สวัสดีค่า วันนี้เราขอมารีวิวคอร์สเรียนภาษาออนไลน์รูปแบบใหม่ McBrown’s IOC หรือชื่อเต็มที่ว่า Interactive Online Course ค่ะ เราสามารถเรียนผ่านอุปกรณ์ electronic อะไรก็ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นโทรศัพท์มือถือ, Tablet หรือคอมพิวเตอร์ค่ะ

- หากเข้าเรียนผ่านโทรศัพท์มือถือ สามารถเข้าได้ 2 ช่องทาง 1.) จาก Line Menu ของ Official Account ของ McBrown ก็ได้ค่ะ หรือ 2.) เข้าผ่าน web browser ก็ได้
- หากเข้าผ่าน Tablet และคอมพิวเตอร์ - สามารถเข้าผ่าน Internet Browser ได้เลย

เมื่อสมัครแล้วจะได้รับ
- Username + Password ในการ log in เข้าไปเรียน
- หนังสือคู่มือประกอบฉบับการ์ตูนจำนวน 5 เล่มค่ะ (ส่งไปรษณีย์ตามหลังมา)

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับหนังสือคู่มือ 

- ตัวหนังสือน้อย เป็นภาพการ์ตูนเสียส่วนใหญ่ เหมาะสำหรับคนที่ไม่ชอบอ่านข้อความเป็นพืดๆ
- ในส่วนที่มีตัวหนังสือนั้น ก็ไม่ได้มีตัวหนังสือเป็นพืดๆอยู่ดีค่ะ แก้ปัญหาคนสมาธิสั้นได้ระดับหนึ่งเลย

ขั้นตอนการเรียนรู้จะแบ่งออกเป็น 3 ขั้นตอนหลักๆค่ะ

ขั้นที่ 1 - เราจะได้รับชมคำอธิบายในเรื่องนั้นๆ จาก Interactive Video ค่ะ โดยเราสามารถกดลงไปในตัว Video ได้จริงๆเลยล่ะ หากตอบถูก ตัววีดีโอก็จะเล่นต่อไป แต่ถ้าหากตอบผิด จะมีคำอธิบายเพิ่มเติมสำหรับเราขึ้นมาให้ค่ะ หรือบางทีจะเป็นปุ่มให้กลับไปเรียนเนื้อหาที่เกี่ยวข้องใหม่อีกครั้ง

ชอบในส่วนของ Pronunciation เป็นพิเศษเลย เพราะเราสามารถทำแบบฝึกหัดการฟังได้ในประสบการณ์ที่แปลกแบบไม่เคยมีมาก่อนจริงๆ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับคลิป

- ตัววีดีโอทำมาสั้นค่ะ ไม่เกิน 3-5 นาทีต่อคลิป ทำให้ตัดปัญหาเรื่องดูวีดีโอแล้วจะหลับไปได้
- และในแต่ละคลิปที่ยาว 3-5 นาทีนั้นค่ะ ถูกซอยให้สั้นไปอีกด้วยความเป็น Interactive ประมาณว่า ตัวคลิปอธิบายไป 30 วินาที แล้วก็ถามความเข้าใจเราค่ะ และ ณ ตอนถามนั้น ตัวคลิปจะถูก Pause ไว้ ทำให้เราไม่สามารถไปทำกิจกรรมอื่นๆได้ระหว่างชมคลิป ช่วยเรื่องสมาธิในการเรียน สำหรับผู้ที่มีปัญหาเรื่องสมาธิได้ระดับหนึ่งเลย
- Sound ประกอบไม่ได้ทำมาให้สบายหูมากนักค่ะ ซึ่งกลายเป็นข้อดี เพราะเราจะรู้สึกตื่นเต้นเหมือนอยู่ในหนังแอคชั่นตลอดเวลา แต่เป็นหนังที่เราต้องไปอยู่ในศึกนั้นจริงๆ (เพราะต้องกดตอบ 555) เป็นประสบการณ์ที่แปลกดีทีเดียวเลย
- การตัดต่อและกราฟฟิคเป็นไปในทิศทางเดียวกับคำอธิบายค่ะ มีการเน้นย้ำและใช้ข้อดีของการเป็นสื่อออนไลน์ได้ตอบโจทย์ ในความคิดเรานะ

ขั้นที่ 2 - เมื่อรับชมเสร็จแล้ว ให้เราเอาความรู้จากตัว Interactive Video มาประยุกต์ทำแบบฝึกหัด โดยการเปลี่ยนโจทย์ภาษาไทย ให้เป็นภาษาอังกฤษ 

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับแบบฝึกหัด

- ในช่วงแรกของแบบฝึกหัดจะมีคำศัพท์กำกับมาให้ด้วยค่ะ เพราะฉะนั้น จึงไม่ต้องห่วงเรื่องไม่รู้ศัพท์ แต่หลังจากนั้นศัพท์จะค่อยๆหายไป เพื่อการเรียนรู้ของตัวเราเองค่ะ
- โจทย์จะค่อยๆเพิ่มระดับความซับซ้อนตาม Level ที่มากขึ้น ยิ่งเรียนสูงเท่าไหร่ โจทย์จะยิ่งนำความรู้เก่าๆมาประยุกต์เข้ากับเรื่องใหม่เยอะเท่านั้นค่ะ แก้ปัญหาการเรียนของใหม่แล้วลืมของเก่า
- เนื้อแบบฝึกหัดคือกุญแจสำคัญที่ทำให้เราพัฒนาทักษะภาษาอังกฤษของเราได้ เหมือนโรงเรียนตั้งใจทำมาแบบนั้นนะคะ

ขั้นที่ 3 - หากทำแบบฝึกหัดผิด ระบบจะเฉลยประโยคที่ถูกต้องให้ และนำมาเทียบกับข้อความที่เราเขียนผิดค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ความเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับเฉลย

- เนื้อโจทย์และเฉลยทำมาให้พอเดาได้อยู่นะคะ ว่าผิดตรงไหน และทำไมจึงเฉลยแบบนั้น
- เนื้อโจทย์ดูออกว่าถูกออกแบบมาแล้วค่ะ ว่าหากเรื่องไหนยังไม่ได้เรียน จะยังไม่ถูกนำมาใส่ในโจทย์ ดังนั้นจึงตัดปัญหาการเฉลยแล้วไม่เข้าใจไปได้ระดับใหญ่เลย

บทเรียนแบ่งออกเป็น 4 ระดับ - Beginner I, Beginner II, Intermediate I และ Advance I โดยในแต่ละระดับ จะมีหลาย Level ที่แตกต่างกัน
Beginner I มี 55 Level
Beginner II มี 44 Level
Intermediate I มี 46 Level
Advance I มี 48 Level

ในแต่ละ Level มีแบบฝึกหัดประมาณ Level ละ 10 ประโยคค่ะ โดยประมาณ 80% ของแบบฝึกหัดทั้งหมดเป็นการเขียนตอบ บางแบบฝึกหัดเป็นแบบ Choice บางแบบฝึกหัดเป็นแบบผสมระหว่างเขียนตอบและ Choice 

หากเราเรียนผ่าน iPad เราสามารถใช้ Apple Pencil เขียนตอบลงไปได้จริงๆ ทดแทนความรู้สึกของการเขียนบนกระดาษได้ระดับหนึ่งเลยค่ะ

ใน Level หลังๆ ทางโรงเรียนแนะนำให้เริ่มใช้ฟังก์ชัน Dictation ของอุปกรณ์ที่เรียน เพื่อฝึกกล้ามเนื้อช่องปาก และการกำหนดลมหายใจ เพื่อเพิ่มทักษะการพูดค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับฟังก์ชัน Dictation

อันนี้เป็นฟังก์ชั่นเสริมของ Keyboard ที่มีอยู่ในอุปกรณ์ทุกเครื่องอัตโนมัติอยู่แล้วค่ะ เปิดใช้งานโดยการกดรูปไมโครโฟนทางมุมด้านซ้ายมือ ทางด้านล่างของคีย์บอร์ด (มีทั้งใน iOS และ Androidเลย) และหลังจากนั้น อุปกรณ์จะจับคลื่นเสียงและรูปปาก ให้ตรงกับความน่าจะเป็นของรูปประโยค และแปลงออกมาเป็นข้อความ ยิ่งเราใช้ฟังก์ชั่นนี้มากเท่าไหร่ โทรศัพท์จะยิ่งปรับให้ตรงกับตัวเรามากยิ่งขึ้นค่ะ

ในการทำแบบฝึกหัดในแต่ละ Level นั้น ทำออกมาในรูปแบบของเกม เราจะมีหัวใจ 3 ดวง หากทำผิดครบ 3 ดวง จะต้องเริ่มทำใหม่ (3 ดวงต่อแบบฝึกหัด 10 ข้อค่ะ) 

หากเราไม่ต้องการใช้ระบบหัวใจ เราสามารถเปิดปุ่ม Collect ได้ค่ะ เมื่อเวลาเราทำผิด หัวใจจะไม่หายไป จะสามารถทำแบบฝึกหัดจบได้ไวขึ้น โดยปุ่ม Collect จะทำหน้าที่เก็บข้อที่เราผิดไว้ในกล่องอีกกล่องหนึ่ง ซึ่งจะเป็นกล่องเฉพาะของแต่ละคนเท่านั้นค่ะ ว่าใครผิดข้อไหนซ้ำๆ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ความคิดเห็นส่วนตัวเกี่ยวกับระบบหัวใจและ Collect 

ทั้ง 2 แบบมีข้อดีข้อเสียแตกต่างกันค่ะ หากเป็นระบบหัวใจ ก็จะได้ทำซ้ำๆจนชำนาญ แต่มีข้อเสียคือทำไม่จบสักที ทำให้ท้อแท้ได้ง่ายมาก 
หากเป็นระบบ Collect ข้อดีคือ จบเร็วขึ้น แต่ก็จะไม่ได้ความชำนาญเท่าระบบหัวใจ

ทั้งนี้ เราเป็นคนตัดสินใจเอาเองค่ะ ว่าระบบไหนเหมาะกับเรา

ยิ่งหากเราใช้ Dictation คู่กับระบบหัวใจแล้ว เราะจะได้พูดประโยคเดิมๆซ้ำๆไปมา จนชำนาญปากเลยทีเดียว 555

คอร์สไม่มีระยะเวลาจำกัดค่ะ ไม่มีวันหมดอายุ เอื้อแก่คนที่หัวช้าและไม่มีเวลา เรียนและทำแบบฝึกหัดครบจำนวน Level ที่วางไว้เมื่อไหร่ ถือว่าจบคอร์ส แต่ข้อบังคับคือ เราต้องเรียนต่อเนื่อง หากขาดเรียนติดต่อกันเกิน 3 เดือน จะไม่สามารถ Log in เข้าระบบได้แล้ว และถือว่าเป็นอันจบคอร์ส

ตัวแบบฝึกหัด เมื่อทำเสร็จไปแล้ว จะไม่สามารถย้อนกลับมาทำแบบฝึกหัดเดิมอีกรอบได้ แต่ยังสามารถกดดูวีดีโอคำสอนได้อยู่จนกว่าจะจบคอร์สค่า