สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 11
ใครบอกว่าเพราะการโปรโมต สงสัยเพิ่งดูมวยไทยมาไม่เกิน 10 ปี
มวยไทยโด่งดังได้เพราะ " การพิสูจน์ตัวเอง " ครับ ไม่ใช่การโปรโมท
จริงอยู่ ศิลปะการต่อสู้หลายอย่าง มีการผสมผสานและดัดแปลงไปจากมวยไทย เช่น คิ๊กบ็อกซิ่ง หรือคาราเต้ฟูลคอนแทค ยุคหลังๆ
แต่นั่นเป็นเพราะชาวต่างชาติมาดูมวยไทยในบ้านเรา ซึ่งมีมาอย่างยาวนาน แล้วตื่นตะลึงกับความรุนแรง และเทคนิคต่างๆ มากมายของมวยไทย
ไม่ได้เกิดจากการที่มวยไทยโปรโมทเก่งนะครับ อย่าเข้าใจผิด
สมัยก่อนยุค 60-70-80 ไม่มีอินเตอร์เน็ต ทีวีผ่านดาวเทียมก็ไม่มี ประเทศไทยก็เป็นแค่ประเทศด้อยพัฒนาจะเอาอะไรไปโปรโมท ครับ
มวยไทยโด่งดังเพราะ การพิสูจน์ตัวเองเอาชนะศิลปะการต่อสู้ท่ายืน ทุกอย่างในโลก
สมัยก่อน ศิลปะการต่อสู้ต่างๆ มันแยกกันชัดเจนนะครับ มวยไทยเท่านั้นที่มีเตะ มีเข่า มีศอก และการเตะก็ไม่เหมือนศิลปะการต่อสู้อื่น
เป็นการใช้แข้งเตะ ไม่ได้ใช้ปลายเท้าเหมือนคาราเต้ หรือเทควนโด้ หรือ กังฟู
ในเมื่อศิลปะการต่อสู้มันแยกกันชัดเจน ต่างคนต่างก็คิดว่าตัวเองเก่งตัวเองแน่ โดยศิลปะการต่อสู้ที่เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ และได้รับ
ความนิยมก่อนมวยไทยมานานแล้วนั้น ประกอบด้วย คาราเต้ กังฟู เทควนโด้ โดยส่วนหนึ่งเกิดจากอิทธิพลของภาพยนต์
และการแสดงโชว์ ประเภทจับคู่โชว์ ทุบอิฐ กระแทกหมัดระยะใกล้ ฯลฯ
ส่วนมวยไทยนั้นเป็นที่รู้จักในวงแคบมาก จะรู้ต่อเมื่อฝรั่ง ญี่ปุ่น ต่างชาติ มาดูมวยในเมืองไทย แล้วตื่นตะลึงกับเทคนิคการชกของมวยไทย
หลายคนแอบเอาไปดัดแปลง เอาเทคนิคไปใส่ในศิลปะการต่อสู้อื่นๆ
ยุคแรกๆ มวยไทยเจอกับ กังฟูจากจีน เริ่มมาตั้งแต่ยุคสมัยคาดเชือก ซึ่งไม่มีสื่อ ไม่มีการออกอากาศให้คนในโลกรับรู้ เริ่มขึ้นตั้งแต่ยุค 1920
สมัยปลายคาดเชือกด้วยซ้ำ แล้วก็มีมวยไทยปะทะมวยสากล บ้างประปราย
หลังจากมีคนญี่ปุ่น นำมวยไทยไปลอกเลียนดัดแปลงเป็นคิ๊กบ็อกซิ่ง ก็เริ่มมีการยกทีมพิสูจน์ว่าใครเก่งกว่า เริ่มจากคิ๊กบ็อกซิ่งรุ่นแรกๆ และ
คาราเต้จากญี่ปุ่น ยกทีมเจอมวยไทย ทั้งที่ไทยและญี่ปุ่น
ต่อมามีทั้งกังฟู คาราเต้ฟูลคอนแทค คิ๊กบ็อกซิ่ง เทควนโด ยกทีมเจอมวยไทย ทั้งในอเมริกา ยุโรป กระจายไปทั่วโลก
สมัยนั้น มวยไทยถูกดูถูกและมองข้ามมาก เพราะมองเป็นกีฬาของพวกด้อยพัฒนาชั้นต่ำ มวยไทยไม่ได้ถูกเรียกว่ามวยไทย แต่เรียก
คิ๊กบ็อกซิ่งบ้าง ไทยบ้อกซิ่งบ้าง และถูกกติกาที่เอาเปรียบพอแพ้มวยไทยบ่อยๆ ก็จะห้ามโน่นห้ามนี่ ห้ามศอก ห้ามเข่า ฯลฯ
ผลปรากฎว่าในช่วง 1900-1990 มวยไทยพิสูจน์ตัวเอง ด้วยการชนะศิลปะการต่อสู้ท่ายืนอื่นๆ ทั้งหมดในโลก จนฝรั่งต่างชาติเริ่มยอมรับ
ขึ้นเรื่อยๆ มีนักมวยไทยไปสอนมวยที่ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น มากมาย ฝรั่งล้วนแต่มาฝึกมวยไทย
ศิลปะการต่อสู้ท่ายืนชนิดสุดท้าย ที่มาพิสูจน์กับมวยไทยด้วยการเอาเปรียบทุกอย่าง จนสุดท้ายทานกระแสไม่ไหว ต้องดับไปเอง
นั่นคือ กังฟูสานต้า ในปลายยุค 90 และต้นปี 2000 หลังจากนั้นนักมวยจีนทุกคนฝึกมวยไทยต่อให้ใช้ชื่อว่าอะไรก็ตาม
มีนักมวยไทยไปสร้างชื่อระดับโลกมากมายในทุกกติกา เช่น ช้างเผือก มวยรุ่นเล็กที่แบกน้ำหนักไปชก คิ๊กบ็อกซิ่ง และ k-1
จนมาถึง บัวขาว ก้าวไกล ฯลฯ จนได้รับความนิยมเช่นปัจจุบัน ซึ่งมวยไทยไม่ใช่เฉพาะเป็นอันดับ 1 ของมวยยืน
แต่เป็นศิลปะการต่อสู้ที่แทบจะขาดไม่ได้ ของนักสู้ประเภท mma ด้วย
มวยไทยได้รับการยอมรับ และความนิยมจากการพิสูจน์ตัวเองครับ ไม่ใช่การโปรโมท
อย่าเอาภาพสมัยนี้ ที่คุณจะดูมวยไทย มวยนอกได้ด้วยปลายนิ้ว หรือเอาภาพเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่สามารถดูทีวี เคเบิล ต่างๆ ได้แล้ว
มาบอกว่ามวยไทยดังเพราะโปรโมท
มวยไทยโด่งดังได้เพราะ " การพิสูจน์ตัวเอง " ครับ ไม่ใช่การโปรโมท
จริงอยู่ ศิลปะการต่อสู้หลายอย่าง มีการผสมผสานและดัดแปลงไปจากมวยไทย เช่น คิ๊กบ็อกซิ่ง หรือคาราเต้ฟูลคอนแทค ยุคหลังๆ
แต่นั่นเป็นเพราะชาวต่างชาติมาดูมวยไทยในบ้านเรา ซึ่งมีมาอย่างยาวนาน แล้วตื่นตะลึงกับความรุนแรง และเทคนิคต่างๆ มากมายของมวยไทย
ไม่ได้เกิดจากการที่มวยไทยโปรโมทเก่งนะครับ อย่าเข้าใจผิด
สมัยก่อนยุค 60-70-80 ไม่มีอินเตอร์เน็ต ทีวีผ่านดาวเทียมก็ไม่มี ประเทศไทยก็เป็นแค่ประเทศด้อยพัฒนาจะเอาอะไรไปโปรโมท ครับ
มวยไทยโด่งดังเพราะ การพิสูจน์ตัวเองเอาชนะศิลปะการต่อสู้ท่ายืน ทุกอย่างในโลก
สมัยก่อน ศิลปะการต่อสู้ต่างๆ มันแยกกันชัดเจนนะครับ มวยไทยเท่านั้นที่มีเตะ มีเข่า มีศอก และการเตะก็ไม่เหมือนศิลปะการต่อสู้อื่น
เป็นการใช้แข้งเตะ ไม่ได้ใช้ปลายเท้าเหมือนคาราเต้ หรือเทควนโด้ หรือ กังฟู
ในเมื่อศิลปะการต่อสู้มันแยกกันชัดเจน ต่างคนต่างก็คิดว่าตัวเองเก่งตัวเองแน่ โดยศิลปะการต่อสู้ที่เป็นที่รู้จักในต่างประเทศ และได้รับ
ความนิยมก่อนมวยไทยมานานแล้วนั้น ประกอบด้วย คาราเต้ กังฟู เทควนโด้ โดยส่วนหนึ่งเกิดจากอิทธิพลของภาพยนต์
และการแสดงโชว์ ประเภทจับคู่โชว์ ทุบอิฐ กระแทกหมัดระยะใกล้ ฯลฯ
ส่วนมวยไทยนั้นเป็นที่รู้จักในวงแคบมาก จะรู้ต่อเมื่อฝรั่ง ญี่ปุ่น ต่างชาติ มาดูมวยในเมืองไทย แล้วตื่นตะลึงกับเทคนิคการชกของมวยไทย
หลายคนแอบเอาไปดัดแปลง เอาเทคนิคไปใส่ในศิลปะการต่อสู้อื่นๆ
ยุคแรกๆ มวยไทยเจอกับ กังฟูจากจีน เริ่มมาตั้งแต่ยุคสมัยคาดเชือก ซึ่งไม่มีสื่อ ไม่มีการออกอากาศให้คนในโลกรับรู้ เริ่มขึ้นตั้งแต่ยุค 1920
สมัยปลายคาดเชือกด้วยซ้ำ แล้วก็มีมวยไทยปะทะมวยสากล บ้างประปราย
หลังจากมีคนญี่ปุ่น นำมวยไทยไปลอกเลียนดัดแปลงเป็นคิ๊กบ็อกซิ่ง ก็เริ่มมีการยกทีมพิสูจน์ว่าใครเก่งกว่า เริ่มจากคิ๊กบ็อกซิ่งรุ่นแรกๆ และ
คาราเต้จากญี่ปุ่น ยกทีมเจอมวยไทย ทั้งที่ไทยและญี่ปุ่น
ต่อมามีทั้งกังฟู คาราเต้ฟูลคอนแทค คิ๊กบ็อกซิ่ง เทควนโด ยกทีมเจอมวยไทย ทั้งในอเมริกา ยุโรป กระจายไปทั่วโลก
สมัยนั้น มวยไทยถูกดูถูกและมองข้ามมาก เพราะมองเป็นกีฬาของพวกด้อยพัฒนาชั้นต่ำ มวยไทยไม่ได้ถูกเรียกว่ามวยไทย แต่เรียก
คิ๊กบ็อกซิ่งบ้าง ไทยบ้อกซิ่งบ้าง และถูกกติกาที่เอาเปรียบพอแพ้มวยไทยบ่อยๆ ก็จะห้ามโน่นห้ามนี่ ห้ามศอก ห้ามเข่า ฯลฯ
ผลปรากฎว่าในช่วง 1900-1990 มวยไทยพิสูจน์ตัวเอง ด้วยการชนะศิลปะการต่อสู้ท่ายืนอื่นๆ ทั้งหมดในโลก จนฝรั่งต่างชาติเริ่มยอมรับ
ขึ้นเรื่อยๆ มีนักมวยไทยไปสอนมวยที่ยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น มากมาย ฝรั่งล้วนแต่มาฝึกมวยไทย
ศิลปะการต่อสู้ท่ายืนชนิดสุดท้าย ที่มาพิสูจน์กับมวยไทยด้วยการเอาเปรียบทุกอย่าง จนสุดท้ายทานกระแสไม่ไหว ต้องดับไปเอง
นั่นคือ กังฟูสานต้า ในปลายยุค 90 และต้นปี 2000 หลังจากนั้นนักมวยจีนทุกคนฝึกมวยไทยต่อให้ใช้ชื่อว่าอะไรก็ตาม
มีนักมวยไทยไปสร้างชื่อระดับโลกมากมายในทุกกติกา เช่น ช้างเผือก มวยรุ่นเล็กที่แบกน้ำหนักไปชก คิ๊กบ็อกซิ่ง และ k-1
จนมาถึง บัวขาว ก้าวไกล ฯลฯ จนได้รับความนิยมเช่นปัจจุบัน ซึ่งมวยไทยไม่ใช่เฉพาะเป็นอันดับ 1 ของมวยยืน
แต่เป็นศิลปะการต่อสู้ที่แทบจะขาดไม่ได้ ของนักสู้ประเภท mma ด้วย
มวยไทยได้รับการยอมรับ และความนิยมจากการพิสูจน์ตัวเองครับ ไม่ใช่การโปรโมท
อย่าเอาภาพสมัยนี้ ที่คุณจะดูมวยไทย มวยนอกได้ด้วยปลายนิ้ว หรือเอาภาพเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ที่สามารถดูทีวี เคเบิล ต่างๆ ได้แล้ว
มาบอกว่ามวยไทยดังเพราะโปรโมท
แสดงความคิดเห็น
ทำไมมวยไทยจึงได้รับความนิยมมากกว่ามวยพม่า ลาว กัมพูชาทั้งๆที่ก็มีลักษณะคล้ายๆกัน