8 มิ.ย. 2564-15:01 น.
คุมหลานทำแผน โบกปูนอำพรางใต้เตียง ปมแค้นถูกเบี้ยวเงินค่าจ้าง 3 หมื่น ทวงหลายรอบไม่ให้ จนต้องจำนองที่ดินจัดงานแต่ง ก่อนลงมือโหดคาบ้าน
จากคดีพบศพนายไพโรจน์ พรหมทองเก่า อายุ 55 ปี ถูกฆ่าเทปูนทับภายในบ้านในอ.เมืองสระบุรี ก่อนตำรวจตามจับกุมนายอนุภาพ กัญญาคำ อายุ 29 ปี หลานชายผู้เสียชีวิต โดยรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุ โดยเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ได้มาทวงเงินที่ร่วมทำงานรับเหมางานกับผู้ตายที่บ้าน ก่อนอ้างผู้ตายเบี้ยวค่างานประมาณ 30,000 บาท แต่ผู้ตายไม่ให้ จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบใช้ไม้ตีจนเสียชีวิต จากนั้นออกไปซื้อปูนซิเมนต์มาเทปูนทับ
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.64 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ร่วมกับพล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และพ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี ร่วมแถลงข่าวที่บ้านหลังเกิดเหตุ ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี
พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า พฤติกรรมคดีนั้นก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณเดือนพ.ย.63 นายอนุภาพกับนายไพโรจน์ได้ร่วมกันทำงานรับเหมาก่อสร้างแล้วเสร็จ ประมาณเดือนม.ค.64 ต่อมาประมาณเดือนมี.ค.64 นายอานุภาพได้ทวงถามเงินค่าจ้างส่วนที่ตนจะได้รับกับนายไพโรจน์เป็นเงิน 30,000 บาทถึง 3 ครั้ง แต่นายไพโรจน์บ่ายเบี่ยงไม่ให้เงินส่วนนี้ ต่อมาเดือนเม.ย.64 นายอานุภาพได้ทวงถามค่าจ้างนายไพโรจน์อีก 4 ครั้ง แต่นายไพโรจน์ก็บ่ายเบี่ยงไม่ให้เงินส่วนนี้ไม่ให้เงินส่วนนี้
ขณะเกิดเหตุนายอนุภาพยอมรับว่าเมื่อวันที่ 22 เม.ย. นายอนุภาพไปพบนายไพโรจน์ที่บ้านหลังเกิดเหตุ จากนั้นได้หยิบไม้กระถิน 1 ท่อนที่วางอยู่หลังบ้านถือเข้าไปภายในบ้าน จากนั้นได้เปิดประตูบ้านและประตูห้องนอนของนายไพโรจน์เดินเข้าไปภายในห้องนอน พบนายไพโรจน์ตื่นแล้วลุกขึ้นนั่งบนที่นอน จึงใช้ท่อนไม้ตีเข้าบริเวณศีรษะของนายไพโรจน์ 1 ครั้ง เมื่อนายอานุภาพเห็นว่านายไพโรจน์สลบลงบนพื้นที่นอน จึงได้ตีซ้ำบริเวณลำคออีก 1 ครั้ง จนกระทั่งแน่ใจแล้วว่านายไพโรจน์ เสียชีวิตแล้วจึงปิดล็อกห้องนอนที่เกิดเหตุและหลบหนีออกมา
หลังเกิดเหตุวันที่ 23 เม.ย. นายอนุภาพได้ไปซื้อปูนจากร้านวัสดุใกล้เคียงที่เกิดเหตุ 2 ถุงและนำมาผสมที่บ้าน เพื่อปิดทับอำพรางศพนายไพโรจน์ จากนั้นกลับมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ จนกระทั่งวันที่ 7 มิ.ย.64 นายอนุภาพถูกตำรวจติดตามจับกุมและรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
โดยเหตุจูงใจโกรธแค้นที่ผู้ตายเบี้ยวเงินค่าแรงรับเหมาก่อสร้างที่ได้ทำร่วมกัน เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาต้องเป็นหนี้ โดยนำโฉนดที่ดินไปจำนองเป็นเงิน 40,000 บาท เพื่อนำมาใช้จ่ายในการแต่งงานของตนเอง เมื่อวันที่ 18 เม.ย.64 และเมื่อติดตามทวงถามผู้ตายก็บ่ายเบี่ยงตลอด นอกจากนี้ยังแค้นส่วนตัว เนื่องจากผู้ตายมักใช้คำรุนแรงกับผู้ต้องหา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาทำแผน ตั้งแต่ไปหยิบไม้ที่หลังบ้าน เข้ามาในบ้านห้องนอนและตีผู้ตาย
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6441777
คุมหลานทำแผน โบกปูนอำพรางใต้เตียง ปมแค้นถูกเบี้ยวเงิน จำนองที่ดินจัดงานแต่ง
8 มิ.ย. 2564-15:01 น.
คุมหลานทำแผน โบกปูนอำพรางใต้เตียง ปมแค้นถูกเบี้ยวเงินค่าจ้าง 3 หมื่น ทวงหลายรอบไม่ให้ จนต้องจำนองที่ดินจัดงานแต่ง ก่อนลงมือโหดคาบ้าน
จากคดีพบศพนายไพโรจน์ พรหมทองเก่า อายุ 55 ปี ถูกฆ่าเทปูนทับภายในบ้านในอ.เมืองสระบุรี ก่อนตำรวจตามจับกุมนายอนุภาพ กัญญาคำ อายุ 29 ปี หลานชายผู้เสียชีวิต โดยรับสารภาพว่าเป็นคนลงมือก่อเหตุ โดยเมื่อวันที่ 22 เม.ย.ได้มาทวงเงินที่ร่วมทำงานรับเหมางานกับผู้ตายที่บ้าน ก่อนอ้างผู้ตายเบี้ยวค่างานประมาณ 30,000 บาท แต่ผู้ตายไม่ให้ จึงเกิดอารมณ์ชั่ววูบใช้ไม้ตีจนเสียชีวิต จากนั้นออกไปซื้อปูนซิเมนต์มาเทปูนทับ
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย.64 พล.ต.ท.อำพล บัวรับพร ผบช.ภ.1 ร่วมกับพล.ต.ต.ชยานนท์ มีสติ ผบก.ภ.จว.สระบุรี และพ.ต.อ.เชษฐชัย เชษฐศิริ ผกก.สภ.เมืองสระบุรี ร่วมแถลงข่าวที่บ้านหลังเกิดเหตุ ต.หนองปลาไหล อ.เมือง จ.สระบุรี
พล.ต.ท.อำพล กล่าวว่า พฤติกรรมคดีนั้นก่อนเกิดเหตุเมื่อประมาณเดือนพ.ย.63 นายอนุภาพกับนายไพโรจน์ได้ร่วมกันทำงานรับเหมาก่อสร้างแล้วเสร็จ ประมาณเดือนม.ค.64 ต่อมาประมาณเดือนมี.ค.64 นายอานุภาพได้ทวงถามเงินค่าจ้างส่วนที่ตนจะได้รับกับนายไพโรจน์เป็นเงิน 30,000 บาทถึง 3 ครั้ง แต่นายไพโรจน์บ่ายเบี่ยงไม่ให้เงินส่วนนี้ ต่อมาเดือนเม.ย.64 นายอานุภาพได้ทวงถามค่าจ้างนายไพโรจน์อีก 4 ครั้ง แต่นายไพโรจน์ก็บ่ายเบี่ยงไม่ให้เงินส่วนนี้ไม่ให้เงินส่วนนี้
ขณะเกิดเหตุนายอนุภาพยอมรับว่าเมื่อวันที่ 22 เม.ย. นายอนุภาพไปพบนายไพโรจน์ที่บ้านหลังเกิดเหตุ จากนั้นได้หยิบไม้กระถิน 1 ท่อนที่วางอยู่หลังบ้านถือเข้าไปภายในบ้าน จากนั้นได้เปิดประตูบ้านและประตูห้องนอนของนายไพโรจน์เดินเข้าไปภายในห้องนอน พบนายไพโรจน์ตื่นแล้วลุกขึ้นนั่งบนที่นอน จึงใช้ท่อนไม้ตีเข้าบริเวณศีรษะของนายไพโรจน์ 1 ครั้ง เมื่อนายอานุภาพเห็นว่านายไพโรจน์สลบลงบนพื้นที่นอน จึงได้ตีซ้ำบริเวณลำคออีก 1 ครั้ง จนกระทั่งแน่ใจแล้วว่านายไพโรจน์ เสียชีวิตแล้วจึงปิดล็อกห้องนอนที่เกิดเหตุและหลบหนีออกมา
หลังเกิดเหตุวันที่ 23 เม.ย. นายอนุภาพได้ไปซื้อปูนจากร้านวัสดุใกล้เคียงที่เกิดเหตุ 2 ถุงและนำมาผสมที่บ้าน เพื่อปิดทับอำพรางศพนายไพโรจน์ จากนั้นกลับมาใช้ชีวิตประจำวันตามปกติ จนกระทั่งวันที่ 7 มิ.ย.64 นายอนุภาพถูกตำรวจติดตามจับกุมและรับสารภาพตลอดข้อกล่าวหา
โดยเหตุจูงใจโกรธแค้นที่ผู้ตายเบี้ยวเงินค่าแรงรับเหมาก่อสร้างที่ได้ทำร่วมกัน เป็นเหตุให้ผู้ต้องหาต้องเป็นหนี้ โดยนำโฉนดที่ดินไปจำนองเป็นเงิน 40,000 บาท เพื่อนำมาใช้จ่ายในการแต่งงานของตนเอง เมื่อวันที่ 18 เม.ย.64 และเมื่อติดตามทวงถามผู้ตายก็บ่ายเบี่ยงตลอด นอกจากนี้ยังแค้นส่วนตัว เนื่องจากผู้ตายมักใช้คำรุนแรงกับผู้ต้องหา
จากนั้นเจ้าหน้าที่ควบคุมตัวมาทำแผน ตั้งแต่ไปหยิบไม้ที่หลังบ้าน เข้ามาในบ้านห้องนอนและตีผู้ตาย
https://www.khaosod.co.th/around-thailand/news_6441777