร้องด้วยความตกใจพร้อมกับเสียการทรงตัว
เมื่อไม่กวาดเอนเอียง เขาก็พยามสุดชีวิตเพื่อควบคุมการทรงตัวอีกครั้ง
พ่อมดน้อยพลันมองกลับไปด้านหลัง เขาเห็นพ่อมดทหารตนหนึ้งขี่ไม้กวาดตามเขามา
อันวีกรีดร้องอีกครั้งด้วยความหวาดกลัว
ทันใดนั้นพ่อมดทหารตนนั้นก็ซัดพลังเวทย์ใส่อันวีอีกครั้ง
อันวีหักหลบได้ทันและรีบขี่ไม้กวาดผ่านก้อนเมฆอันหนาทึบเพื่อที่จะลงมาสู่หุบเขาด้านล่าง
พ่อมดทหารไล่ล่าเขาอย่างไม่หยุดหย่อนขณะที่อันวีเคลื่อนที่หนีด้วยความหวาดกลัว
ในที่สุดอันวีก็โดนพลังเวทย์ของทหารนายนี้ซัดเข้าที่ไม้กวาด
เขาเสียการควบคุมไม้กวาดในที่สุด
อันวีร่วงลงสู่พื้นเบื้องล่าง
ทันทีที่ร่วงลงมาเขาก็รีบสังเกตุดูไม้กวาด แน่นอนว่ามันพังไปแล้ว และตอนนี้เขาก็บินหนีไม่ได้แล้ว
อันวีรีบมองซ้ายมองขวาเพื่อหาที่ซ่อน เขารีบวิ่งหนีอย่างสุดชีวิตไปที่หลังต้นไม้ใหญ่
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของทหารตนนั้นร่อนลงบนพื้นพร้อมกับน้ำเสียงที่เอ่ยเรียกเขาให้ออกมาจากที่ซ่อน และนายทหารตนนั้นยังบอกให้อันวียอมจำนนเพราะยังไงอันวีก็หนีไม่พ้น
อันวีพยายามกลั้นลมหายใจและพยายามทำตัวให้เงียบที่สุด เขารู้ตัวว่าเขาคงไม่มีทางรอดแล้ว เขาสู้พ่อมดทหารที่มีพลังแก่กล้าไม่ได้และก็ไม่มีทางหลบหนีแล้ว
ทันใดนั้นเขาก้มองไปเห็นพืชไม้เลื้อยต้นหนึ่ง เขาหรี่ตามองด้วยความพินิจพิเคราะห์ และเขาก้นึกได้ว่าพ่อของเขาเคยสอนไว้ ว่าต้นไม้ลักษณะนี้ไม่ใช่พืช
“ใช่แล้ว มันคือสัตว์มหัศจรรย์”
มันคือลิฟวิ่งพีชเลียน่า มันเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างเหมือนพืชและรักความสงบ สมารถสัมผัสได้ โอบกอดได้ เดินเหยีบได้ แต่ไม่สามารถทำร้ายด้วยอาวุธหรือพลังเวทย์ เพราะมันจะไม่จู่โจมสิ่งใดก่อน นอกจากว่ามันจะโดนจู่โจม และถ้าหากมันโดนจู่โจม มันก็จะตอบโต้ด้วยการตามทำร้ายเจ้าของพลังที่จู่โจมมันทันที
และแล้ว อันวีก็นึกแผนเอาตัวรอดขึ้นมาได้
เขาออกจากที่ซ่อนหลังต้นไม้ แล้วออกมาเผชิญหน้ากับพ่อมดทหาร
ทันทีที่พ่อมดทหารเห็นอันวี เขาก็หัวเราเยาะชอบใจ
“ข้าจะสู้กับเจ้า” อันวีป่าวประกาศพร้อมกับซัดพลังเวทย์ของตนใส่พ่อมดทหารตนนั้น
พ่อมดทหารตั้งรับและปัดพลังเวทย์ของอันวีออกไปได้อย่างง่ายได้
พ่อมดทหารหัวเราะเยาะด้วยความชอบใจ เขารู้ดีว่าอันวีสู้เขาไม่ได้
อันวีร่ายคาถาป้องกันทันที
“ฮ่าๆๆ คาถาป้องกันจะปกป้องเจ้าได้จากคาถาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น” พ่อมดยิ้มเยาะ
“แน่ จริงก็ซัดพลังของเจ้ามาสิ” อันวีท้าทาย แต่ในใจลึกๆก็หวาดหวั่น ไม่รู้ว่าแผนของตนจะสำเร็จหรือไม่
“คิดว่าจะหลบทันหรอ เด็กน้อย” พ่อมดทหารพูดขึ้นและปล่อยพลังใส่อันวีทันที
อันวีอ้าปากค้างด้วยความตกใจและพลังของพ่อมดทหารก้พุ่งมาที่เขาอย่างรวดเร็วแบบรัวๆ
พลังระลอกแรกทำลายคาถาป้องกันของอันวีไปอย่างสิ้นซาก และพลังระลอกถัดไปก็พุ่งเข้าใส่อันวีอย่างจัง จนตัวเขากระเด็นไปไปด้านหลังและกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ที่มีลิฟวิ่งพีชเลียน่านอนแน่นิ่งอยู่บริเวณนั้น
ทันทีที่ร่างอันวีกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ ร่างของเขาก็กระแทกลีฟวิ่งพีชเลียน่าไปด้วย
พลังเวทย์ของพ่อมดทหารระลอกใหม่เล่นงาน อันวีอีกรอบและตอนนี้เขาก็หมดหนทางสู้แล้ว
อันวีพยายาม ประคองตัวเองให้ลุกขึ้นแต่เขาก็พบว่าร่างกายของเขาไม่มีแรงที่จะขยับแล้ว เขามองไปที่พ่อมดทหารที่เดินมาหาเขาพร้อมกับรอยยิ้มที่ร้ายกาจ และหวังจะคว้าเอาร่างของเขาไป
อันวีคงต้องยอมจำนน เขาต้องกลับไปตาย...
ทันใดนั้น
พรึ่บ
ลิฟวิ่งพีชเลียน่า กระโจนเข้าจู่โจมพ่อมดทหารทันที
แผนของอันวีสำเร็จ รัศมีของพลังเวทย์ที่พ่อมดทหารผู้ชั่วร้ายปล่อยออกมา พุ่งไปโดนลิฟวิ่งพีชเลียน่า และตอนนี้มันก็ต้องการที่จะจู่โจมเจ้าของพลังเวทย์นั้น
พ่อมดทหารหนุ่มกรีดร้องด้วยความตกใจ และพยายามโต้ตอบสัตว์ประหลาดนั้น
อันวีจ้องมองภาพการต่อสู้ที่อยู่เบื้องหน้า ก่อนที่เขาจะสลบไป
แผนของอันวีที่จะทำให้รัศมีพลังเวทย์ของพ่อมดทหารพุ่งไปโดนลีฟวิ่งพีชเลียน่าสำเร็จ แต่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้ตัวเองสลบ เพราะเขาต้องการที่จะหนี แต่ตอนนี้เขาก็สลบไปแล้ว
***อ่านเรื่องสั้นและนิยายเรื่องอื่นๆจากนักเขียน***คลิ๊ก
https://my.dek-d.com/weewie_v/writer/
เรื่องสั้นสายวาย "พ่อมดน้อยแสนดี กับแดดดี้ฆาตกร"
พ่อมดน้อยแสนดี กับแดดดี้ฆาตกร
ณ ดินแดนเวทมนต์ ที่ที่เป็นที่อยู่อาของเหล่าผู้วิเศษ พวกเขาคือพ่อมดแม่มด เหล่าผู้วิเศษทั้งหลายมีลักษณะเหมือนๆกับมนุษย์ เพียงแต่พวกเขามีเวทย์มนต์และพวกเขาก็ดำเนินชีวิตด้วยการใช้เวทย์มนต์ แน่นอนว่าพวกเขาก็ต้องมีทั้งคนดีคนชั่ว มีทั้งคนอ่อนแอและคนที่พลังแก่กล้า โลกของพวกเขานั้น ดูเผินๆก็เป็นเหมือนโลกในยุคโบราณของมนุษย์ มีป่า มีเมือง มีปราสาท และร้านค้าแต่ทว่าทุกๆอย่างที่นี่ดูเลวร้าย เพราะสัตว์ที่โลกเวทมนต์และปีศาจในโลกนี้นั้นดูน่ากลัวกว่าโลกมนุษย์มาก ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเข้าโรงเรียนสอนเวทมนต์เพื่อพัฒนาตัวเองให้สามารถต่อสู้กับสิ่งชั่วร้ายทั้งหลายรวมทั้งหลีกเลี่ยงการถูกทำร้ายจากเหล่าผู้วิเศษด้วยกันเอง
กาลครั้งหนึ่งในอาณาจักร “อันทรนินทร์” ที่ปกครองด้วยพ่อมดตระกูลอันทรนินทร์ พวกเขาปกครองอาณาจักโดยสืบเชื้อสายมาจากพ่อมดตระกูล อันทรนินทร์ เมื่อราชาพ่อมดอันทรนินทร์ได้เสียชีวิตโดยไม่ทราบสาเหตุ เจ้าชายพ่อมด “อัง อันทรนินทร์” ก็กลายเป็นคนสืบทอดบัลลังค์แทนซึ่งทำให้อินทร พ่อมดอำมาต ไม่พอใจเป็นอย่างมาก
อินทรทำการก่อกบฏ เขาได้รวบรวมพ่อมดแม่มดที่ภัคดีกับเขาและทำการกำจัดผู้วิเศษตระกูลของอินทนินทร์ อินทรต้องเอาเหล่าผู้วิเศษตระกูลของอินทนินทร์มาปลิดชีพด้วยมนต์ศิลาแลงดำ มันคือเวทย์มนต์การปลิดชีพของพ่อมดแม่มดที่เป็นกาลกินีต่ออาณาจักร ที่มีเลือเนื้อเชื้อไขของเชื้อพระวงษ์ เหล่าผู้วิเศษที่ที่ถูกกำจัดจะถูกกลืนกินด้วยมนต์ศิลาและสายเลือดของพวกเขาก็จะไม่สามารถยึดคืนบัลลังค์ได้อีกต่อไป แต่มีข้อแม้ว่าพวกเขาจะต้องตายต่อหน้าศิลาด้วยมนต์นี้เท่าและทุกคนที่มีสายเลือดของอิทนินทร์จะต้องถูกฆ่าให้หมดในสามรุ่นนับจากรุ่นปัจจุบัน นั่นคือ รุ่นของเจ้าชายอัง รุ่นลูกของเขา และรุ่นหลานของเขา
แน่นอนว่ายังมีเหล่าผู้วิเศษที่สามารถหลบหนีไปได้ หนึ่งในนั้นก็คือ อันวี
อันวีเป็นพ่อมดอายุเพียง 14 ปี พ่อของเขาชื่อว่าอันวาซึ่งเป็นลูกชายของเจ้าหญิงอิงอิง น้องสาวของเจ้าชายอัง แต่เจ้าหญิงอิงอิงได้ถูกปลดออกจากราชวงษ์เพราะเขาตกหลุมรักกับ “คองคอง” พ่อมดสามัญชน และมีลูกที่ชื่อว่า อันวา ซึ่งเป็นพ่อของอันวี นั่นหมายความว่าอันวีเป็นหลานของเจ้าชายอังและก็เป็นหนึ่งในเป้าหมายของอินทร
เขาอยู่กับพ่อและย่า(เจ้าหญิงอิงอิง)ของเขาระหว่างที่หลบหนีส่วนปู่นั้นได้ตายจากเขาไปนานแล้ว
การหลบหนีเป็นไปอย่างยากลำบาก พวกเขามีเพียงไม้กวาดวิเศษสองด้ามที่ใช้เป็นพาหนะในการหลบหนี
การหลบหนีทำให้อิงอิงถูกจับกุมไป เธอยอมเสียสละด้วยการต่อสู้เพื่อถ่วงเวลาไว้ เพื่อให้อันวาและอันวีหลบหนีไปได้ แต่แล้วพวกเขาก็ต้องยอมจำนนเมื่อถูกไล่ล่ามาถึงหุบเขาแห่งเปลวธาร มันเป็นหุบเขาที่เต็มไปด้วยลาวาต้องมนต์ที่มีความร้อนสูง แน่นอนว่าไม่มีผู้วิเศษตนใดที่จะสามารถเดินทางข้ามผ่านลำธารที่ทอดยาวนี้ไปได้
ทั้งสองหยุดลงจอดตรงโขดหินเพื่อซ่อนตัวและพวกเขาก็รีบร่ายมนต์กำบัง แต่อันวาก็รู้ดีว่าพวกเขาคงซ่อนตัวได้ไม่นาน
อันวาได้หยิบขวดน้ำยาโคลนนิ่งที่ตนได้เตรียมไว้ก่อนหน้านี้ออกมาให้ลูกชายของเขาดื่ม
เมื่ออันวีดื่มเข้าไป เขาก็พลันแยกร่าง เขามีร่างกายอีกร่างหนึ่งที่เรียกว่าร่างโคลนนิ่ง
ร่างโคลนนิ่งของเขามีลักษณะเหมือนเขาทุกประการเพียงแต่ว่ามันไม่มีชีวิต ไม่สามารถขยับเขยื้อนและไม่สามารถพูดคุยได้ แถมยังไม่มีเสื้อผ้าใส่อีกด้วย
อันวาได้จัดแจงวางแผนเพื่อทำการหลบหนี
เขาให้อันวีถอดเสื้อผ้าออกมาใส่ให้กับร่างโคลนนิ่ง ส่วนตัวของอันวีนั้นก็ให้สวมแค่ชุดชั้นในและผ้าคลุม อันวาบอกว่าเขาจะหอบร่างโคลนนิ่งนี้ขี่ไม้กวาดเดียวไปกับเขาเพื่อทำการหลอกล่อไปทางเหวแห่งความมืด เมื่อพวกพ่อมดทหารตามเขาไปหมดแล้ว ให้อันวีรีบขี่ไม้กวาดไปอีกทาง ซึ่งเป็นทางที่นำไปสู่หมู่บ้านมังกร และที่หมู่บ้านนั้นจะมีท่ามังกรข้ามฟาก ให้อันวีนำทองคำอัฐที่เหลือโดยสารมังกรเฟอรรี่ข้ามแนวเขาเปลวธารไปและไปเริ่มต้นชีวิตใหม่อีกฟาก ให้อันวีหนีไปให้ไกลที่สุดเท่าที่จะทำได้และใช้ชีวิตต่อไป
แรกทีอันวีปฏิเสธไปเพราะเขาไม่อยากทิ้งพ่อของเขา แตทว่าในที่สุดเขาก็ต้องยอมทำตาม
อันวามอบสร้อยพร้อมจี้ล้อกเก็ตให้อันวีเส้นหนึ่งและละไปจากที่ซ่อนเพื่อล่อเหล่าทหารพ่อมดไปตามแผนขณะที่อันวีได้แต่มองตามน้ำตาคลอ
เมื่อถึงคราวที่เขาต้องออกจากที่ซ่อน พ่อมดน้อยขี่ไม้กวาดออกไปทั้งน้ำตา และความรู้สึกที่แสนจะเจ็บปวด เขาอยากจะกลับไปหาพ่อและย่าของเขา แต่เมื่อนึกถึงคำขอของพ่อว่าให้มีชีวิตอยู่ต่อไป เขาก็ต้องเดินหน้า
เมื่อขี่ไม้กวาดออกมาได้สักพัก เขาก็รู้สึกได้ว่ามีบางอย่างตามเขามา แล้วอยู่ๆก็มีพลังซัดผ่านลำตัวของเขาไป
อันวีกรีดร้องด้วยความตกใจพร้อมกับเสียการทรงตัว
เมื่อไม่กวาดเอนเอียง เขาก็พยามสุดชีวิตเพื่อควบคุมการทรงตัวอีกครั้ง
พ่อมดน้อยพลันมองกลับไปด้านหลัง เขาเห็นพ่อมดทหารตนหนึ้งขี่ไม้กวาดตามเขามา
อันวีกรีดร้องอีกครั้งด้วยความหวาดกลัว
ทันใดนั้นพ่อมดทหารตนนั้นก็ซัดพลังเวทย์ใส่อันวีอีกครั้ง
อันวีหักหลบได้ทันและรีบขี่ไม้กวาดผ่านก้อนเมฆอันหนาทึบเพื่อที่จะลงมาสู่หุบเขาด้านล่าง
พ่อมดทหารไล่ล่าเขาอย่างไม่หยุดหย่อนขณะที่อันวีเคลื่อนที่หนีด้วยความหวาดกลัว
ในที่สุดอันวีก็โดนพลังเวทย์ของทหารนายนี้ซัดเข้าที่ไม้กวาด
เขาเสียการควบคุมไม้กวาดในที่สุด
อันวีร่วงลงสู่พื้นเบื้องล่าง
ทันทีที่ร่วงลงมาเขาก็รีบสังเกตุดูไม้กวาด แน่นอนว่ามันพังไปแล้ว และตอนนี้เขาก็บินหนีไม่ได้แล้ว
อันวีรีบมองซ้ายมองขวาเพื่อหาที่ซ่อน เขารีบวิ่งหนีอย่างสุดชีวิตไปที่หลังต้นไม้ใหญ่
ทันใดนั้นเขาก็ได้ยินเสียงของทหารตนนั้นร่อนลงบนพื้นพร้อมกับน้ำเสียงที่เอ่ยเรียกเขาให้ออกมาจากที่ซ่อน และนายทหารตนนั้นยังบอกให้อันวียอมจำนนเพราะยังไงอันวีก็หนีไม่พ้น
อันวีพยายามกลั้นลมหายใจและพยายามทำตัวให้เงียบที่สุด เขารู้ตัวว่าเขาคงไม่มีทางรอดแล้ว เขาสู้พ่อมดทหารที่มีพลังแก่กล้าไม่ได้และก็ไม่มีทางหลบหนีแล้ว
ทันใดนั้นเขาก้มองไปเห็นพืชไม้เลื้อยต้นหนึ่ง เขาหรี่ตามองด้วยความพินิจพิเคราะห์ และเขาก้นึกได้ว่าพ่อของเขาเคยสอนไว้ ว่าต้นไม้ลักษณะนี้ไม่ใช่พืช
“ใช่แล้ว มันคือสัตว์มหัศจรรย์”
มันคือลิฟวิ่งพีชเลียน่า มันเป็นสัตว์ที่มีรูปร่างเหมือนพืชและรักความสงบ สมารถสัมผัสได้ โอบกอดได้ เดินเหยีบได้ แต่ไม่สามารถทำร้ายด้วยอาวุธหรือพลังเวทย์ เพราะมันจะไม่จู่โจมสิ่งใดก่อน นอกจากว่ามันจะโดนจู่โจม และถ้าหากมันโดนจู่โจม มันก็จะตอบโต้ด้วยการตามทำร้ายเจ้าของพลังที่จู่โจมมันทันที
และแล้ว อันวีก็นึกแผนเอาตัวรอดขึ้นมาได้
เขาออกจากที่ซ่อนหลังต้นไม้ แล้วออกมาเผชิญหน้ากับพ่อมดทหาร
ทันทีที่พ่อมดทหารเห็นอันวี เขาก็หัวเราเยาะชอบใจ
“ข้าจะสู้กับเจ้า” อันวีป่าวประกาศพร้อมกับซัดพลังเวทย์ของตนใส่พ่อมดทหารตนนั้น
พ่อมดทหารตั้งรับและปัดพลังเวทย์ของอันวีออกไปได้อย่างง่ายได้
พ่อมดทหารหัวเราะเยาะด้วยความชอบใจ เขารู้ดีว่าอันวีสู้เขาไม่ได้
อันวีร่ายคาถาป้องกันทันที
“ฮ่าๆๆ คาถาป้องกันจะปกป้องเจ้าได้จากคาถาเพียงครั้งเดียวเท่านั้น” พ่อมดยิ้มเยาะ
“แน่ จริงก็ซัดพลังของเจ้ามาสิ” อันวีท้าทาย แต่ในใจลึกๆก็หวาดหวั่น ไม่รู้ว่าแผนของตนจะสำเร็จหรือไม่
“คิดว่าจะหลบทันหรอ เด็กน้อย” พ่อมดทหารพูดขึ้นและปล่อยพลังใส่อันวีทันที
อันวีอ้าปากค้างด้วยความตกใจและพลังของพ่อมดทหารก้พุ่งมาที่เขาอย่างรวดเร็วแบบรัวๆ
พลังระลอกแรกทำลายคาถาป้องกันของอันวีไปอย่างสิ้นซาก และพลังระลอกถัดไปก็พุ่งเข้าใส่อันวีอย่างจัง จนตัวเขากระเด็นไปไปด้านหลังและกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ที่มีลิฟวิ่งพีชเลียน่านอนแน่นิ่งอยู่บริเวณนั้น
ทันทีที่ร่างอันวีกระแทกเข้ากับต้นไม้ใหญ่ ร่างของเขาก็กระแทกลีฟวิ่งพีชเลียน่าไปด้วย
พลังเวทย์ของพ่อมดทหารระลอกใหม่เล่นงาน อันวีอีกรอบและตอนนี้เขาก็หมดหนทางสู้แล้ว
อันวีพยายาม ประคองตัวเองให้ลุกขึ้นแต่เขาก็พบว่าร่างกายของเขาไม่มีแรงที่จะขยับแล้ว เขามองไปที่พ่อมดทหารที่เดินมาหาเขาพร้อมกับรอยยิ้มที่ร้ายกาจ และหวังจะคว้าเอาร่างของเขาไป
อันวีคงต้องยอมจำนน เขาต้องกลับไปตาย...
ทันใดนั้น
พรึ่บ
ลิฟวิ่งพีชเลียน่า กระโจนเข้าจู่โจมพ่อมดทหารทันที
แผนของอันวีสำเร็จ รัศมีของพลังเวทย์ที่พ่อมดทหารผู้ชั่วร้ายปล่อยออกมา พุ่งไปโดนลิฟวิ่งพีชเลียน่า และตอนนี้มันก็ต้องการที่จะจู่โจมเจ้าของพลังเวทย์นั้น
พ่อมดทหารหนุ่มกรีดร้องด้วยความตกใจ และพยายามโต้ตอบสัตว์ประหลาดนั้น
อันวีจ้องมองภาพการต่อสู้ที่อยู่เบื้องหน้า ก่อนที่เขาจะสลบไป
แผนของอันวีที่จะทำให้รัศมีพลังเวทย์ของพ่อมดทหารพุ่งไปโดนลีฟวิ่งพีชเลียน่าสำเร็จ แต่เขาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะทำให้ตัวเองสลบ เพราะเขาต้องการที่จะหนี แต่ตอนนี้เขาก็สลบไปแล้ว
***อ่านเรื่องสั้นและนิยายเรื่องอื่นๆจากนักเขียน***คลิ๊ก
https://my.dek-d.com/weewie_v/writer/