สวัสดีค่ะ ช่วงนี้ว่างเนื่องจากโดนกักตัวเพราะไปหาหมอที่ศิริราชมา เลยมาเขียนรีวิวการรักษาตัวดีกว่าเนื่องจากหาข้อมูลการรักษาตาโปนจากไทรอยด์ แต่หาได้น้อยมาก เลยเอาเคสตัวเองมาเขียนเพื่อป็นประโยชน์สำหรับคนที่กำลังเป็นอยู่นะคะ โดย จขก จะแบ่งเป็น 2 พาร์ทนะคะ คือการรักษาภาวะไทรอย์เป็นพิษ จะเล่าแบบคร่าวๆนะคะ รักษาหายและผ่านมาหลายปีมากแล้ว และอีกพาร์ทก็คือ การรักษาตาโปนเนื่องจากไทรอยด์ อยู่ในขั้นตอนดำเนินการรักษา
มาเริ่มกันที่ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
รู้ได้อย่างไรว่าเป็นไทรอยด์ ย้อนกลับไปเมื่อ 16 ปีที่แล้ว ขณะเป็นนักเรียนม.ปลาย เพิ่งย้ายไปเป็นนักเรียนโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง อยู่ได้ซักประมาณ 1 เดือน เริ่มรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้น ก็คิดว่าเออสงสัยอยู่สบายเกินเลยอ้วน แล้วก็ตามมาด้วยอาการเหนื่อยง่าย เหงื่อออกเยอะ มือสั่น ก็คิดว่าไม่เป็นอะไร พออยู่ซักพักเพื่อนๆเริ่มทักว่าทำไมต้องทำตาโต เราก็คิดว่าราปกตินะ ไม่ได้ทำไรตาโต เลยเดินไปดูกระจก แม่เจ้า ตกใจตัวเอง ตาโตข้างเดียว โตแบบตาจะหลุดออกมาจากเบ้า อารมณ์แบบคนตกใจแล้วตาโต ก็โทรหาที่บ้าน หลังจากนั้นที่บ้านก็พาไปหาหมอตาที่คลินิค เมื่อหมอตาเห็นจึงทำการตรวจตาเบื้องต้น และสอบถามอาการต่างๆ จึงได้ทำการส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจภาวะไทรอยด์ เป็นครั้งแรกที่ได้ยินชื่อโรคนี้
ปล.เราป็นไทรอยด์แบบอ้วน
เริ่มรักษาไทรอยด์โรงพยาบาลที่ 1 เมื่อโดนส่งตัวมาตรวจไทรอยด์ หมอก็สอบถามอาการเบื้องต้น ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น และได้ส่งเจาะเลือดไป 1 ข็มโตๆ และอีก 7 วันต้องมาพบหมออีกครั้ง เมื่อครบ 7 วัน ผลเลือดออก ปรากฏว่าราป็นภาวะไทรอยด์เป็นพิษ คือต่อมไทรอยด์ทำงานมากกว่าปกติทำให้ฮอร์โมนไทรอยด์สูง และมีภาวะตาโปน (ตอนนั้นเสียใจมากที่ตาผิดปกติ เรื่องตาเดี๋ยวไปใส่รายละเอียดพาร์ท 2 กัน) หมอจึงจ่ายยามา 2 ชนิด จำไม่ได้ว่ากินครั้งละกี่เม็ด รักษาที่โรงพยาบาลนี้ 1 ปีเต็ม หมอเจาะเลือดแค่ครั้งเดียว และกินยามาเรื่อยๆ จนวันนึงที่โรงเรียนปิดเทอม เราเกิดอุบัติเหตุ ต้องไปคลินิคแถวบ้านเลยนำยาที่กินประจำไปด้วย ตอนหมอตรวจหมอก็ถามว่ากินยาอะไรอยู่บ้าง เลยส่งให้หมอดู หมอก็บอกว่ารู้มั้ยว่ายา 2 ชนิดนี้กินแล้วมันหักล้างกันหมด เท่ากับว่าที่กินอยู่ 1 ปีเต็มไม่ช่วยไรเลย สรุปโรงพยาบาลแรกเลี้ยงไข้ เราจึงตัดสินใจย้ายโรงพยาบาล
ปล.โรงพยาบาลเอกชน
การรักษาตาโปนจากไทรอยด์ และการรักษาภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
มาเริ่มกันที่ภาวะไทรอยด์เป็นพิษ
รู้ได้อย่างไรว่าเป็นไทรอยด์ ย้อนกลับไปเมื่อ 16 ปีที่แล้ว ขณะเป็นนักเรียนม.ปลาย เพิ่งย้ายไปเป็นนักเรียนโรงเรียนประจำแห่งหนึ่ง อยู่ได้ซักประมาณ 1 เดือน เริ่มรู้สึกว่าตัวเองอ้วนขึ้น ก็คิดว่าเออสงสัยอยู่สบายเกินเลยอ้วน แล้วก็ตามมาด้วยอาการเหนื่อยง่าย เหงื่อออกเยอะ มือสั่น ก็คิดว่าไม่เป็นอะไร พออยู่ซักพักเพื่อนๆเริ่มทักว่าทำไมต้องทำตาโต เราก็คิดว่าราปกตินะ ไม่ได้ทำไรตาโต เลยเดินไปดูกระจก แม่เจ้า ตกใจตัวเอง ตาโตข้างเดียว โตแบบตาจะหลุดออกมาจากเบ้า อารมณ์แบบคนตกใจแล้วตาโต ก็โทรหาที่บ้าน หลังจากนั้นที่บ้านก็พาไปหาหมอตาที่คลินิค เมื่อหมอตาเห็นจึงทำการตรวจตาเบื้องต้น และสอบถามอาการต่างๆ จึงได้ทำการส่งตัวไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจภาวะไทรอยด์ เป็นครั้งแรกที่ได้ยินชื่อโรคนี้
ปล.เราป็นไทรอยด์แบบอ้วน
เริ่มรักษาไทรอยด์โรงพยาบาลที่ 1 เมื่อโดนส่งตัวมาตรวจไทรอยด์ หมอก็สอบถามอาการเบื้องต้น ตามที่ได้กล่าวมาข้างต้น และได้ส่งเจาะเลือดไป 1 ข็มโตๆ และอีก 7 วันต้องมาพบหมออีกครั้ง เมื่อครบ 7 วัน ผลเลือดออก ปรากฏว่าราป็นภาวะไทรอยด์เป็นพิษ คือต่อมไทรอยด์ทำงานมากกว่าปกติทำให้ฮอร์โมนไทรอยด์สูง และมีภาวะตาโปน (ตอนนั้นเสียใจมากที่ตาผิดปกติ เรื่องตาเดี๋ยวไปใส่รายละเอียดพาร์ท 2 กัน) หมอจึงจ่ายยามา 2 ชนิด จำไม่ได้ว่ากินครั้งละกี่เม็ด รักษาที่โรงพยาบาลนี้ 1 ปีเต็ม หมอเจาะเลือดแค่ครั้งเดียว และกินยามาเรื่อยๆ จนวันนึงที่โรงเรียนปิดเทอม เราเกิดอุบัติเหตุ ต้องไปคลินิคแถวบ้านเลยนำยาที่กินประจำไปด้วย ตอนหมอตรวจหมอก็ถามว่ากินยาอะไรอยู่บ้าง เลยส่งให้หมอดู หมอก็บอกว่ารู้มั้ยว่ายา 2 ชนิดนี้กินแล้วมันหักล้างกันหมด เท่ากับว่าที่กินอยู่ 1 ปีเต็มไม่ช่วยไรเลย สรุปโรงพยาบาลแรกเลี้ยงไข้ เราจึงตัดสินใจย้ายโรงพยาบาล
ปล.โรงพยาบาลเอกชน