ฟุตบอลยูโร 2020 กับ 8 ทีมที่ต้องอำลาเวทีในรอบสอง

ฟุตบอลยูโร 2020 แข่งจบรอบสองไปแล้ว นอกจากจะได้ 8 ทีมที่ผ่านเข้าไปสู้ต่อในรอบก่อนรองชนะเลิศแล้ว ก็มีอีก 8 ทีมที่ต้องอำลาเวทีตกรอบสองไป มาดูกันดีกว่าว่ามีใครบ้าง แต่ละทีมมีผลงานเป็นอย่างไรกันบ้าง เรียงลำดับตามผลงานที่ทำได้เลย

อันดับ 9 เนเธอร์แลนด์
ผลงาน : (รอบแรก) ชนะยูเครน 3-2 ชนะออสเตรีย 2-0 ชนะนอร์ทมาซิโดเนีย 3-0 (รอบสอง) แพ้สาธารณรัฐเช็ก 0-2 ได้ 9 แต้ม ประตูได้เสีย 8-4

เนเธอร์แลนด์เริ่มต้นรอบแรกได้สวยหรูด้วยการเอาชนะ 3 นัดรวด เป็นแชมป์กลุ่มตั้งแต่จบนัดสอง และดูเหมือนว่าเส้นทางของเนเธอร์แลนด์น่าจะสดใสเหมือนโรยด้วยดอกทิวลิปเมื่อดูเหมือนว่าชื่อชั้นน่าจะเป็นต่อคู่แข่งในรอบสองรอบสามระดับหนึ่ง โอกาสทะลุถึงรอบรองฯ ไม่น่าจะยากอะไร แต่ด้วยความผิดพลาดส่วนบุคคลสองครั้งในเวลาห่างกันไม่กี่นาที ทั้งการพลาดประตูขึ้นนำอย่างไม่น่าเชื่อ และการโดนใบแดง ก็ทำให้ความฝันของเนเธอร์แลนด์ต้องพังทลายไปหมดสิ้นแค่รอบสองนี่เอง และเดอบัวร์ก็ต้องกลายเป็นคนว่างงานสังเวยความผิดพลาดของลูกทีมไปตามระเบียบ

สรุป - ท่าดีทีเหลว
โซนมโน

อันดับ 10 สวีเดน
ผลงาน : (รอบแรก) เสมอสเปน 0-0 ชนะสโลวาเกีย 1-0 ชนะโปแลนด์ 3-2 (รอบสอง) แพ้ยูเครน (1-1)1-2 ได้ 7 แต้ม ประตูได้เสีย 5-4

สวีเดนโชว์ฟอร์มในรอบแรกได้อย่างน่าสนใจด้วยการแซงคว้าแชมป์กลุ่มเหนือสเปนได้ ด้วยการใช้เกมรับที่เหนียวแน่นและจังหวะโต้กลับที่อันตราย แต่เมื่อต้องมาเจอคู่แข่งที่ใช้วิธีเดียวกันรับมือ สวีเดนที่ต้องเป็นฝ่ายเปิดเกมบุกใส่ก่อนก็ไม่สามารถเอาชนะคู่แข่งได้ และใบแดงในช่วงต่อเวลาพิเศษก็ทำให้พวกเขาเสียเปรียบและต้องตกรอบไปอย่างพลิกความคาดหมาย

สรุป - มาแบบผิดคาด ไปแบบผิดคาด
เงิบ

อันดับ 11 ฝรั่งเศส
ผลงาน : (รอบแรก) ชนะเยอรมัน 1-0 เสมอฮังการี 1-1 เสมอโปรตุเกส 2-2 (รอบสอง) เสมอสวิตเซอร์แลนด์ (3-3)3-3 แพ้ลูกโทษ ได้ 6 แต้ม ประตูได้เสีย 7-6

แชมป์โลก 2018 ถูกยกให้เป็นทีมเต็งหนึ่งของการแข่งขันด้วยขุมกำลังที่ดูดีกว่าทุกทีม และทำท่าจะไปได้สวยด้วยการเอาชนะเยอรมันได้ และแม้หลังจากนั้นจะสะดุดเสมอฮังการีกับโปรตุเกส แต่ก็ยังประคองเข้ารอบเป็นแชมป์กลุ่มมาได้ และในรอบสอง พวกเขาก็ดูเหมือนว่าน่าจะผ่านเข้ารอบแบบสบาย ๆ แล้วหลังจากพลิกจากตาม 0-1 กลับมาแซงห่าง 3-1 แต่ดันปิดเกมไม่ได้ปล่อยให้สวิตเซอร์แลนด์ฟื้นคืนชีพกลับมาตีเสมอได้ซะงั้น และสุดท้ายก็ต้องตกรอบไปแบบชอกช้ำในการยิงจุดโทษตัดสิน

สรุป - หมดฟอร์มแชมป์โลก
เพี้ยนดีออก

อันดับ 12 ออสเตรีย
ผลงาน : (รอบแรก) ชนะนอร์ทมาซิโดเนีย 3-1 แพ้เนเธอร์แลนด์ 0-2 ชนะยูเครน 1-0 (รอบสอง) แพ้อิตาลี (0-0)1-2 ได้ 6 แต้ม ประตูได้เสีย 5-5

ก่อนแข่งก็ไม่มีใครคิดว่าออสเตรียจะทำผลงานได้ดี อาศัยว่าอยู่ในกลุ่มไม่แข็งมากก็เลยผ่านเข้ารอบมาได้ แต่ในรอบสองพวกเขาก็สามารถต่อกรกับทีมที่มาแรงในรอบแรกอย่างอิตาลีได้แบบสนุกเกินคาด ก่อนจะพ่ายแพ้ไปแบบไม่เสียใจมาก

สรุป - ผลงานดีกว่าที่คาดเล็กน้อย
เม่าหอยทาก

อันดับ 13 โปรตุเกส
ผลงาน : (รอบแรก) ชนะฮังการี 3-0 แพ้เยอรมัน 2-4 เสมอฝรั่งเศส 2-2 (รอบสอง) แพ้เบลเยี่ยม 0-1 ได้ 4 แต้ม ประตูได้เสีย 7-7

โปรตุเกสแชมป์เก่าเริ่มต้นรอบแรกด้วยผลงานลุ่ม ๆ ดอน ๆ เหมือนกับคราวก่อน ได้พี่โด้แบกทีมจนผ่านเข้ารอบมาได้ แต่คราวนี้ไม่โชคดีเหมือนครั้งที่แล้วที่ต้องไปเจอทีมแข็งอย่างเบลเยี่ยม ซึ่งโปรตุเกสก็สู้ได้ดี แต่ก็ไม่พอที่จะเอาชนะได้ ทำให้แชมป์เก่าต้องจบเส้นทางป้องกันแชมป์ไว้แค่รอบนี้

สรุป - พลังน้ำเปล่าแบกทีมไม่ไหว
เพี้ยนต้มน้ำรอ

อันดับ 14 โครเอเชีย
ผลงาน : (รอบแรก) แพ้อังกฤษ 0-1 เสมอสาธารณรัฐเช็ก 1-1 ชนะสก็อตแลนด์ 3-1 (รอบสอง) แพ้สเปน (3-3)3-5 ได้ 4 แต้ม ประตูได้เสีย 7-8

รองแชมป์โลก โครเอเชีย มาด้วยขุมกำลังนักเตะชุดเก๋าเต็มทีม แต่กว่าจะผ่านรอบแรกมาก็ต้องลุ้นกันพอสมควร มาเจอสเปนในรอบสอง แม้จะเริ่มต้นแบบเฮง ๆ แต่ก็ต้องยอมรับว่าพวกเขาสู้ได้ดีทีเดียวโดยเฉพาะในช่วงท้ายเกมที่มีฮืดไล่ตีเสมอได้สำเร็จ แต่สุดท้ายก็ยื้อไม่ไหวในช่วงต่อเวลาแพ้สเปนไปแบบสนุก จบเส้นทางไว้แค่นี้

สรุป - ผลงานเป็นไปตามสภาพทีม
เพี้ยนรู้สึกเงียบ

อันดับ 15 เยอรมัน
ผลงาน : (รอบแรก) แพ้ฝรั่งเศส 0-1 ชนะโปรตุเกส 4-2 เสมอฮังการี 2-2 (รอบสอง) แพ้อังกฤษ 0-2 ได้ 4 แต้ม ประตูได้เสีย 6-7

ก่อนมาแข่ง โยอาคิม เลิฟ กุนซือทีมชาติ ประกาศว่าจะอำลาทีมชาติหลังจบรายการ ซึ่งจะว่าไปแล้วต้องบอกว่าเจ้าตัวคิดผิดมากที่ไม่ตัดสินใจอำลาทีมแบบยิ่งใหญ่ไปตั้งแต่ได้ตอนได้แชมป์บอลโลก แต่พออยู่ต่อมาก็เลยกลายเป็นจบแบบไม่สวยไปเสียชิบ เพราะหลังจากนั้นเจ้าตัวไม่สามารถแก้ปัญหาใหญ่อย่างการขาดกองหน้าตัวเป้าที่เป็นตัวจบสกอร์ที่ไว้ใจได้เลย ผลงานของทีมก็เลยตกต่ำลงมาด้วยอย่างช่วยไม่ได้ รายการนี้ก็ผ่านรอบแรกมาได้แบบเจียนอยู่เจียนไปเกือบจะโดนฮังการีเขี่ยตกรอบ สุดท้ายเข้ารอบมาได้ก็ไปไม่รอดเมื่อโดนอังกฤษล้างแค้นได้สำเร็จหลังจากที่แพ้เยอรมันในรอบน็อคเอาท์ของรายการใหญ่มาตลอดหลังจากปี 1966 เป็นต้นมา

สรุป - งานเลี้ยงอำลาสุดกร่อย
เม่าคัทลอส

อันดับ 16 เวลส์
ผลงาน : (รอบแรก) เสมอสวิตเซอร์แลนด์ 1-1 ชนะตุรกี 2-0 แพ้อิตาลี 0-1 (รอบสอง) แพ้เดนมาร์ก 0-4 ได้ 4 แต้ม ประตูได้เสีย 3-6

เวลส์ ทีมม้ามืดจากยูโรคราวก่อน แต่มาคราวนี้เห็นได้ชัดเจนว่าความหวังสูงสุดของทีมอย่างเบลที่ประสบปัญหาในการเล่นระดับสโมสรช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ฟอร์มตกไปแบบน่าใจหายแทบไม่สามารถช่วยทีมได้เลย แม้ว่ารอบแรกจะดูเหมือนผลงานยังดี แต่พอมาถึงรอบสองก็ต้องตกรอบไปแบบไม่ได้ลุ้นไม่มีหืออืออะไรเลย

สรุป - ครั้งที่แล้วคือความฝันอันงดงาม แต่ครั้งนี้ก็คือการตื่นมาพบความจริง
เพี้ยนฝันดี
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่