ภารโรง รร.ดังโคราช ฉีดวัคซีน 14 วัน ป่วย เข้า รพ. 5 วัน ก่อนดับเซ่นโควิด
https://www.khaosod.co.th/covid-19/news_6475295
 
 
นักการภารโรง ร.ร.มัธยมสังกัด อบจ.โคราช ฉีดวัคซีน 14 วัน ป่วยเข้ารพ. 5 วัน ก่อนเสียชีวิตด้วยโรคหอบหืด-ปอดอักเสบรุนแรง เซ่นโควิดรายที่ 16
 
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 26 มิ.ย.64 นายแพทย์นรินทร์รัชต์ พิชญคามินทร์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) นครราชสีมา ชี้แจงสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ในพื้นที่ 32 อำเภอ ของ จ.นครราชสีมา ว่า พบผู้ป่วยระลอกใหม่ 19 ราย ยอดสะสม 1,114 ราย รักษาหาย 952 ราย ยังรักษาตัวอยู่ 146 ราย และเสียชีวิต 16 ราย
 
ทั้งนี้ผู้ติดเชื้อรายใหม่ทั้งหมดมีประวัติสัมผัสกับผู้ป่วยและเดินทางมาจากพื้นที่เสี่ยง อยู่ในพื้นที่ อ.เมือง 9 ราย อ.โชคชัย 4 ราย อ.ด่านขุนทด 3 ราย อ.ครบุรี 1 ราย อ.ปากช่อง 1 ราย และ อ.โนนสูง 1 ราย รวมยอดสะสม 1,036 ราย รักษาหาย 923 ราย ยังรักษาอยู่ 99 ราย และเสียชีวิต 15 ราย
 
ขอแสดงความเสียใจกับญาติผู้ป่วยรายที่ 1,045 ซึ่งเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 16 ของ จ.นครราชสีมา เป็นชายอายุ 45 ปี นักการภารโรงของโรงเรียนมะค่าวิทยา ตั้งอยู่ ต.มะค่า อ.โนนสูง ซึ่งเป็นโรงเรียนมัธยมศึกษาในสังกัดขององค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) นครราชสีมา
 
โดยไทม์ไลน์ วันที่ 9 มิย. เวลา 08.00 น. เดินทางไปฉีดวัคซีน “ซิโนแวค” ที่โรงพยาบาลโนนสูงกับภรรยา 
ช่วงวันที่ 10-15 มิย. ผู้ป่วยกับกลุ่มเพื่อน (ทั้งหมดเป็นผู้ป่วยคลัสเตอร์ตำบลพลสงคราม รวมผู้ป่วยสะสม 20 ราย ) ได้นัดพบปะเพื่อร่วมกิจกรรมคลายเครียด 
วันที่ 15 มิย. มีอาการเหนื่อย อ่อนเพลีย ไปรักษาที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล (รพ.สต.) มะค่า 
วันที่ 19 มิย.อาการไม่ดีขึ้นไปตรวจหาเชื้อที่ รพ.โนนสูง 
วันที่ 20 มิย.ผลยืนยันติดเชื้อเข้ารับการรักษาที่ รพ.โนนสูง แต่อาการทรุดหนักได้เคลื่อนย้ายมารักษาที่ รพ.มหาราช นครราชสีมา 
และเสียชีวิตวันที่ 25 มิ.ย. ด้วยประวัติเป็นโรคหอบหืดและอาการปอดอักเสบรุนแรง เมื่อวานนี้
 

---

 
ผู้บริหารธรรมศาสตร์ ถกเครียด ตัดสินใจเปิด รพ.สนาม ต่อ หลังกทม.วิกฤต
https://www.khaosod.co.th/update-news/news_6475403
 
ผู้บริหารธรรมศาสตร์ ถกเครียด ตัดสินใจเปิด รพ.สนาม ต่อ หลังถูกร้องขอจากเพื่อนร่วมอาชีพ เนื่องจากกทม.วิกฤต ผู้ป่วยหนักล้น เตียงไม่พอ
   
26 มิ.ย. 2564 – ผศ.นพ.ฉัตรชัย มิ่งมาลัยรักษ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสนาม​ธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความพร้อมรูปภาพผ่านทางเฟซบุ๊กส่วนตัว โดยมีเนื้อหาถึงการหารือร่วมกับ ผู้บริหารมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เรื่องกลับมาเปิดโรงพยาบาลสนามต่อ
 
ผศ.นพ.ฉัตรชัย ระบุว่า 
 
เมื่อนโยบาย การปัองกันการแพร่ระบาดโรคโควิดนโยบายการฉีดวัคซีน สวนทางกับข้อมูลการแพร่ระบาดของโรคโควิด ส่งผลให้เราเข้าสู่สถานการณ์ที่แย่ที่สุดในการควบคุมและดูแลผู้ป่วยโควิดตั้งแต่มีการติดเชื้อมา เตียงไม่พอทั้งการดูแลผู้ป่วยเขียวเหลืองแดง ไม่น่าเชื่อว่าเราจะมาสู่จุดนี้
 
รพ.สนามธรรมศาสตร์ เราวางแผนจะปิดในสิ้นเดือนนี้ เพื่อถอนกำลังมาทุ่มเทและเพิ่มเตียงในการดูแลผู้ป่วยเหลืองแดง ที่โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติ ที่มีจำนวนมากรวมทั้งศูนย์ฉีดวัคซีนธรรมศาสตร์ เราจึงหยุดรับผู้ป่วยใหม่ตั้งแต่กลางเดือน
 
แต่ตอนนี้เราถูกร้องขอทั้งเพื่อนโรงเรียนแพทย์ในกรุงเทพ ให้ช่วยรับรีเฟอร์ผู้ป่วยเพราะวิกฤตอย่างมากรวมทั้งรพ.ต่าง ๆ ในจังหวัดปทุมธานี ที่ตอนนี้ก็ล้น
 
วันนี้ทีมผู้บริหารนำโดยท่านอธิการบดีและ อ.สุรพล ประธานกรรมการบริหารโรงพยาบาล พร้อมทีมแพทย์ พยาบาลได้ประชุมร่วมกันเพื่อตัดสินใจว่า จะเอาอย่างไรดีในสถานการณ์ที่ รพ.ธรรมศาสตร์ ก็ทำงานหนักมากมาโดยตลอด ยังไม่มีโอกาสได้หยุดพัก โดยเฉพาะทีมพยาบาลที่ทำงานเพิ่มเป็นสองสามเท่ามาโดยตลอดหลายเดือน
 
หลังการหารือกว่า 2 ชั่วโมง พวกเราก็ตัดสินใจว่าเราจะกลับมาเปิดบริการโรงพยาบาลสนามธรรมศาสตร์อย่างเต็มกำลังอีกครั้งกับศักยภาพ 470 เตียงที่จะเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยเพื่อน ๆ ของเราทั้งจากโรงเรียนแพทย์ในกรุงเทพและรพ.ในจังหวัดปทุมธานี และที่สุดก็คือพี่น้องประชาชนที่กำลังรอคอยความหวังในการเข้ารักษาในรพ.
 
สิ่งที่เราตัดสินใจอยู่บนพื้นฐานของการที่ต้องทำงานหนักมากขึ้นกว่าเดิมอีกหลายเท่าทั้งรพ.สนาม หอผู้ป่วยวิกฤติ ศูนย์ฉีดวัคซีนด้วยจำนวนคนเท่าเดิม แต่สิ่งเราทำก็เป็นเพราะหัวใจและจิตวิญญาณธรรมศาสตร์ที่พวกเราก็คงทนเห็นความทุกข์ของประชาชนโดยเราไม่ยื่นมือไปช่วยไม่ได้ เราจะรบเคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับเพื่อน ๆ ของเรา ถ้าเราจะตายก็คงตายอย่างสมศักดิ์ศรี ได้แต่หวังว่า บ้านเมืองเราจะกลับมาดีขึ้น ด้วยการบริหารที่ใช้ข้อมูลข้อเท็จจริง ไม่ใช่ความรู้สึก

https://www.facebook.com/chatchai.mingmalairak/posts/4421151461250091
 

---

 
ผู้ประกอบการร้านอาหาร จ.เลย นัดเคลื่อนไหว สุดทนกับมาตรการเดี๋ยวห้าม เดี๋ยวให้ขายสุรา
https://www.matichon.co.th/news-monitor/news_2796519
 
เมื่อวันที่ 26 มิถุนายน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มจังหวัดเลย กว่า 20 ร้าน ร่วมประชุมถกปัญหาของแต่ละร้านที่ได้รับความเดือดร้อนกับมาตรการของรัฐที่ไม่มีความแน่นอน ไม่ได้รับความสนใจจากรัฐ มีแต่ออกมาตรการกำหนด ห้ามจนทำมาหากินไม่ได้ มีคนตกงานจำนวนมาก แต่ละคนมีหนี้สินเพิ่ม เตรียมยืนหนังสือเรียกร้องขอให้ผ่อนปรนขายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ โดยจะยื่นหนังสือและข้อร้องเรียนถึงผู้ว่าราชการจังหวัด
 
นายพนิตย์ อ้อแย้ม เจ้าของร้านเลยดานัง เปิดเผยว่า ทางชมรมผู้ประกอบการร้านอาหารและเครื่องดื่มจังหวัดเลย ได้รวมตัวกันและถกปัญหาในแต่ร้านที่ได้รับผลกระทบกับการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด-19 ซึ่งวันนี้ต่างได้รับเดือดร้อนและได้รับผลกระทบกันถ้วนหน้า รวมทั้งกับมาตรการของรัฐที่กลับไปกลับมา อย่างเช่นเมื่อวันที่ 21 มิถุนายนที่ผ่านมา จังหวัดเลยได้ออกประกาศให้จำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในร้านได้ แต่ละร้านหลังถูกสั่งปิดก็กลับมาจำหน่าย ต่างซื้อข้าวของเข้าร้าน เตรียมอาหารสดจำหน่ายให้ลูกค้า เหล้า เบียร์ สต๊อกไว้จำหน่ายให้ลูกค้า พร้อมกับรับสมัครพนักงาน แต่ร้านต่างๆ กลับเปิดได้เพียง 2 วัน พอถึงวันที่ 23 มิ.ย. คำสั่งก็สั่งห้ามจำหน่ายอีก พอมีคำสั่งห้ามออกมา ลูกค้าที่สั่งจองโต๊ะหายหมด สินค้าที่สต๊อกไว้จะให้ทำยังไง เราลงทุน บางร้านถึงกับกู้หนี้ยืมสินเขามาเพื่อเปิดร้านอีกครั้ง แต่รัฐออกมาตรการแบบนี้เราตายกันหมดแน่
 
นายพนิตย์กล่าวว่า ไม่เฉพาะเจ้าของร้าน พนักงานบางคนยังต้องเช่าห้องพัก จ่ายค่าห้องพักไปแล้ว เปิดแล้วก็ปิด แบบนี้ก็ได้รับผลกระทบกันเต็มๆ ทั้งเด็กเสิร์ฟก็ได้รับผลกระทบเหมือนกัน จึงอยากจะให้ภาครัฐออกมาตรการออกมาให้แน่ชัด หรือให้จัดโต๊ะนั่งแบบไหน เพื่อให้ปลอดภัย เราทำได้หมด วันนี้เราก็เว้นระยะห่าง จำกัดคนนั่ง มาตรการที่กำหนดมา แต่วันนี้ขอเพิ่มให้มีการจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านได้ เพราะมันเป็นตัวดึงให้ลูกค้าเข้ามานั่งดื่ม แล้วอาหารก็ขายได้ แต่ทั้งนี้ โดยร้านอาหารที่ได้เปิดไปแล้วนั้น ส่วนใหญ่ก็เปิดตามปกติ แต่บรรยากาศเป็นไปด้วยความเงียบเหงา เพราะไม่มีการจำหน่ายเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์
 
“และจากที่ได้พูดจากันแล้ว เรามีข้อตกลงร่วม จะขอยืนหนังสือเสนอข้อเรียกร้องกับทางผู้ว่าราชการจังหวัด เพื่อขอให้ผ่อนปรนหรือออกมาตรการใดๆ ออกมาขอให้ร้านค้าผู้ประกอบการร้านอาหารจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านได้ เราอยากเรียกร้องขอให้ทางจังหวัดหรือภาครัฐ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการให้มีช่องทางระบายสินค้าที่เราสต๊อกไว้ และพยุงเศรษฐกิจที่กำลังซบเซา แต่ละร้านต่างได้รับความเดือดร้อนกันอย่างหนักกับมาตรการที่ทางรัฐกำหนดมา” นายพนิตย์กล่าว