ปี 1868 สเปนเกิดการปฏิวัติทำให้พระราชินีอิซาเบลลาที่ 2 แห่งสเปนถูกโค่นล้มและแทนที่โดยใครก็ไม่รู้(แค่ตอนนั้น)ทำให้สเปนมองหากษัตริย์ใหม่คือ
เลโอโปลด์ เจ้าชายแห่งโฮเฮนโซลเลิร์นในแคว้นเล็กๆของเยอรมนีตอนใต้ในปัจจุบันเจ้าชายเลโอโปลด์ไม่ได้ต้องการเป็นกษัตริย์แต่อย่างใดแต่ถูกบังคับให้เป็นในปี 1870 โดยอ็อทโท ฟ็อน บิสมาร์ค สมุหนายกของสหพันธรัฐเยอรมนีซึ่งก็คือปรัสเซียมีกษัตริย์เป็นพระเจ้าวิลเฮ็ล์มที่ 1 แห่งราชวงศ์โฮเฮนโซลเลิร์น
แต่ก็มีปัญหาหนึ่งที่ทำให้เจ้าชายเลโอโปลด์ขึ้นสู่บัลลังก์ได้นั่นคือฝรั่งเศสภายใต้การปกครองของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 เพราะการที่ฝรั่งเศสถูกล้อมด้วยชาติที่เป็นมิตรกับเยอรมันทั้งซ้ายและขวาไม่ใช่สิ่งที่ฝรั่งเศสต้องการนัก(อีกรอบ)เพราะฉะนั้นจักรพรรดินโปเลียนจึงไม่ยอมให้เจ้าชายเลโอโปลด์เป็นกษัตริย์และส่งเอกอคราชทูตไปหาพระเจ้าวิลเฮ็ล์มโดยต้องการการตกลง 2 ข้อคือ 1.พระเจ้าวิลเฮ็ล์มจะไม่ให้เจ้าชายเลโอโปลด์เป็นกษัตริย์ของสเปนซึ่งพระเจ้าวิลเฮ็ล์มยอมรับได้ และ 2.พระเจ้าวิลเฮ็ล์มจะไม่ส่งเชื้อพระวงศ์ราชวงศ์โฮเฮนโซลเลิร์นไปปกครองสเปนอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้พระเจ้าวิลเฮ็ล์มจึงปฏิเสธแต่อ็อทโท ฟ็อน บิสมาร์คได้ดัดแปลงเนื้อหาโทรเลขโดยที่รู้จักกันในชื่อ(The Ems Telegram)ทำให้ข้อความที่ส่งเหมือนกับจะสื่อว่าให้ฝรั่งเศสสนใจเรื่องของตัวเองเถอะสำหรับฝรั่งเศสนี่คือการดูถูกขั้นสุดยอดทำให้ฝรั่งเศสเตรียมทัพพร้อมประกาศสงคราม
ไม่นานหลังจากนั้นรัฐสภาฝรั่งเศสได้มีมติให้ประกาศสงครามกับสหพันธรัฐเยอรมนี สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย ได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่สำหรับรัฐเอกราชบาวาเรีย เวือร์ทเทิมแบร์ค และ บาเดิน การที่พระเจ้าวิลเฮ็ล์มถูกปฏิบัติอย่างนี้ถือว่ามากเกินไปและการประกาศสงครามจากจดหมายนั้นก็แสดงให้เห็นว่าฝรั่งเศสคงประกาศสงครามกับใครก็ได้เมื่ออยากทำทำให้รัฐต่างๆร่วมมือกันเป็นพันธมิตรเพื่อปราบฝรั่งเศส
ฝรั่งเศสมีกองทัพที่เต็มไปด้วยทหารที่มีประสบการณ์แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปรัสเซียจะด้อยกว่าความได้เปรียบของปรัสเซียมาจากแม่ทัพที่มีความสามารถอย่างเฮ็ลมูท ฟ็อน ม็อลท์เคอ ผสมกับการใช้รถไฟได้ยอดเยี่ยมทำให้ปรัสเซียส่งทหารมาสนับสนุนได้มากกว่าและเร็วกว่าฝรั่งเศสปรัสเซียได้ชัยชนะครั้งแรกที่สมรภูมิวิสเซมเบิร์กในวันที่ 4 สิงหาคมและในช่วงเวลา 1 เดือนหลังจากนั้นจักรพรรดินโปเลียนก็แพ้ศึกที่สมรภูมิซีดานทำให้ถูกจับตัวและละลายไปทั้งกองทัพทำให้เกิดการปฏิวัติและเปลี่ยนจากจักรวรรดิเป็นสาธารณรัฐเพราะนี่คือฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 และก็เป็นสิ่งเดียวที่ฝรั่งเศสทำเป็นจากนั้นกองทัพปรัสเซียก็ได้บุกปารีสจนผู้นำฝรั่งเศสคนใหม่อาดอลฟ์ ตีแยร์ ได้เสนอการสงบศึกกับปรัสเซียซึ่งในตอนนั้นก็ไม่ใช่ปรัสเซียอีกต่อไปแล้วเพราะในเดือนมกราคม 1871 กองทัพพันธมิตรได้สถาปนาจักรวรรดิเยอรมันสัญญาสงบศึกได้เกิดขึ้นในกุมภาพันธ์และได้ลงนามในสนธิสัญญาแฟรงเฟิร์ตในเดือนพฤษภาคม 1871
สนธิสัญญาฉบับนี้ส่งผลให้เยอรมันยึดพื้นที่บางส่วนของฝรั่งเศสจนกว่าจะจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามจนหมด ยอมรับการมีอยู่ของจักรวรรดิเยอรมันและเยอรมันจะยึดอาลซัส-ลอแรน สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย ได้ส่งผลกระทบอย่างมากในประวัติศาสตร์โลกเพราะทำให้เกิดการรวมชาติเยอรมันซึ่งเป็นขั้วอำนาจใหม่ในยุโรป การยึดอาลซัส-ลอแรนจะเป็นประเด็นในสภาฝรั่งเศสไปอีก 40 ปี
*ถ้ามีเวลาจะทำประวัติการรวมชาติรอบที่ 2 ในปี 1990 ครับ*
*เผื่อมีคนสนใจว่าข้อความที่ถูกดัดแปลงคืออะไรผมจะยกมาให้*
ของจริง:
ท่านเบเนดิกส์มาทักข้าพเจ้าขณะเดินเล่นและยื่นข้อเสนอให้ข้าพเจ้า, มันดูสำคัญมาก, มากจนข้าพเจ้าต้องส่งโทรเลขตอบกลับโดยทันที, ข้าพเจ้าจะไม่ส่งเชื้อพระวงศ์โฮเฮนโซลเลิร์นไปเป็นรัชทายาทองค์ใหม่อย่างแน่นอน
แต่ข้าพเจ้าขอปฏิเสธข้อเสนอที่จะให้สัญญาว่าจะไม่มีวันส่งเชื้อพระวงศ์โฮเฮนโซลเลิร์นตลอดไป ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว, ข้าพเจ้าตอบกลับท่านทูตว่าข้าพเจ้ายังไม่ได้รับข่าวสารฉบับนี้เพราะให้ท่านทูตนำสารนี้ไปปารีสกับมาดริดจะดีกว่า
ข้าพเจ้าและองค์มนตรีตัดสินใจว่าจะปฏิเสธข้อเสนอนี้และให้บอกผู้ช่วยท่านทูตว่าข้าพเจ้าได้รับการยืนยันจากเลโอโปลด์และจากสารที่ท่านเบเนดิกส์ได้นำมาส่งนั้นไปถึงปารีสแล้วและไม่ได้ติดต่อท่านทูตแล้วหลังจากนั้น
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ, ข้อเสนอนี้ได้รับการปฏิเสธก็จะถูกส่งมาในโทรเลขด้วย
ข้อความที่ถูกดัดแปลง:
หลังจากข่าวการสละราชสมบัติของเจ้าชายแห่งโฮเฮนโซลเลิร์นได้ถูกส่งไปยังรัฐบาลจักรวรรดิฝรั่งเศสโดยรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรสเปน ข้อเสนอทางโทรเลขของทูตของฝรั่งเศสต้องการให้ล้นเกล้าพระเจ้าวิลเฮ็ล์มส่งโทรเลขไปยังปารีสล้นเกล้าพระเจ้าวิลเฮ็ล์มจำเป็นต้องเสียเวลาตอบกลับข้อเสนอว่าเชื้อพระวงศ์แห่งโฮเฮนโซลเลิร์นจะไม่ขึ้นเป็นรัชทายาท
ล้นเกล้าพระเจ้าวิลเฮ็ล์มปฏิเสธข้อตกลงและปฏิเสธที่จะพบหน้าทูตและจะไม่พบอีกต่อไปจดหมายฉบับนี้ถูกพิมพ์โดยผู้ช่วยของล้นเกล้าพระเจ้าวิลเฮ็ล์มและหวังว่าจะไม่ได้ยินการตอบกลับอีกแล้ว
รวมชาติเยอรมัน 1871
เลโอโปลด์ เจ้าชายแห่งโฮเฮนโซลเลิร์นในแคว้นเล็กๆของเยอรมนีตอนใต้ในปัจจุบันเจ้าชายเลโอโปลด์ไม่ได้ต้องการเป็นกษัตริย์แต่อย่างใดแต่ถูกบังคับให้เป็นในปี 1870 โดยอ็อทโท ฟ็อน บิสมาร์ค สมุหนายกของสหพันธรัฐเยอรมนีซึ่งก็คือปรัสเซียมีกษัตริย์เป็นพระเจ้าวิลเฮ็ล์มที่ 1 แห่งราชวงศ์โฮเฮนโซลเลิร์น
แต่ก็มีปัญหาหนึ่งที่ทำให้เจ้าชายเลโอโปลด์ขึ้นสู่บัลลังก์ได้นั่นคือฝรั่งเศสภายใต้การปกครองของจักรพรรดินโปเลียนที่ 3 เพราะการที่ฝรั่งเศสถูกล้อมด้วยชาติที่เป็นมิตรกับเยอรมันทั้งซ้ายและขวาไม่ใช่สิ่งที่ฝรั่งเศสต้องการนัก(อีกรอบ)เพราะฉะนั้นจักรพรรดินโปเลียนจึงไม่ยอมให้เจ้าชายเลโอโปลด์เป็นกษัตริย์และส่งเอกอคราชทูตไปหาพระเจ้าวิลเฮ็ล์มโดยต้องการการตกลง 2 ข้อคือ 1.พระเจ้าวิลเฮ็ล์มจะไม่ให้เจ้าชายเลโอโปลด์เป็นกษัตริย์ของสเปนซึ่งพระเจ้าวิลเฮ็ล์มยอมรับได้ และ 2.พระเจ้าวิลเฮ็ล์มจะไม่ส่งเชื้อพระวงศ์ราชวงศ์โฮเฮนโซลเลิร์นไปปกครองสเปนอีก ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมรับไม่ได้พระเจ้าวิลเฮ็ล์มจึงปฏิเสธแต่อ็อทโท ฟ็อน บิสมาร์คได้ดัดแปลงเนื้อหาโทรเลขโดยที่รู้จักกันในชื่อ(The Ems Telegram)ทำให้ข้อความที่ส่งเหมือนกับจะสื่อว่าให้ฝรั่งเศสสนใจเรื่องของตัวเองเถอะสำหรับฝรั่งเศสนี่คือการดูถูกขั้นสุดยอดทำให้ฝรั่งเศสเตรียมทัพพร้อมประกาศสงคราม
ไม่นานหลังจากนั้นรัฐสภาฝรั่งเศสได้มีมติให้ประกาศสงครามกับสหพันธรัฐเยอรมนี สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย ได้เริ่มขึ้นแล้ว แต่สำหรับรัฐเอกราชบาวาเรีย เวือร์ทเทิมแบร์ค และ บาเดิน การที่พระเจ้าวิลเฮ็ล์มถูกปฏิบัติอย่างนี้ถือว่ามากเกินไปและการประกาศสงครามจากจดหมายนั้นก็แสดงให้เห็นว่าฝรั่งเศสคงประกาศสงครามกับใครก็ได้เมื่ออยากทำทำให้รัฐต่างๆร่วมมือกันเป็นพันธมิตรเพื่อปราบฝรั่งเศส
ฝรั่งเศสมีกองทัพที่เต็มไปด้วยทหารที่มีประสบการณ์แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าปรัสเซียจะด้อยกว่าความได้เปรียบของปรัสเซียมาจากแม่ทัพที่มีความสามารถอย่างเฮ็ลมูท ฟ็อน ม็อลท์เคอ ผสมกับการใช้รถไฟได้ยอดเยี่ยมทำให้ปรัสเซียส่งทหารมาสนับสนุนได้มากกว่าและเร็วกว่าฝรั่งเศสปรัสเซียได้ชัยชนะครั้งแรกที่สมรภูมิวิสเซมเบิร์กในวันที่ 4 สิงหาคมและในช่วงเวลา 1 เดือนหลังจากนั้นจักรพรรดินโปเลียนก็แพ้ศึกที่สมรภูมิซีดานทำให้ถูกจับตัวและละลายไปทั้งกองทัพทำให้เกิดการปฏิวัติและเปลี่ยนจากจักรวรรดิเป็นสาธารณรัฐเพราะนี่คือฝรั่งเศสในศตวรรษที่ 19 และก็เป็นสิ่งเดียวที่ฝรั่งเศสทำเป็นจากนั้นกองทัพปรัสเซียก็ได้บุกปารีสจนผู้นำฝรั่งเศสคนใหม่อาดอลฟ์ ตีแยร์ ได้เสนอการสงบศึกกับปรัสเซียซึ่งในตอนนั้นก็ไม่ใช่ปรัสเซียอีกต่อไปแล้วเพราะในเดือนมกราคม 1871 กองทัพพันธมิตรได้สถาปนาจักรวรรดิเยอรมันสัญญาสงบศึกได้เกิดขึ้นในกุมภาพันธ์และได้ลงนามในสนธิสัญญาแฟรงเฟิร์ตในเดือนพฤษภาคม 1871
สนธิสัญญาฉบับนี้ส่งผลให้เยอรมันยึดพื้นที่บางส่วนของฝรั่งเศสจนกว่าจะจ่ายค่าปฏิกรรมสงครามจนหมด ยอมรับการมีอยู่ของจักรวรรดิเยอรมันและเยอรมันจะยึดอาลซัส-ลอแรน สงครามฝรั่งเศส-ปรัสเซีย ได้ส่งผลกระทบอย่างมากในประวัติศาสตร์โลกเพราะทำให้เกิดการรวมชาติเยอรมันซึ่งเป็นขั้วอำนาจใหม่ในยุโรป การยึดอาลซัส-ลอแรนจะเป็นประเด็นในสภาฝรั่งเศสไปอีก 40 ปี
*ถ้ามีเวลาจะทำประวัติการรวมชาติรอบที่ 2 ในปี 1990 ครับ*
*เผื่อมีคนสนใจว่าข้อความที่ถูกดัดแปลงคืออะไรผมจะยกมาให้*
ของจริง:
ท่านเบเนดิกส์มาทักข้าพเจ้าขณะเดินเล่นและยื่นข้อเสนอให้ข้าพเจ้า, มันดูสำคัญมาก, มากจนข้าพเจ้าต้องส่งโทรเลขตอบกลับโดยทันที, ข้าพเจ้าจะไม่ส่งเชื้อพระวงศ์โฮเฮนโซลเลิร์นไปเป็นรัชทายาทองค์ใหม่อย่างแน่นอน
แต่ข้าพเจ้าขอปฏิเสธข้อเสนอที่จะให้สัญญาว่าจะไม่มีวันส่งเชื้อพระวงศ์โฮเฮนโซลเลิร์นตลอดไป ซึ่งโดยธรรมชาติแล้ว, ข้าพเจ้าตอบกลับท่านทูตว่าข้าพเจ้ายังไม่ได้รับข่าวสารฉบับนี้เพราะให้ท่านทูตนำสารนี้ไปปารีสกับมาดริดจะดีกว่า
ข้าพเจ้าและองค์มนตรีตัดสินใจว่าจะปฏิเสธข้อเสนอนี้และให้บอกผู้ช่วยท่านทูตว่าข้าพเจ้าได้รับการยืนยันจากเลโอโปลด์และจากสารที่ท่านเบเนดิกส์ได้นำมาส่งนั้นไปถึงปารีสแล้วและไม่ได้ติดต่อท่านทูตแล้วหลังจากนั้น
ด้วยเกล้าด้วยกระหม่อม ขอเดชะ, ข้อเสนอนี้ได้รับการปฏิเสธก็จะถูกส่งมาในโทรเลขด้วย
ข้อความที่ถูกดัดแปลง:
หลังจากข่าวการสละราชสมบัติของเจ้าชายแห่งโฮเฮนโซลเลิร์นได้ถูกส่งไปยังรัฐบาลจักรวรรดิฝรั่งเศสโดยรัฐบาลแห่งราชอาณาจักรสเปน ข้อเสนอทางโทรเลขของทูตของฝรั่งเศสต้องการให้ล้นเกล้าพระเจ้าวิลเฮ็ล์มส่งโทรเลขไปยังปารีสล้นเกล้าพระเจ้าวิลเฮ็ล์มจำเป็นต้องเสียเวลาตอบกลับข้อเสนอว่าเชื้อพระวงศ์แห่งโฮเฮนโซลเลิร์นจะไม่ขึ้นเป็นรัชทายาท
ล้นเกล้าพระเจ้าวิลเฮ็ล์มปฏิเสธข้อตกลงและปฏิเสธที่จะพบหน้าทูตและจะไม่พบอีกต่อไปจดหมายฉบับนี้ถูกพิมพ์โดยผู้ช่วยของล้นเกล้าพระเจ้าวิลเฮ็ล์มและหวังว่าจะไม่ได้ยินการตอบกลับอีกแล้ว