ดวงชะตานี้ผมเคยผูกดวงชะตาขึ้นมาในครั้งแรก ก็คือช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้เอง
ครั้งแรกที่ได้เห็น ดวงดาวที่โคจรในดวงชะตาในขณะที่เจ้าชะตาเกิดในวันนั้น
แค่เห็นแว่บแรกก็รู้สึกตกใจ เพราะมีดวงดาวในดวงชะตาถึง ๔ ดวง ที่ต้องฤกษ์โจโรฤกษ์ในวันที่เจ้าชะตาเกิด
โดยดาวที่ต้องฤกษ์โจโรฤกษ์นั้น กระจายครอบคลุมไปถึง ๗ ราศีใน ๑๒ ราศีในดวงชะตา
ซึ่งสัมพันธ์ในทางทักษากำเนิด ที่สำคัญเกี่ยวกับเครือญาติ วิถีชีวิต ทั้งทำลายความดีงามของชีวิตของเจ้าชะตา
จริงๆแล้วในมุมมองของผม ซึ่งทำงานในแนวทางของการพยากรณ์มาอย่างยาวนาน
เห็นดวงชะตานี้แล้ว ก็ได้แต่เพียงมองแค่ว่า เป็นดวงชะตาที่ชีวิตจะต้องล้มลุกคลุกคลาน
ไม่สามารถที่จะทำการใหญ่ใดๆได้ ไม่ว่าจะในส่วนของวาสนาของตนเอง ทั้งชีวิตคู่ และการงาน ตลอดจนกิจกรรมในทางโลก
เพราะดวงดาวที่สำคัญในเรือนชะตาดังกล่าว ก็ต้องอาถรรพ์ของตำแหน่งโจโรฤกษ์จนหมดสิ้น
ซึ่งปัจจุบันเจ้าชะตา ถือว่ามาได้ไกลจนเกินตัว และเกินกำลังของฤกษ์โจโรที่บังคับในดวงชะตา
และเป็นช่วงที่ดวงดาวที่ส่งผลดีในดวงชะตาบางดวง ส่งผลให้คุณ แต่สุดท้ายโจโรฤกษ์ก็คือโจโรฤกษ์
ซึ่งผมจะได้อธิบายให้ผู้ที่สนใจได้ฟังในทัศนะของโหรฯ เพราะไม่มีใครที่จะแหกฤกษ์ หรือแหวกกฎเกณฑ์
ที่ดวงดาวซึ่งส่งผลร้าย และปลายทางนั้นคืออะไร ซึ่งเจ้าชะตาก็คงจะต้องยอมจำนนกับฤกษ์ร้าย
ที่เจ้าชะตาจะต้องล้มเหลวลงกลางทาง และมีวิถีชีวิตที่พังพิบัติไปกับคำว่า "โจโรฤกษ์"
ที่รอคอยส่งผลร้าย และทำลายวิถีชีวิตของเจ้าชะตาในทุกๆวินาที ที่กำลังจะมาถึงครับ!!
ดวงชะตานี้ผมวางลัคณาของเจ้าชะตาไว้ที่ราศีธนู อันเป็นเรือนศรี ดาวพฤหัส(๕)ซึ่งเป็นดาวตนุลัคณ์จึงส่งผลดีในเบื้องต้นก็คือ
ส่งผลให้เจ้าชะตาดูดีมีเสน่ห์ ดูซื่อสัตย์ เหมือนดูไม่มีพิษมีภัย เพราะดาวตนุลัคณ์นั้นเป็นศรี ซึ่งเป็นทักษาแห่งความดีงามของชีวิต
ยิ่งบวกรับกับราศีธนูซึ่งเป็นเรือนศุภะโลก จึงส่งผลให้เจ้าชะตา มีความเชื่อเรื่องของพระเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ตลอดจนเรื่องของการศาสนา
แต่จุดที่เลวร้ายของเจ้าชะตา ที่จะต้องพลิกผันและโชคร้ายก็คือ ดาวพฤหัส(๕)ซึ่งเป็นดาวตนุลัคณ์(วาสนา) ทั้งเป็นเจ้าเรือนพันธุ(ญาติ) ของเจ้าชะตานั้น
โคจรเข้าสู่เรือนอริในขณะที่ตนเองเกิด ทั้งยังโคจรต้องฤกษ์ที่เสียหาย คือฤกษ์โจโรฤกษ์(อริ,อุปสรรค,ปัญหา)
การที่ดาววาสนาของเจ้าชะตานั้น โคจรเข้าสู่เรือนอริในราศีพฤษภนั้น ความเป็นเรือนอริของราศีพฤษภ ซึ่งมีอาถรรพ์ร้ายอย่างมากเกี่ยวกับ
เรื่องของทรัพย์สินเงินทอง เพราะโดยธรรมดาวคนที่เกิดมาในราศีธนูนั้น ย่อมมีราศีพฤษภซึ่งเรือนการเงินการคลังแห่งภพโลก เป็นเรือนอริของวาสนา
คนที่เกิดมาในลัคณาราศีธนูจึงมีตำหนิส่วนนี้อยู่แล้ว ยิ่งดาวตนุลัคณ์ในขณะที่ตนเกิด โคจรเข้าสู่เรือนราศีพฤษภ
จึงเป็นอาถรรพ์ร้ายให้วาสนาของเจ้าชะตานั้น มีวาสนาที่อาเพศเกี่ยวกับเรื่องของเงินๆทองๆไปทั้งชีวิต
แปลง่ายๆว่า มีดาววาสนาที่เป็นอริในเรื่องของทรัพย์สินเงินทองคู่กับวาสนาไปทั้งชีวิต หรือชีวิตจะต้องวุ่นวายไปกับเรื่องของหนี้สินและการหาทรัพย์นั่นเอง
ยิ่งราศีพฤษภซึ่งเป็นเจ้าเรือนอรินั้น เป็นเรือนอุตสาหะ(งาน)ตามทักษา นอกจากเจ้าชะตาจะต้องมีวิถึชีวิตที่จะต้องล้มลุกคลุกคลาน
ไปกับปัญหาในเรื่องของการเงินแล้ว ยังจะต้องอาเพศในเรื่องของการงานต่างๆ ซึ่งลงทุน หรือทำงานอะไร สุดท้ายก็ไปไม่รอด เจริญรุ่งเรืองยาก
อาถรรพ์ร้ายของดาวพฤหัส(๕)ที่โคจรเป็นอริในดวงชะตา ทั้งต้องฤกษ์โจโรฤกษ์ ยังส่งอาถรรพ์ร้ายไปถึงเครือญาติของตน
ด้วยเหตุที่ว่า ดาวพฤหัส(๕)นั้นครองอยู่สองราศี จึงส่งผลร้ายครอบคลุมไปถึงเรือนพันธุ(ญาติ)ด้วย อาถรรพ์ร้ายของโจโรฤกษ์ที่เป็นอริ
จึงส่งผลไปสู่เครือญาติ หรือแม้แต่การสร้างบ้านของตนเองก็แทบจะมียาก และเมื่อใดที่มีการหยิบยืมทรัพย์สินเงินทอง หรือร่วมงานใดๆกัน
สุดท้ายก็จะไปกันไม่รอด เพราะผลร้ายของโจโรฤกษ์เข้ามาทำลายนั่นเอง
การดูความเลวร้ายของดาวพฤหัส(๕)ซึ่งต้องฤกษ์โจโรฤกษ์นั้น ไม่ใช่ดูแค่เพียงในราศีจักรอย่างเดียว
แต่เมื่อดูให้ลึกลงไป ถึงตำแหน่งบังคับของนวางค์จักร จะเห็นได้ว่าจุดบังคับในทางเสียหายของดาวพฤหัส(๕) ซึ่งต้องฤกษ์โจโรฤกษ์นั้น
ในนวางค์จักรนั้น ดาวพฤหัส(๕)เป็นเกษตรในราศีมีน การเอานวางค์จักรเข้ามาทำนายถึงจุดเบื้องลึกของความเสียหาย
ราศีมีนนั้นถูกจัดว่า เป็นเรือนวินาสน์ของโลก เป็นเรือนแห่งการปิดบังไม่เปิดเผย ทั้งเป็นเรือนที่ดึงให้ผู้คนใช้สติปัญญาที่หมุนวนไปแต่ในทางที่เสื่อม
เป็นเรือนแห่งการเจ้าคิดเจ้าวางแผน ลับหลังเมื่อไม่มีใครเห็นก็มักจะนำพาตนเองเข้าสู่หนทางที่เสื่อม
จัดว่าเป็นลูกนวางค์ที่ส่งผลร้ายให้เจ้าชะตา ซึ่งจะคอยใช้สมองหรือสติปัญญาไปในทิศทางที่ร้ายและเสียหาย
ในลักษณะที่หน้าอย่างหลังอย่าง หรือมือถือสากปากถือศีลกันเลยทีเดียว
และสิ่งที่น่าตกใจยิ่งไปกว่านั้นก็คือ ชื่อเล่นหรือชื่อย่อของเจ้าชะตา ที่คนเรียกหากันทั่วบ้านทั่วเมืองนั้น
ก็เป็นพยัญชนะตัว พ.พาน ซึ่งเป็นพยัญชนะที่เป็นโจโรฤกษ์ในดวงชะตา
ดาวพฤหัส(๕)ซึ่งเป็นดาวแห่งปัญญา ตลอดจนเป็นดาวแห่งคุณงามความดี ศีลธรรม พระเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และข้อกฎหมาย
เมื่อเป็นโจโรฤกษ์ ดาวพฤหัส(๕)จึงย่อมส่งผลเสียหายอย่างร้ายแห่ง หากเกิดคดีความขึ้นโรงขึ้นศาล เป็นความ
ลางร้ายของความพ่ายแพ้ในอนาคต ก็ย่อมที่จะตามมาอย่างแน่นอนครับ
จริงๆแล้วแค่มองแค่ดาวพฤหัส(๕)ในดวงชะตาที่ส่งผลร้าย ก็จัดว่าเจ้าชะตาโชคร้ายมากๆอยู่แล้ว
แต่เมื่อพิจารณาไปที่ดาวพุธ(๔)ซึ่งเป็นดาวอายุ(วิถีชีวิต)ของเจ้าชะตานั้น ก็ยิ่งน่าตกใจ
เพราะเจ้าชะตามีดาวพุธ(๔) ต้องฤกษ์โจโรฤกษ์ ทั้งโคจรไปเป็นเก้ากับวาสนาในราศีสิงห์ เข้าหลักพินธุบาทว์(ดวงแตก)
เคล็ดลับง่ายๆในการดูดาวอายุ(วิถีชีวิต)ก็คือ ในดวงชะตาใดที่มีดาวอายุตามทักษาไปตรงกับเจ้าเรือนปัตนิ(เพศตรงข้าม,คู่ครอง)
ให้สังเกตได้เลยว่า เจ้าชะตามีจิตใจ รวมถึงวิถีชีวิตที่คล้ายหรือผูกพันกับเพศตรงข้าม
เมื่อในดวงชะตานี้ เจ้าชะตาเป็นเพศชายดาวอายุจึงเป็นดาวปัตนิ(ต่างเพศ) เจ้าชะตาจึงมีนิสัยขี้งอนคล้ายผู้หญิง
ประกอบกับ ดาวพุธ(๔)ซึ่งเป็นดาวอายุ(วิถีชิวิต)ของเจ้าชะตานั้น ต้องฤกษ์โจโรฤกษ์ ความสัมพันธ์กับชีวิตคู่จึงต้องแย่ไปตามฤกษ์ที่กำหนด
แต่จุดบังคับของคนที่มีลัคณาอยู่ที่ราศีธนูนั้นก็คือ ดาวเจ้าเรือปัตนิ(คู่) และดาวเจ้าเรือนกัมมะ(งาน)เป็นดาวดวงเดียวกัน
(บุคคลที่เกิดมาในลัคณาราศีธนู จึงมักสื่อหรือทำกิจกรรมทางโลกร่วมกันกับคนรัก ซึ่งลองสังเกตดูก็จะได้เห็นครับ)
ยิ่งดาวพุธ(๔)นั้นครองเรือนกัมมะ(กิจกรรมในทางโลก)ด้วย เจ้าชะตาทำงานอะไรก็ต้องล้มลุกคลุกคลาน ทำๆเลิกๆไปไม่รอดเปลี่ยนงานบ่อย ตั้งตัวยาก
และยิ่งดาวพุธ(๔)ซึ่งเป็นดาวโจโรฤกษ์นั้น เป็นเก้ากับวาสนาพินธุบาทว์(ดวงแตก) ความเลวร้ายของดาวพุธ(๔) จึงเลวร้ายเพิ่มขึ้น
ดวงชะตานี้ดาวพุธ(๔)ของเจ้าชะตานั้น โคจรเป็นเก้ากับวาสนาในเรือนศุภะราศีสิงห์ อันเป็นเรือนแห่งคุณงามความดีและชื่อเสียงเกียรติยศ
เมื่อดาวพุธ(๔)เป็นพินธุบาทว์ เจ้าชะตาจึงวางตัวหรือทำตัวเอง ให้เสื่อมเสียอยู่ตลอดเวลา
ดาวพุธ(๔)เป็นตัวแทนของดาวปาก การสื่อ การพูดการเจรจา แค่เป็นโจโรฤกษ์นั้นภัยก็จะมาเพราะปากของตนเองอยู่แล้ว
ยิ่งเป็นพินธุบาทว์ ทั้งเป็นดาวอายุ(วิถีชีวิต) เมื่อเกิดขึ้นในเรือนศุภะ(ความดีงาม) ดาวพุธ(๔)ดังกล่าวจึงสร้างความวิบัติ
สูญเสียชื่อเสียง สูญเสียคุณงามความดี ดาวอายุจึงต้องมัวหมอง ไปตามความหมายของดาวโจโรฤกษ์ และความเป็นพินธุบาทว์นั่นเอง
เมื่อพิจารณาจากความเลวร้ายของดาวพุธ(๔) ถึงจุดบังคับของดาวพุธ(๔)ที่ในนวางค์จักรนั้นเป็นประ(เสื่อม)ในราศีธนู(เรือนแห่งศาสนา,ศีลธรรม,กฎหมาย)
ชีวิตของเจ้าชะตาจึงหมุนวนในเรื่องของศาสนา วัดวาอาราม พระเจ้าสิ่งศักดิ์สิทธิ์ แต่เมื่อดาวอายุของเจ้าชะตานั้นเป็นพินธุบาทว์ ทั้งโจโรฤกษ์
กิจกรรมต่างๆในทางเรื่องของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ก็จะต้องล้มเหลว การเป็นคดีความก็จะต้องพ่ายแพ้ เพราะดาวพุธ(๔)ในนวางค์จักรนั้นเป็นประส่งผลร้าย
เรียกว่าดวงชะตานี้ เป็นดวงชะตาที่มีวิถีชีวิตที่เป็นพินธุบาทว์ ต้องคุกต้องตาราง จากการกระทำของตนเองเลยล่ะครับ
ในดวงชะตานี้จริงแล้วจัดว่าเป็นดวงชะตาที่ ทุกอย่างถูกบังคับด้วยฤกษ์ร้ายๆไว้อย่างเรียบร้อยแล้ว
เพราะในดวงชะตานี้ ดาวจันทร์(๒)ซึ่งเป็นดาวกาลี,เจ้าเรือนมรณะ,และเป็นดาวโจโรฤกษ์ กดอยู่ในเรือนปุตตะ(เด็ก,ลูกหลาน) ของเจาชะตามาตั้งแต่เกิด
เพราะถ้าสังเกตุดูให้ดีๆ เจ้าชะตานั้นมีดาวอังคาร(๓) ซึ่งเป็นดาวบริวารตามทักษา อีกทั้งยังเป็นเจ้าเรือนปุตตะ(บุตร,หลาน)
เป็นเจ้าเรือนโจโรฤกษ์ในราศีเมษ ดาวอังคาร)๓)ซึ่งเป็นโจโรฤกษ์นั้น ยังเป็นเจ้าเรือนวินาสน์ในราศีพิจิกของเจ้าชะตาอีกด้วย
ซึ่งสิ่งที่น่าตกใจเป็นอย่างยิ่งก็คือ เหตุการณ์เลวร้ายทุกอย่างเกิดขึ้นในวันที่ ๑๑ พฤษภาคม ๒๕๖๓ ซึ่งเป็นช่วงที่ดาวอาทิตย์(๑)โคจรเข้าสู่ราศีเมษ
ซึ่งบังคับสถานที่เกิดเหตุ ตามลักษณะธาตุของราศีเมษ ซึ่งเป็นราศีแห่งแพะ,แกะ ซึ่งเป็นสถานที่แห่งท้องทุ่งหรือป่าเขา
(มีต่อ)
***ดวงชะตาลุงพลแห่งบ้านกกกอก กับอาถรรพ์ดาว ๔ โจโรฤกษ์ในดวงชะตา ในทัศนะของโหรฯ