คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 3
เนื้อหามันดาร์กขึ้นตั้งแต่ตัวหนังสือเองแล้วครับ ภาคแรกกับภาค 2 ให้คอนเซปต์การผจญภัยในโลกเวทมนตร์ของพ่อมดน้อยอายุ 11-12 ปี
แต่ภาค 3 เนื้อหาเริ่มโตขึ้น เริ่มซีเรียสขึ้นเพราะเนื้อหาหลักๆของภาคนี้จะเล่นกับปูมหลังของตัวละคร
เริ่มมีปริศนาที่ไม่ใช่แค่เรื่องลึกลับในโรงเรียน การผจญภัยไม่ใช่แค่การผจญภัยที่น่าตื่นตาตื่นใจหรือระทึกขวัญแบบเด็กๆอีกต่อไป
เริ่มแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าโลกผู้วิเศษนี้ไม่ใช่สังคมที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์อย่างเดียว แต่มีความโหดร้ายและมีอะไรมากกว่านั้น
และที่สำคัญไคลแมกซ์ท้ายเรื่องของภาคนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็นการปูทางไปสู่ไคลแมกซ์ของหนังสือภาคต่อไป (ถ้วยอัคนี) ด้วย
พอเอามาสร้างเป็นหนัง ก็เป็นธรรมดาที่พอเนื้อหาจากหนังสือมันเริ่มดาร์กขึ้นอยู่แล้ว ตัวหนังก็ต้องดาร์กตาม
แต่ภาค 3 เนื้อหาเริ่มโตขึ้น เริ่มซีเรียสขึ้นเพราะเนื้อหาหลักๆของภาคนี้จะเล่นกับปูมหลังของตัวละคร
เริ่มมีปริศนาที่ไม่ใช่แค่เรื่องลึกลับในโรงเรียน การผจญภัยไม่ใช่แค่การผจญภัยที่น่าตื่นตาตื่นใจหรือระทึกขวัญแบบเด็กๆอีกต่อไป
เริ่มแสดงให้เห็นอย่างชัดเจนแล้วว่าโลกผู้วิเศษนี้ไม่ใช่สังคมที่เต็มไปด้วยความอัศจรรย์อย่างเดียว แต่มีความโหดร้ายและมีอะไรมากกว่านั้น
และที่สำคัญไคลแมกซ์ท้ายเรื่องของภาคนี้น่าจะเรียกได้ว่าเป็นการปูทางไปสู่ไคลแมกซ์ของหนังสือภาคต่อไป (ถ้วยอัคนี) ด้วย
พอเอามาสร้างเป็นหนัง ก็เป็นธรรมดาที่พอเนื้อหาจากหนังสือมันเริ่มดาร์กขึ้นอยู่แล้ว ตัวหนังก็ต้องดาร์กตาม
แสดงความคิดเห็น
ทำไม Harry Potter ภาค3 นักโทษแห่งอัซคาบัน ธีมเรื่องถึงเปลี่ยนไปเยอะจังครับ