รีวิว โรงเรียนช่องฟ้าซินเซิงฯ ม.ปลาย

สวัสดีครับ ผมเองพึ่งเรียนจบจากโรงเรียนนี้มาในสายวิทย์คณิต วันนี้อยากจะมาแชร์ประสบการณ์ที่โรงเรียนนี้กันครับ
google map >>> https://goo.gl/maps/HpGEQbwLC4gu5QgD9 <<<

สภาพแวดล้อม
ในแต่ละห้องจะมีนักเรียนประมาณ33-40คน ถือว่าไม่ได้เยอะมาก ณ ตอนนี้มีสายวิทย์-คณิต , ศิลป์-จีน , ห้องสองภาษาไทย-จีนใครที่เข้าห้องสองภาษาได้ถือว่าสุดยอดครับ พอจบม.ปลายปุ๋ป ทั้งห้องสอบHSK5ผ่านกันหมด(มีHSK1-6) ขอทุนเรียนไปที่ประเทศจีนได้เลยมีตั้งแต่ทุน50%-ทุนให้ปล่าว ทุกๆปีจะมีนักเรียนสอบทุนไปได้เยอะพอควรครับ ทั้งต่อป.ตรีที่จีน หรือ ทุนม.ปลายที่จีน

วิชาการ

ห้องสองภาษา ไทย-จีน >ค่าเทอม36,000 ปี2564<
ตามข้างบนเลย ถือว่าเป็นชื่อเสียงของโรงเรียนเลยก็ว่าได้ ท้ังห้องมีประมาณ20-30คน แต่ม.3สอบHSK5ผ่านทุกคน คะแนนสูงๆทั้งนั้น
(HSK5เป็นระดับการสอบเทียบเท่าการสอบN2ของภาษาญี่ปุ่นและเทียบเท่าระดับB2ของภาษาอังกฤษ) มีโอกาสสูงมากๆในการที่จะไปต่อมหาลัยที่จีนหรือมหาวิทยลัยชั้นนำของไทย แต่ค่าเทอมก็จะแพงกว่าห้องปกติอยู่สองเท่าและสอบเข้ายากหน่อย ป.1ติดไม่ถึง10คน จาก150คน
ม.1ไม่ต้องพูดถึง ติดจริงๆ2-3คนเท่านั้นแหละ โดยรวมแล้วถ้าจะส่งลูกหลานเรียนโรงเรียนนี้ อยากให้เข้าห้องสองภาษาเพราะโดยรวมแล้วเด็กจบออกมา70-80% จะติดคณะดีๆมหาลัยดังๆทั้งนั้น จะสวนทางกับห้องเรียนปกติที่จะติดคณะดีๆมหาลัยดังๆไม่ถึง40% 

สายวิทย์คณิต >ค่าเทอม17,000 ปี2564<
หลักๆจะอยู่ที่ตรงหัวข้อนี้ ณ ตอนนี้มีห้องเรียนอยู่สองห้อง ห้อง1และ2 สองห้องนี้จะเรียนเหมือนกันแต่บรรยากาศการเรียนค่อนข้างแตกต่างกันพอสมควรโดยรวมแล้วห้อง1จะเรียนเครียดกว่าและมีคนเก่งเยอะกว่าประมาณนึงเลย ห้องละประมาณ40คน ค่อนข้างอบอุ่นครับรู้จักกันหมด
คุณครูก็น่ารักครับนิสัยดี มาเรื่องของการสอน การสอนของที่นี่ถือว่าอยู่ในระดับกลางๆ ทางโรงเรียนส่วนใหญ่จะจ้างติวเตอร์ตามเมืองเชียงใหม่มาสอนเป็นครูประจำ หรือไม่ก็จ้างครูที่เกษียณจากโรงเรียนเก่าซึ่งถ้าเอาตามตรงต้องขอบอกว่าครูที่เป็นติวเตอร์จะสอนได้ตรงแนวข้อสอบมากทีสุด แต่ว่าโรงเรียนจะไม่ได้บังครับให้ครูว่าให้สอนแบบไหน ทำให้เกิดการสอนไม่ค่อยตรงข้อสอบอาจเป็นเพราะเด็กไม่มีความตั้งใจในการเรียนทำให้ครูก็เริ่มหย่อนการสอน วิชาการเลยเข้มเข้นน้อยลงไปมาก แต่ถึงวิชาการจะด้อยลงไปแต่กลับไม่มีการแก้ไขปรับปรุงจากทางโรงเรียนเลยเพราะการจะตัดสินใจทำอะไรนั้นขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่เพียงไม่กี่คน(แต่ละคนไม่น่าพูดด้วยซักคน) มันสอนไม่ดีถึงขนาดที่ว่าครั้งนึงเด็กสายวิทย์ม.5ทุกห้องเคยประท้วงมาแล้วรอบนึงจนครูต้องลาออกเองหลังจากนั้นก็ได้ครูที่มีคุณภาพเข้ามาสอนแทน(แค่1วิชา) แต่ปัญหาคือครูหลายๆวิชาสอนไม่ค่อยดี มีสอนดีๆตรงแนวข้อสอบ9วิชาสามัญ
มีเพียงประมาณ2-3วิชาเท่านั้น จาก7วิชาหลักของสายวิทย์ที่ต้องสอบ
(ไม่ได้สอนดีถึงขนาดสอบวิชาPAT1-2ได้ดีขนาดนั้น แต่PAT3เนื้อหาม.6นี่คะแนนน่าจะสูงอยู่ อาจารย์สอนงั้นๆแต่การบ้าน+ข้อสอบ ยากมาก)
ส่วนภาษาจีนของสายวิทย์คืออ่อนด๋อยมาก เพราะตอนม.ต้นรับนักเรียนต่างโรงเรียนที่ไม่มีพื้นฐานภาษาจีนเลยประมาณ50คน พอถึงม.ปลายมันคละห้องกันเลยสอนให้ลึกๆไม่ได้ เนื้อหาคือสอนถึงHSK3เอง เด็กเก่าคือเซ็ง.... แต่เด็กที่เรียนจีนมาตั้งแต่ประถม(ห้องธรรมดา)ส่วนใหญ่จะสอบHSK4ผ่านกัน
HSK5 ผ่านประมาณ10คน พอๆกับสายศิลป์

เหล่านี้เลยทำให้ทำให้เด็กส่วนใหญ่ออกไปเรียนพิเศษกันมากขึ้นเพราะสอนได้ตรงแนวข้อสอบเข้ามหาลัยมากกว่า บางทีเด็กก็งงว่าทำไมไม่สอนข้อสอบที่จะสอบเข้าไปเลย  ถึงแม้จะมีคำว่าเอกชนค้ำหัวก็ตาม แต่ก็แทบไม่มีการปรับปรุงเลย ถ้าให้เด็กเป็นคนเลือกครูเด็กจะได้สอบติดคณะดีๆโรงเรียนก็มีชื่อเสียง
อะไรประมาณนั้น แต่นั้นก็ไม่ได้เหมารวมครูทั้งหมดนะ

สิทธิพิเศษสำหรับสายวิทย์ คือมีโอกาสเข้าโครงการพัฒนานักเรียนที่มีความสามารถพิเศษทางคณิตศาสตร์ภาคเหนือ เป็นโครงการระยะยาว ม.4-5
ศูนย์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่(Gifted Math CMU.) ที่จะบอกก็คือถ้าเรียนจบไปแล้วมีเกียรติบัตรให้ และตอนยื่นเข้ามหาลัยจะมีผลอย่างมากในการพิจารณา
รับเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ส่วนใหญ่ใครที่เข้าไปเรียน ตอนยื่นพอร์ตก็จะติดคณะที่ดีๆทั้งนั้น ในทุกๆปีโรงเรียนจะส่งนักเรียนประมาณ5คน 
เงื่อนไขหลัก 1.รับนร.ที่มีคะแนนสอบสูงสุด5อันดับแรกของโรงเรียน
เกณฑ์ขั้นต่ำ 1.มีเกรดเฉลี่ยวิชาคณิตศาสตร์ในชั้นม.ต้น3.5+ 2.มีเกรดเฉลี่ยม.ต้น3.5+
ไม่รู้ตอนนี้เงื่อนไขเป็นยังไงบ้างแต่ก็อยากให้ลองสอบเข้าดูนะมันคุ้มจริงๆตอนยื่นผลงานเข้ามหาลัย บางปีอาจส่งเพิ่มเป็น10คน

สายศิลป์ภาษาจีน >ค่าเทอม18,000 ปี2564<
สัปดาห์นึงเรียนภาษาจีน5-6คาบภาษาอังกฤษก็เรียนคาบพอๆกับสายวิทย์แต่จะไม่มีเนื้อหาพวกวิชาเพิ่มเติม คณิต ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ แต่จะเพิ่มภาษาจีน กับภาษาไทยเข้าไปแทนคนสอบชิงทุนไปเรียนที่จีนก็พอมีบ้างทั้งนี้ทั้งนั้นถ้าไม่ใช่ห้องสองภาษา อยากได้จีนมากๆแบบสอบHSK5ผ่านต้องขยันเอาเอง เพราะเป็นห้องธรรมดาเลยต้องขยันด้วยตัวเองมากๆ
(เท่าที่เห็นมาสายศิลป์จีน เฉพาะคนที่สอบHSK5ผ่าน มีพอๆกับสายวิทย์คือ10+++)

คหสต. คนที่เลือกไปเรียนส่วนใหญ่จะเป็นคนขี้เกียจสันหลังยาวไม่เอาไหน เรียนไม่เก่ง แต่คนเก่งๆที่เลือกไปก็มีแต่น้อย
แต่ถ้าเทียบกับสายวิทย์แล้วสมมุติว่าห้องนึงแบ่ง100% สายวิทย์จะแบ่ง เก่ง/ปานกลาง/อ่อน เป็น30/50/20
ถ้าเป็นสายศิลป์ก็จะเป็น 10/40/50 จากที่สัมผัสมาผสมกับสถิติการสอบเข้าคณะที่มีคะแนนสูง เป็นเพียงคหสต.เท่านั้น แต่ละปีก็จะมีสัดส่วนต่างออกไป
(ไม่นับพวกห้องสองภาษา)

พูดตามตรง
ถ้าทำข้อสอบจริงๆ ต้องไปเรียนพิเศษเอา ที่โรงเรียนสอนไม่ได้ซักวิชา นอกนั้นจะเข้าคณะที่การแข่งขันสูง
เช่น แพทย์ สายสุขภาพ วิศวะ8เกียร์เก่า ต้องไปเรียนเสริมพวกกวดวิชา(ออนดีมาน อ.อุ๊ เดอะเบรน แอพพลายฟิสิกส์ ดาหว่อง) เรียนพิเศษตามตัวเมืองเชียงใหม่เอา(ไม่ค่อยแนะนำ เพราะสอนไม่ค่อยดี ไปกวดวิชาจะดีกว่าเยอะมากๆ)
ส่วนน้อยที่จะอ่านแล้วติดคณะที่มีการแข่งขันสูงได้

พวกชมรม
สายวิทย์แนะนำชมรมหุ่นยนต์และอิเล็กทรอนิส์ไปแข่งระดับประเทศทุกปี ม.ปลายประมาณ4-6คน
เรียนชมรมนี้ไปแข่งหุ่นยนต์สองสามรอบ ระดับประเทศ ตอนนี้ไม่ต้องสอบเข้า
ยื่นผลงานเดินเข้าวิศวะคอม,ไฟฟ้า,พระจอมเกล้าได้เลย (สองคณะนี้คะแนนสูงจัดๆ)

เรื่องชื่อเสียงโรงเรียนคงพอได้ขึ้นชื่อว่าเป็นโรงเรียนจีนใหญ่ เป็นศูนย์สอบภาษาจีน1ใน3ของเชียงใหม่ แต่คนที่จบไปสอบเข้าคณะการแข่งขันสูงมีค่อนข้างน้อย(20%) ติดหมอ1-2คนทุก2ปี(จากนร.สายวิทย์70คน) สายสุขภาพ5-8คน/ปี วิศวะ(8เกียร์เก่า)7-12คน/ปี ปีที่แล้ว(Dek63)ก็มีคนติดแพทย์ มช.อยู่1คน  ติดนิเทศจุฬา1คน ,ปี62 ก็มีคนติดวิศวะไฟฟ้าลาดกระบังโดยทางมหาลัยรับแค่5คน คะแนนสูงกว่าวิศวะ ภาครวจจุฬาเลยก็ว่าได้ +แพทย์อีก1คน

แต่แค่นี้ก็คงยังวัดอะไรไม่ได้มากทั้งนี้ชึ้นอยู่กับตัวเองด้วยครับว่าจะขยันมากแค่ไหน

ด้านล่างคือรายชื่อนักเรียนชั้นม.6ที่สอบเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ในระบบTCASปี2567 หรือ Dek67



ด้านล่างคือรายชื่อนักเรียนชั้นม.6ที่สอบเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ในระบบTCASปี2566 หรือ Dek66



ด้านล่างคือรายชื่อนักเรียนชั้นม.6ที่สอบเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ในระบบTCASปี2564 หรือ Dek64



ด้านล่างคือรายชื่อนักเรียนชั้นม.6ที่สอบเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ในระบบTCASปี2563 หรือ Dek63


ด้านล่างคือรายชื่อนักเรียนชั้นม.6ที่สอบเข้าศึกษาต่อในระดับอุดมศึกษา ในระบบTCASปี2561 หรือ Dek61 แต่ปีการศึกษาที่จบคือ2560



[img
ผลการจัดอันดับโรงเรียนโดยใช้คะแนนเฉลี่ยจากการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ ขั้นพื้นฐาน ม.6
(คะแนนสูงเป็นอันดับที่136ของประเทศ อันดับที่11ของภาคเหนือและอันดับที่8ของจังหวัดเชียงใหม่)


ความคิดเห็นส่วนตัว

      คิดว่าถ้าจะเรียนห้องปกติ ไม่แนะนำให้มาเรียนที่นี่ โรงเรียนนี้ถ้าเป็นห้องเรียนปกติ ม.1-ม.6 วิชาการของช่วงชั้นดังกล่าวยังค่อนข้างอ่อนไปมากหากเทียบกับโรงเรียนเอกชนอื่นๆ รวมถึงบางโรงเรียนรัฐในตัวเมืองเชียงใหม่ด้วย เพราะเท่าที่สังเกตมานักเรียนที่เรียนมาตั้งแต่อนุบาลจนถึงม.6 มีนักเรียนที่เป็นหัวกระทิอยู่ค่อนข้างมากเลยทีเดียว แต่ว่าโอกาสที่โรงเรียนจะหล่อหลอมเขาให้เก่งวิชาการแบบเข้มข้นเพื่อไปสอบเข้าในคณะที่คะแนนสูงมากๆเลยทำได้ยากมาก เพราะสังคมที่โรงเรียนเองก็ไม่ได้เป็นสังคมที่ขยันมากเท่าที่ควร เลยทำไห้พวกหัวกระทิหรือคนอื่นๆเกิดอุปทานหมู่คล้อยตามไม่ขยันไปด้วย ทำให้พลาดคณะและมหาวิทยาลัยที่คะแนนสูงมากๆ

ข้างบนคือคณะและมหาลัยที่การันตีคุณภาพนักเรียนที่สอบเข้าได้ว่ามีคุณภาพแค่ไหนและการันตีในอนาคตว่าจะมีมาตรฐานชีวิตแบบไหน จากที่ดูมาจะบอกว่ามีส่วนน้อยมากๆที่จะขยันด้วยตัวเองจึงติดคณะที่คะแนนสูงมาก(ประมาณ20%) ดังนั้นเลยอยากให้พิจรณาเรื่องอุปทานหมู่เอาไว้ด้วย
ทั้งนี้นั้งนั้น หากเป็นคนหัวกลางๆ การที่จะติดคณะที่ใช้คะแนนสูงมากๆได้ ส่วนใหญ่ก็ต้องมาจากตัวเองล้วนๆ แต่ส่วนมาก50%ก็จะมาจากคนรอบๆข้างด้วย เพื่อนอ่าน เราก็อยากจะอ่านตามเพื่อนอะไรแบบนี้.
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่