สำหรับคนเรียนสายคำนวณ อาจเคยได้เรียนเลขเรื่องตรรกศาสตร์มาบ้าง
     กระทั่งคนที่ไม่ชอบวิชาเลข ก็มีโอกาสชอบบทนี้ เพราะมีตัวยึกยือไม่มากนัก และเอามาใช้งานกับคำพูดทั่วๆไปของเราได้
 
    มีเนื้อหานึง ตอนเรียนผมชอบมากเลย เค้าสอนว่า เหตุทำให้เกิดผล  ถ้าไม่มีผลแสดงว่าไม่มีเหตุ
    เช่น ถ้าเกิดฝนตก ถนนเส้นนี้จะเปียก
    ถ้าถนนไม่เปียก แสดงว่าฝนไม่ตก
 
     แต่พอครูถามหลอก ว่าถ้าถนนเปียก แสดงว่าฝนตกใช่ไหม ผมและคนทั้งห้องตอบว่าจริง แต่กลับผิดครับ
     ครูบอกว่า การเห็นผล จะย้อนนำมาสู่เหตุไม่ได้
     เพราะผลนั้นอาจเกิดจากเหตุอื่นก็ได้ ถนนเปียกจากคนเอาน้ำมาราดก็ได้ น้ำท่วมก็ได้ อะไรอีกเยอะแยะ ไม่จำเป็นต้องฝนตก
 
     น่าเอามาใช้ในชีวิตประจำวันนะครับ อาจไม่ตรงหลักวิชาเป๊ะ แต่ผมลองนึกดูเล่นๆ
 
     ..ถ้าคนมีเงินเยอะ เค้าก็ใช้จ่ายเหลือกินเหลือใช้ได้ ซื้อแบรนด์เนมได้ตลอด
     ถ้าเราใช้จ่ายเหลือกินเหลือใช้ไม่ได้ ซื้อแบรนด์เนมบ่อยๆไม่ไหว ก็แสดงว่าเรามีเงินไม่เยอะ
 
     ทว่าบางครั้ง เราก็อาจเจอคำถามหลอกในชีวิตได้เช่นกัน
     เราใช้จ่ายเหลือกินเหลือใช้ได้ ซื้อแบรนด์เนมประจำ แสดงว่าเรามีเงินเยอะ
     ครูคงตามมาตำหนิผมแน่เลย ว่าเอาผลมาย้อนหาเหตุไม่ได้นา
 
     ถ้าเหตุคือเรามีเงินไม่เยอะ ก็คือมีไม่เยอะครับ จะเอาผลคือใช้เงินเยอะๆซื้อของแพงๆไหว มาย้อนสรุปเหตุว่าเรามีเงินเยอะไม่ได้
     เพราะผลออกมาอาจตรงกันข้าม คือยิ่งใช้จ่าย เงินยิ่งน้อยครับ ไปกันใหญ่
     ของที่ใช้จ่ายเหล่านั้น มักแลกกับการไม่มีเงินเก็บ กู้ยืม หรือใช้เงินในอนาคตแทน
 
    ถ้าเรามีเงินน้อย ก็ใช้น้อย วันหน้ายังอาจจะมีโอกาสเพิ่มพูนนะครับ
     ส่วนใครมีเงินเยอะ จะใช้เยอะ ก็ถูกของเขาเช่นกัน
     สบายใจทุกคน ถูกต้องตามหลักตรรกศาสตร์เลยครับ
 
     ปล. มาจากสมการนี้นะครับ p → q ≡ ~q → ~p

https://neopositive.wordpress.com