สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 12
สวัสดีครับคุณน้อง พี่น่าจะเป็นคนนึงที่ช่วยให้คำแนะนำได้ดีที่สุดนะครับ
เพราะพี่ทำงานฟรีแลนซ์มา ปีนี้ปีที่ 11 แล้วครับ
ก่อนอื่น พี่อยากให้ลบมายาคติว่างานประจำมั่นคงกว่าออกไปก่อน
เพราะทุกวันนี้ โดยเฉพาะช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้
การทำงานแบบ Remote Office/Contract เป็นเรื่องปกติมากๆ
พูดง่ายๆ คือแทบจะทุกที่มองการทำงานที่บ้านแบบเซ็นสัญญาชั่วคราว
เป็นเรื่องปกติไปแล้ว
สิ่งที่น้องควรพิจารณาตอนนี้คือ
- ภาษาต่างประเทศเราได้ไหม ถ้ายัง เริ่มเรียนวันนี้
เพราะตลาดในไทย โตยากมาก และค่าแรงต่ำเตี้ยมาก
ยกตัวอย่างตอนพี่ทำแรกๆ เลยนะครับ พี่ได้เดือนละไม่เกินสองหมื่นบาท
พอพี่เริ่มรับตรงจากต่างประเทศ รายได้เติบโตประมาณสามถึงห้าเท่า
ทั้งๆ ที่ทำงานเกือบเท่าเดิมครับ
- อุตสาหกรรมที่เราอยู่ มีความมั่นคงแค่ไหน คำถามนี้
พนักงานประจำที่จริงก็ควรสนใจ ยกตัวอย่างนะครับ
ในอดีต กล้องฟิล์มเคยเทพมาก แต่การมาอย่างรวดเร็ว
ของกล้องดิจิทัล ทำให้โรงงาน และธุรกิจอีกหลายอย่าง
ที่เกี่ยวกับกล้องฟิล์ม ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ใครปรับตัวได้ก็รอด ปรับตัวไม่ได้ก็ล้มไป
ไหนจะอดีตยักษ์ใหญ่อย่าง Nokia Blackberry
ดังนั้น งานประจำก็ไม่ใช่ว่ามั่นคงครับ
ที่สำคัญคือเรามองภาพใหญ่ และติดตามสถานการณ์
ของอุตสาหกรรมที่เราอยู่ดีแค่ไหนต่างหาก
- น้องวางแผนทางการเงินดีแค่ไหน
ทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพไว้บ้างไหม
มีแบ่งเงินไปลงทุนในหุ้น พันธบัตร หรือกองทุนไหม
ตรงนี้เป็นแผนรับมือเหตุไม่คาดคิด และแผนเกษียณอายุ
วันนี้อายุยังน้อย ค่อยๆ เริ่มศึกษาไปก็ทัน
- น้องคิดจะกู้เงินซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือทำบัตรเครดิตไหม
ถ้าใช่ ฟรีแลนซ์ก็ทำได้ แต่ต้องเตรียมสเตทเมนท์
กับเอกสารการเสียภาษี หรือเอกสารชี้แจงที่มาของรายได้ให้พร้อม
- น้องมีเงินเก็บสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายรายเดือน
กรณีไม่มีรายได้เข้ามาเลยสูงสุดกี่เดือน
เคยทำสถิติย้อนหลังไหม ว่าเดือนไหนงานเยอะ เดือนไหนงานน้อย
น้องมี Contract กับบริษัทกี่แห่ง อย่ารับเงินทางเดียว
หาแหล่งรายได้สำรองไว้ด้วย
- โดยรวมๆ การเป็นฟรีแลนซ์ไม่ใช่ความประมาท
อยู่ที่มุมมองการใช้ชีวิตของเรามากกว่า ประมาทไหม
เพราะพี่ทำงานฟรีแลนซ์มา ปีนี้ปีที่ 11 แล้วครับ
ก่อนอื่น พี่อยากให้ลบมายาคติว่างานประจำมั่นคงกว่าออกไปก่อน
เพราะทุกวันนี้ โดยเฉพาะช่วงสองสามปีที่ผ่านมานี้
การทำงานแบบ Remote Office/Contract เป็นเรื่องปกติมากๆ
พูดง่ายๆ คือแทบจะทุกที่มองการทำงานที่บ้านแบบเซ็นสัญญาชั่วคราว
เป็นเรื่องปกติไปแล้ว
สิ่งที่น้องควรพิจารณาตอนนี้คือ
- ภาษาต่างประเทศเราได้ไหม ถ้ายัง เริ่มเรียนวันนี้
เพราะตลาดในไทย โตยากมาก และค่าแรงต่ำเตี้ยมาก
ยกตัวอย่างตอนพี่ทำแรกๆ เลยนะครับ พี่ได้เดือนละไม่เกินสองหมื่นบาท
พอพี่เริ่มรับตรงจากต่างประเทศ รายได้เติบโตประมาณสามถึงห้าเท่า
ทั้งๆ ที่ทำงานเกือบเท่าเดิมครับ
- อุตสาหกรรมที่เราอยู่ มีความมั่นคงแค่ไหน คำถามนี้
พนักงานประจำที่จริงก็ควรสนใจ ยกตัวอย่างนะครับ
ในอดีต กล้องฟิล์มเคยเทพมาก แต่การมาอย่างรวดเร็ว
ของกล้องดิจิทัล ทำให้โรงงาน และธุรกิจอีกหลายอย่าง
ที่เกี่ยวกับกล้องฟิล์ม ได้รับผลกระทบอย่างหนัก
ใครปรับตัวได้ก็รอด ปรับตัวไม่ได้ก็ล้มไป
ไหนจะอดีตยักษ์ใหญ่อย่าง Nokia Blackberry
ดังนั้น งานประจำก็ไม่ใช่ว่ามั่นคงครับ
ที่สำคัญคือเรามองภาพใหญ่ และติดตามสถานการณ์
ของอุตสาหกรรมที่เราอยู่ดีแค่ไหนต่างหาก
- น้องวางแผนทางการเงินดีแค่ไหน
ทำประกันชีวิต ประกันสุขภาพไว้บ้างไหม
มีแบ่งเงินไปลงทุนในหุ้น พันธบัตร หรือกองทุนไหม
ตรงนี้เป็นแผนรับมือเหตุไม่คาดคิด และแผนเกษียณอายุ
วันนี้อายุยังน้อย ค่อยๆ เริ่มศึกษาไปก็ทัน
- น้องคิดจะกู้เงินซื้อบ้าน ซื้อรถ หรือทำบัตรเครดิตไหม
ถ้าใช่ ฟรีแลนซ์ก็ทำได้ แต่ต้องเตรียมสเตทเมนท์
กับเอกสารการเสียภาษี หรือเอกสารชี้แจงที่มาของรายได้ให้พร้อม
- น้องมีเงินเก็บสำรองสำหรับค่าใช้จ่ายรายเดือน
กรณีไม่มีรายได้เข้ามาเลยสูงสุดกี่เดือน
เคยทำสถิติย้อนหลังไหม ว่าเดือนไหนงานเยอะ เดือนไหนงานน้อย
น้องมี Contract กับบริษัทกี่แห่ง อย่ารับเงินทางเดียว
หาแหล่งรายได้สำรองไว้ด้วย
- โดยรวมๆ การเป็นฟรีแลนซ์ไม่ใช่ความประมาท
อยู่ที่มุมมองการใช้ชีวิตของเรามากกว่า ประมาทไหม
ความคิดเห็นที่ 5
ก่อนอื่นขอชื่นชมว่าเก็บเงินเก่งครับ ลองหาแนวทางต่อยอดสิ่งที่ทำอยู่ว่าจะเปลี่ยนให้ทักษะและประสบการณ์กลายเป็นสินทรัพย์อย่างไรได้บ้างครับ ยกตัวอย่าง ผมทำอาชีพส่วนตัวมาก็ประมาณ 7 - 8 ปี ก็เริ่มจากฟรีแลนซ์ เป็นสายคอนเทนต์ ชอบสรุปเรื่องน่าสนใจมาเขียนคอนเทนต์ เริ่มจากรับงานฟรีแลนซ์แปล ก็เงินดีครับ 3 - 5 หมื่นบาทต่อเดือนแม้จะทำเป็นพาร์ทไทม์ (ตอนนั้นทำคู่งานประจำ)
ผมก็เคยคิดเหมือน จขกท ว่าจะทำให้มันมั่นคงอย่างไร ผมจึงเอาวิชาความรู้และความชอบมาต่อยอดโดยการสร้างเว็บไซต์ และลงคอนเทนต์ในเว็บตัวเอง ส่งผลให้มีรายได้ดังนี้ครับ
- รายได้จากป้ายโฆษณาอัตโนมัติ Google adsense
- รายได้จากสปอนเซอร์โฆษณา (ตัวหลัก)
- รายได้จากการโปรโมทสินค้าแบบ Affiliate marketing
- รายได้จากสินค้าของตัวเอง (ตัวหลัก)
4 โมเดลรายได้ แต่ไม่ต้องใช้ 4 ร่างในการทำนะครับ เป็นการสร้างแพลทฟอร์มขึ้นมาแล้วบรรจุเครื่องมือทำเงินลงไปแล้วให้มันทำงานในที่เดียว รวม ๆ กันปี ๆ หนึ่งก็ 7 หลักครับ โดยปัจจุบันผมเลิกรับงานโปรเจคแบบฟรีแลนซ์แบบสนิทแล้วครับ เปลี่ยนจากการรับทำให้คนอื่น มาสร้างสินทรัพย์ของตัวเอง ซึ่งความแตกต่างหลัก ๆ คือ การสร้างสินทรัพย์จะใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเริ่มทำเงิน โดยระหว่างนั้นก็มีรายได้จากจ็อบโปรเจคมาหล่อเลี้ยงครับ
พอมีรายได้มากขึ้น ก็แบ่งเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ เช่น หุ้น และคริปโทฯ ซึ่งในส่วนนี้เราไม่ต้องทำอะไรนอกจากทำความเข้าใจ และรอมันเติบโตอย่างเดียวครับ
ผมก็เคยคิดเหมือน จขกท ว่าจะทำให้มันมั่นคงอย่างไร ผมจึงเอาวิชาความรู้และความชอบมาต่อยอดโดยการสร้างเว็บไซต์ และลงคอนเทนต์ในเว็บตัวเอง ส่งผลให้มีรายได้ดังนี้ครับ
- รายได้จากป้ายโฆษณาอัตโนมัติ Google adsense
- รายได้จากสปอนเซอร์โฆษณา (ตัวหลัก)
- รายได้จากการโปรโมทสินค้าแบบ Affiliate marketing
- รายได้จากสินค้าของตัวเอง (ตัวหลัก)
4 โมเดลรายได้ แต่ไม่ต้องใช้ 4 ร่างในการทำนะครับ เป็นการสร้างแพลทฟอร์มขึ้นมาแล้วบรรจุเครื่องมือทำเงินลงไปแล้วให้มันทำงานในที่เดียว รวม ๆ กันปี ๆ หนึ่งก็ 7 หลักครับ โดยปัจจุบันผมเลิกรับงานโปรเจคแบบฟรีแลนซ์แบบสนิทแล้วครับ เปลี่ยนจากการรับทำให้คนอื่น มาสร้างสินทรัพย์ของตัวเอง ซึ่งความแตกต่างหลัก ๆ คือ การสร้างสินทรัพย์จะใช้เวลาพอสมควรกว่าจะเริ่มทำเงิน โดยระหว่างนั้นก็มีรายได้จากจ็อบโปรเจคมาหล่อเลี้ยงครับ
พอมีรายได้มากขึ้น ก็แบ่งเงินไปลงทุนในสินทรัพย์ เช่น หุ้น และคริปโทฯ ซึ่งในส่วนนี้เราไม่ต้องทำอะไรนอกจากทำความเข้าใจ และรอมันเติบโตอย่างเดียวครับ
แสดงความคิดเห็น
ทำงานเป็นฟรีเเลนซ์มา2-3ปี กำลังรู้สึกว่าตัวเองใช้ชีวิตประมาทไปไหม อยากปรึกษาหน่อยครับ
ผมทำงานเกี่ยวกับวาดการ์ตูนครับ
ไม่มีภาระอะไรเเล้วอยู่ด้วยตัวคนเดียว ผมมีรายได้เฉลี่ยรายรับประมาณเดือนละ 25000-35000 ค่าใช้จ่ายกินวันละ2มื้อ ค่าน้ำค่าไฟ รวมๆเดือนนึงจะเหลือเก็บประมาณ 15000-25000 (ใช้น้อย ไม่ค่อยเที่ยว) เฉลี่ยๆเดือนนึงใช้ประมาณหมื่นนึงครับ
เดือนนึงผมใช้น้อยมากจริงๆ กินเดือนนึงประมาณเดือนละ 3000-4000 ค่าไฟประมาณ2000-2500 ค่าเน็ต700 เที่ยวก็ไม่ค่อยได้เที่ยวเลยมีเงินเก็บเยอะ
ด้วยความที่ผมมีบ้านที่พ่อเเม่ทิ้งไว้ให้ ไม่มีภาระอะไร ค่าเช่าบ้านไม่มี ที่เสียรายจ่ายเดือนนึงก็มีเเค่ ค่าเน็ต ค่าน้ำค่าไฟ ค่าของกิน ของตัวเอง ยังไม่เคยคิดถึงเรื่องการลงทุนอะไร
ผมก็คิดว่าจะเป็นฟรีเเลนซ์ไปตลอดเเบบนี้เเหละ สุขสบายดี ไม่ชอบเจอผู้คน เเต่พออายุตอนนี้เข้าใกล้26ก็เริ่มตระหนักคิดหลายๆอย่าง
เพื่อนไม่มี ผู้ใหญ่ที่ปรึกษาด้วยก็ไม่มี ไม่เคยคิดถึงอนาคตว่าเราควรจะสำรองเงินไว้เท่าไร อยู่ตัวคนเดียว ตอนนี้ก็เเค่ทำงานไปวันๆ ใช้ชีวิตชิวๆไปวันๆ ตื่นมาเช็คเมล์ ตอบลูกค้า ทำงานเช้าจนถึงเย็นเเล้วค่อยพัก ตอนนี้ก็คิดเเค่เก็บเงินไปเรื่อยๆไว้ใช้ตอนเเก่
เเต่วันดีคืนดีมานั่งอ่านพอลองๆอ่านกระทู้ต่างๆ ลองหาข้อมูลเกี่ยวกับฟรีเเลนซ์ก็เริ่ม paranoid นิดๆ เพราะเห็นหลายๆคนว่าฟรีเเลนซ์ไม่ปลอดภัย งานประจำยังมีวันหยุดบ้าง สวัสดิการมีอะไรต่างๆ เงินเดือนขึ้นทุกเดือนเเต่ก็เเลกกับต้องไปทำงานตรงเวลา ไม่ได้อิสระ หลายๆคนพยายามขวนขวายหาเงินเดือนเยอะๆ ให้ได้เป็นเเสน หรือได้เงินเยอะๆมากกว่านั้น
จนรู้สึกว่าผมกำลังมองข้ามอะไรไปบางอย่างหรือเปล่า ขาดการวางเเผนชีวิตที่ดีรึเปล่า ลืมนึกถึงอะไรไปรึเปล่า เริ่มถามตัวเองว่าตอนนี้อายุเเค่25 ควรจะไปลองทำงานประจำดูบ้างไหม เพราะเท่าที่อ่านคือ ผมได้เงินเเค่นี้ต่อเดือนเเต่ไม่มีสวัสดิการอะไรเลย ไม่มั่นคงด้วยเท่าไร กำลังใช้ชีวิตเถลไถลเกินไปไหม
เเต่งานที่ทำมีความสุขดีนะครับ ชอบ เเต่รายได้ประมาณนี้มานานเเล้วยังไม่ได้คิดจะขวนขวายเพิ่ม มีเงินเก็บตอนนี้ประมาณ 500k
คำถามคือ ผมกำลังคิดน้อยไปไหมครับ กำลังรู้สึกใช้ชีวิตเเบบสโลว์ไลฟ์มากๆตอนนี้
อันนี้คือที่ผมคิดไว้จะเก็บเงินให้ได้3-4ล้าน ซึ่งถ้าไม่มีเรื่องฉุกละหุกจริงๆ ผมเก็บเดือนละ 15000-20000 จะใช้เวลาทั้งหมดประมาณ15-20ปี เเบบไม่ลงทุนอะไรเลย เก็บเงินอย่างเดียวซึ่งไม่น่าจะทำเเบบนั้นกำลังคิดจะศึกษาลงทุนเพิ่มเติมยังไม่ได้ศึกษาครับ
ไว้ใช้ตอนเเก่กรณีทำงานไม่ไหวเเล้ว สมองไม่ไหว เเรงกายไม่ไหว ผมไม่คิดจะเเต่งงาน ไม่คิดจะมีครอบครัว อยู่คนเดียวไปจนเสีย
ยอมรับตรงๆว่าเลือกงานครับ ไม่อยากทำงานประจำ
ตอนนี้มีเรื่องกังวลเเละนึกออกเเค่อย่างเดียวคือถ้าเกิดงานที่ทำอยู่ ตลาดเปลี่ยนหรือเกิดเหตุอะไรบางอย่างที่ทำงานนี้ไม่ได้ ผมน่าจะซวยเหมือนกันเพราะไม่มีเเผนหาเงินทางอื่นรองรับเลย มีเเค่เรื่องนี้เรื่องเดียวจริงๆ