สวัสดีค่ะทุกคนวันนี้เรามาพร้อมกับไอเทมที่ได้ทดลองใช้ช่วง
Work Form Home ที่ผ่านมา บอกเลยว่าจัดให้เต็มๆ สำหรับเพื่อนๆ เลยนะ โดยเฉพาะคนที่กำลังมีปัญหาเรื่องฝ้า กระ จุดด่างดำต่างๆ ต้องไม่พลาดจ้า
แต่บอกก่อนนะพื้นฐานเราเป็นคนผิวแพ้ง่ายค่อนไปทางแห้ง และเราเองไม่ได้มีปัญหาฝ้ารุนแรง แค่เหมือนกับเป็นฝ้า กระ จุดเล็กๆ ที่เกิดจากการโดนแดดหรือนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทุกวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะแสงแดดบ้านเราคือร้อนแรงทะลุผิวจริงๆ กันแดดก็ยังแทบเอาไม่อยู่ แล้วเราเองก็มีบางวันขี้เกียจทากันแดดเนอะเลยต้องมานั่งดูแลกันแบบนี้ (- _ -“)
เลยถือโอกาสช่วงที่ทำงานที่บ้านช้อปปิ้งออนไลน์หาไอเทมแก้ฝ้ามาลอง ส่วนใหญ่เราชอบซื้อผ่านวัตสันออนไลน์นี่แหละโปรเยอะดี …เราเลือกมาจากรีวิวของเพื่อนๆ คนอื่นดูว่าอันไหนน่าสนใจ ก็ได้มาประมาณ 5 แบรนด์จ๊ะ
เราทดลองอยู่ประมาณเกือบๆ 2 เดือนนะ ตอนทดลองเราก็แบ่งโซนบนใบหน้าเป็นส่วนๆ จะได้เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนว่าแบรนด์ไหนให้ผลลัพธ์ยังไงบ้าง และหลังจากทดลองมาแล้วก็มารีวิวให้ดูกัน พร้อมแล้วไปดูกันเลย
ProX by Olay Spot Fading Essence
(40 ml. ราคา 1,999 บาท)
เริ่มต้นด้วยเซรั่มจาก Olay ขวดนี้เป็นเซรั่มที่เน้นเรื่องแก้ปัญหาจุดด่างดำที่ต้นเหตุ ลดความหมองคล้ำพร้อมปรับสีผิวให้สม่ำเสมอและเติมความชุ่มชื้นให้ผิว โดยทางแบรนด์เค้าเคลมมาเลยว่าจะเห็นผลลัพธ์ที่ดีขึ้นภายใน 2 สัปดาห์หลังใช้…เห็นหลายคนรีวิวว่าเนื้อเซรั่มดีน่าใช้ แต่เอาจริงๆ เราไปอ่านมาเค้าก็ไม่ได้เคลมโดยตรงเรื่องการดูแลฝ้าขนาดนั้นนะ แต่ช่วยเรื่องปรับสีผิวและจุดด่างดำมากกว่า แต่ก็มาลองกันดูก่อนว่าผลจะเป็นยังไง?
ส่วนผสมสำคัญ:
- สารสกัดจาก Laminaria Saccharina เป็นสาหร่ายสีน้ำตาลชนิดหนึ่ง ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ การลดเลือนจุดด่างดำ
- Niacinamide หรือวิตามินบี 3 ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวทำให้ผิวเรียบเนียนและสีผิวที่สม่ำเสมอ
เนื้อสัมผัส: เซรั่มบางเบา เนื้อเหลวแต่ไม่ถึงกับเป็นน้ำ ซึมไว เกลี่ยง่าย มีกลิ่นหอมพอสมควรแต่เค้าบอกไว้นะว่าไม่ใส่น้ำหอมและแต่งสี
ความรู้สึกหลังใช้: เนื้อเซรั่มเกลี่ยง่ายซึมไว ใช้เสร็จก็ผิวนุ่มลื่นเหมือนมีอะไรมาเคลือบผิวไว้ สามารถลงสกินแคร์อื่นๆ หรือแต่งหน้าต่อได้ไม่เป็นคราบ
ผลลัพธ์: เรื่องฝ้าเราว่าถ้ามีปัญหาหนักๆ ไม่น่าจะเอาอยู่ แต่ถ้าเป็นแค่จุดด่างดำเล็กน้อยเราว่าโอเคนะ แต่ในเรื่องของความชุ่มชื้นเราว่าโอเคเลยแหละ
ความคุ้มค่า: เอาจริงๆ ราคาก็แรงนะ ถ้าหากอยากได้สกินแคร์แนวเซรั่มเตรียมผิวแล้วช่วยปรับสีผิวแก้ปัญหาจุดด่างดำก็โอเค แต่ถ้าจะเน้นแก้ปัญหาฝ้าหนักๆ อาจจะยังไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นะยังดูไม่คุ้ม
NIVEA Luminous 630 Spot Clear Treatment
(30 ml. ราคา 990 บาท)
สำหรับตัวที่ 2 คือนีเวีย ขวดนี้เป็นผลิตภัณฑ์ที่ช่วยแก้ปัญหาฝ้าแดดสะสมอันนี้เค้าเคลมไว้เลยนะบอกว่ามีประสิทธิภาพดีกว่าไม่มีผลข้างเคียงเหมือนครีมไวเทนนิ่งทั่วไปด้วยล่ะ และยังช่วยเรื่องเติมความชุ่มชื้นให้ผิว ทำให้ผิวกระชับเต่งตึงอีกด้วย และมีความเก๋ตรงเค้าทำเนื้อครีมแยก บรรจุในเฟรชลี่ เอคทีเวเตท บูสเตอร์ 2 ฝั่ง เพื่อประสิทธิภาพที่ดีในการฟื้นฟูผิวนั่นเอง ส่วนด้านสีขาว (Luminous 630) จะแก้ปัญหาจุดด่างดำฝ้าแดด ส่วนฝั่งสีแดง (ไฮยาลูรอนและวิตามินอี) เพิ่มความชุ่มชื่น ผิวกระชับเต่งตึง
ส่วนผสมสำคัญ:
- นวัตกรรมไวท์เทนนิ่งของทางนีเวีย ที่แก้ปัญหาจุดด่างดำและฝ้าแดดที่ต้นตอ
- ไฮยาลูรอนและวิตามินอี ช่วยฟื้นฟูบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียนเต่งตึง ดูผิวสุขภาพดี
เนื้อสัมผัส: เนื้อครีมจะเข้มข้น กลิ่นหอมค่อนข้างแรงนะ กดออกมาแล้วก็เกลี่ยๆ ให้เนื้อผสมกันก่อนแล้วทาลงผิว เกลี่ยง่ายซึมไว หลังทาแล้วรู้สึกผิวชุ่มชื้นขึ้น ไม่เหนียวเหนอะหนะ ไม่หนึบที่ผิว
ความรู้สึกหลังใช้: สำหรับตัวนี้เราก็ชอบเนื้อครีมเค้านะ มีความเข้มข้นก็จริงๆ แต่ซึมไวอยู่ แต่ติดตรงแพคเกจเค้าที่ให้กดเนื้อครีมแล้วให้ออกมา 2 ฝั่ง จะบอกว่าบางทีกดแล้วก็ออกมาช่องเดียว ไม่รู้จะทำยังไง? ฮ่าๆๆ
ผลลัพธ์: เรื่องผลลัพธ์ของรอยฝ้าเราว่ายังไม่เห็นผลเท่าไหร่หรืออาจจะต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานกว่านี้รึเปล่าไม่แน่ใจ แต่ได้ความนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย
ความคุ้มค่า: ราคาเหมาะสมอยู่เพราะเค้าให้ปริมาณ 30 ml ถ้าใครที่เป็นฝ้าไม่เยอะมาก แล้วอยากเน้นเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยก็ถือว่าโอเคอยู่
VERRASKIN Anti-Melasma Concentrate Serum
(15 g. ราคา 499 บาท)
สำหรับเวอร่าสกินตัวนี้เป็นเซรั่มอีกตัวที่น่าสนใจมากเลยนะ คุณสมบัติเด่นของเค้าที่เคลมมาคือ ลดเลือนฝ้าเก่า ป้องกันการเกิดฝ้าใหม่ (เราไม่เห็นแบรนด์อื่นเคลมเรื่องการเกิดฝ้าใหม่เท่าไหร่) คือเอาจริงๆ ฝ้าสามารถเกิดใหม่ได้ทุกวันจากปัจจัยหลายอย่างทั้งแสงแดด มลภาวะและอื่นๆ เวลาเราใช้ครีมลดฝ้าบางทีรอยฝ้าเก่าที่เป็นอยู่หายแหละแต่ฝ้าที่เกิดใหม่ก็ยังมีมาอยู่ ทำให้ฝ้าเกิดซ้ำเรื่อยๆ ไม่หายขาดสักที แต่เวอร่าสกินหลอดนี้ตอบโจทย์ตรงจุดนี้ได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ และมากไปกว่านั้นที่ชอบมากเลยก็คือเนื้อเซรั่มค่อนข้างอ่อนโยน เค้าเคลมว่าคุณแม่ตั้งครรภ์ก็สามารถใช้ได้ ที่สำคัญเลยคือปราศจาก AHA BHA กรดผลไม้ต่างๆ รวมถึงไม่มีส่วนประกอบที่เร่งผลัดเซลล์ผิว ใช้แล้วไม่แสบผิว ผิวไม่แห้งลอก เราว่าดีงามตรงจุดนี้
ส่วนผสมสำคัญ:
- Tetrapeptide-30 เป็ปไทด์นวัตกรรมการถอดรหัส DNA ของมนุษย์จากแล็บประเทศเยอรมนี ที่ช่วยลดการเกิดฝ้าใหม่ รวมทั้งลดเลือนฝ้าเก่าด้วย
- Sodium Ascorbyl Phosphate หรืออนุพันธ์ของวิตามิน C นำเข้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำและความหมองคล้ำ รวมทั้งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ลดริ้วรอย เพิ่มความกระชับให้กับผิว
- สารสกัดจากชเอมเทศที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และ Tranexamic Acid ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ และช่วยลดอาการอักเสบของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วิตามิน อี ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
เนื้อสัมผัส: เป็นเนื้อเซรั่มที่มีความเข้มข้นแต่ให้สัมผัสบางเบากลิ่นหอมอ่อนๆ ทาวนไปแป๊ปเดียวซึมเลย ไม่เหนอะหนะ หลังทาเสร็จผิวจะมีความรู้สึกชุ่มชื้น สามารถแต่งหน้าทับได้ ไม่เป็นคราบ
ความรู้สึกหลังใช้: ความรู้สึกแรกเลยคือไม่แสบผิว ไม่รู้สึกยุบยิบที่ผิวเลย ชอบเนื้อเซรั่มมากซึมไวสบายผิวยิ่งเราผิวค่อนข้างไปทางแห้งก็จะเลิฟหน่อย คือเค้าไม่เหนียวไม่หนึบผิวแต่คงไว้ซึ่งความชุ่มชื้น อีกอย่างที่ชอบมากคือ แอบรู้สึกว่าเกลี่ยรองพื้นง่ายขึ้นนิดนึงอ่า เหมือนผิวมันชุ่มชื้นขึ้นเลยลงรองพื้นง่าย
ผลลัพธ์: เราตัวนี้ช่วยลดฝ้าจุดด่างดำได้ดีเลย ฝ้าค่อยๆ จางลงอย่างต่อเนื่อง แล้วบริเวณตรงที่ทาก็ไม่มีรอยฝ้าใหม่เกิดซ้ำด้วย (เป็นตามคำเคลมที่เค้าบอกไว้เลย)
ความคุ้มค่า: เราว่า VERRASKIN หลอดนี้ตอนแรกอาจจะดูมีราคาหน่อย แต่พอได้ลองใช้แล้วคุ้มค่าแก่การลทุนเลยล่ะ ด้วยราคาไม่ถึง 500 บาท แต่สามารถใช้แล้วได้ผลลัพธ์แบบดีงามตามที่เล่าไป แถมยังไม่แพ้ อ่อนโยนต่อผิวมากๆ
Smooth E White Baby Face Serum
(0.8 oz. ราคา 575 บาท)
ถัดมาเป็นสมูทอีแบรนด์นี้เราใช้ครีมหลอดเขียวของเค้ามาตั้งแต่ตอนสมัยวัยรุ่นแล้วล่ะ เวลาหน้าแพ้แล้วพังหรือหน้าแห้งมากๆ ก็จะนึกถึงตัวนี้เลย…แต่ตอนนี้คงไม่ไหวต้องเปลี่ยนสูตรมาเป็นแบบที่ช่วยรักษาฝ้าแทน ฮ่าๆ หลอดนี้เค้าก็เน้นที่การปรับผิวให้เนียนขาว พร้อมรักษาฝ้า ไปด้วยในตัว ลักษณะเด่นของเค้าก็คือจะเป็นเนื้อครีม MES (Multi-layer Emulsion System) ที่เค้าบอกว่าจะสามารถช่วยนำพาตัวยาสำคัญซึมผ่านสู่ผิวหนังชั้นในสุดได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่วนผสมสำคัญ:
- สารสกัดธรรมชาติจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง รพ.รัฐบาล แล้วว่า ช่วยให้ฝ้าจางลง
- Alpha-arbutin ช่วยรักษารอยฝ้าให้จางลงได้
เนื้อสัมผัส: เนื้อครีมเข้มข้น (เป็นครีมที่หนักพอสมควรถ้าเทียบกับตัวอื่น) ทาวนอยู่นานกว่าจะซึมเข้าผิว แต่พอซึมแล้วก็หนึบๆ หน่อย เราว่าคนหน้ามันไม่น่าจะรอด
ความรู้สึกหลังใช้: หลังจากใช้เราว่าเนื้อครีมเค้าค่อนข้างหนักต้องใช้น้อยๆ หรือทาเฉพาะจุดดีกว่า กลิ่นหอมเหมือนสมูทอีหลอดสีเขียวเลย(กลิ่นที่คุ้นเคย) ใช้แล้วแอบแต่งหน้าต่อยากนิดนึงนะ ต้องรอให้ซึมก่อนไม่อย่างนั้นเป็นคราบเลยจ้าและไม่แนะนำให้ทาแล้วแต่งหน้าจัดเต็มนะอาจจะเยิ้มระหว่างวันได้
ผลลัพธ์: เรื่องรักษาฝ้าเราว่าเห็นผลน้อยหรืออาจจะต้องใช้เวลามากกว่านี้ แต่ผิวเนียนขึ้นมีความกระจ่างใสขึ้นจ้า
ความคุ้มค่า: ถือว่าราคาเหมาะสมกับปริมาณ แต่ถ้าจะมองความคุ้มค่าที่แก้ปัญหาฝ้าก็ยังไม่คุ้มเท่าไหร่ เน้นผิวกระจ่างใสเรียบเนียนมากกว่า
( มีต่อในคอมเมนต์ค่ะ )
[SR] รีวิวจัดเต็ม! 5 ครีมทาฝ้า ที่น่าสนใจในวัตสันออนไลน์
แต่บอกก่อนนะพื้นฐานเราเป็นคนผิวแพ้ง่ายค่อนไปทางแห้ง และเราเองไม่ได้มีปัญหาฝ้ารุนแรง แค่เหมือนกับเป็นฝ้า กระ จุดเล็กๆ ที่เกิดจากการโดนแดดหรือนั่งทำงานหน้าคอมพิวเตอร์ทุกวันอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ โดยเฉพาะแสงแดดบ้านเราคือร้อนแรงทะลุผิวจริงๆ กันแดดก็ยังแทบเอาไม่อยู่ แล้วเราเองก็มีบางวันขี้เกียจทากันแดดเนอะเลยต้องมานั่งดูแลกันแบบนี้ (- _ -“)
เลยถือโอกาสช่วงที่ทำงานที่บ้านช้อปปิ้งออนไลน์หาไอเทมแก้ฝ้ามาลอง ส่วนใหญ่เราชอบซื้อผ่านวัตสันออนไลน์นี่แหละโปรเยอะดี …เราเลือกมาจากรีวิวของเพื่อนๆ คนอื่นดูว่าอันไหนน่าสนใจ ก็ได้มาประมาณ 5 แบรนด์จ๊ะ
เราทดลองอยู่ประมาณเกือบๆ 2 เดือนนะ ตอนทดลองเราก็แบ่งโซนบนใบหน้าเป็นส่วนๆ จะได้เห็นผลลัพธ์อย่างชัดเจนว่าแบรนด์ไหนให้ผลลัพธ์ยังไงบ้าง และหลังจากทดลองมาแล้วก็มารีวิวให้ดูกัน พร้อมแล้วไปดูกันเลย
(40 ml. ราคา 1,999 บาท)
- สารสกัดจาก Laminaria Saccharina เป็นสาหร่ายสีน้ำตาลชนิดหนึ่ง ช่วยปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ การลดเลือนจุดด่างดำ
- Niacinamide หรือวิตามินบี 3 ช่วยเติมความชุ่มชื้นให้ผิวทำให้ผิวเรียบเนียนและสีผิวที่สม่ำเสมอ
ความรู้สึกหลังใช้: เนื้อเซรั่มเกลี่ยง่ายซึมไว ใช้เสร็จก็ผิวนุ่มลื่นเหมือนมีอะไรมาเคลือบผิวไว้ สามารถลงสกินแคร์อื่นๆ หรือแต่งหน้าต่อได้ไม่เป็นคราบ
ผลลัพธ์: เรื่องฝ้าเราว่าถ้ามีปัญหาหนักๆ ไม่น่าจะเอาอยู่ แต่ถ้าเป็นแค่จุดด่างดำเล็กน้อยเราว่าโอเคนะ แต่ในเรื่องของความชุ่มชื้นเราว่าโอเคเลยแหละ
ความคุ้มค่า: เอาจริงๆ ราคาก็แรงนะ ถ้าหากอยากได้สกินแคร์แนวเซรั่มเตรียมผิวแล้วช่วยปรับสีผิวแก้ปัญหาจุดด่างดำก็โอเค แต่ถ้าจะเน้นแก้ปัญหาฝ้าหนักๆ อาจจะยังไม่ตอบโจทย์เท่าไหร่นะยังดูไม่คุ้ม
(30 ml. ราคา 990 บาท)
- นวัตกรรมไวท์เทนนิ่งของทางนีเวีย ที่แก้ปัญหาจุดด่างดำและฝ้าแดดที่ต้นตอ
- ไฮยาลูรอนและวิตามินอี ช่วยฟื้นฟูบำรุงให้ผิวชุ่มชื้น เรียบเนียนเต่งตึง ดูผิวสุขภาพดี
ความรู้สึกหลังใช้: สำหรับตัวนี้เราก็ชอบเนื้อครีมเค้านะ มีความเข้มข้นก็จริงๆ แต่ซึมไวอยู่ แต่ติดตรงแพคเกจเค้าที่ให้กดเนื้อครีมแล้วให้ออกมา 2 ฝั่ง จะบอกว่าบางทีกดแล้วก็ออกมาช่องเดียว ไม่รู้จะทำยังไง? ฮ่าๆๆ
ผลลัพธ์: เรื่องผลลัพธ์ของรอยฝ้าเราว่ายังไม่เห็นผลเท่าไหร่หรืออาจจะต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนานกว่านี้รึเปล่าไม่แน่ใจ แต่ได้ความนุ่มชุ่มชื้นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดเลย
ความคุ้มค่า: ราคาเหมาะสมอยู่เพราะเค้าให้ปริมาณ 30 ml ถ้าใครที่เป็นฝ้าไม่เยอะมาก แล้วอยากเน้นเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยก็ถือว่าโอเคอยู่
(15 g. ราคา 499 บาท)
- Tetrapeptide-30 เป็ปไทด์นวัตกรรมการถอดรหัส DNA ของมนุษย์จากแล็บประเทศเยอรมนี ที่ช่วยลดการเกิดฝ้าใหม่ รวมทั้งลดเลือนฝ้าเก่าด้วย
- Sodium Ascorbyl Phosphate หรืออนุพันธ์ของวิตามิน C นำเข้าจากประเทศสวิตเซอร์แลนด์ ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำและความหมองคล้ำ รวมทั้งช่วยกระตุ้นการสร้างคอลลาเจนในผิว ลดริ้วรอย เพิ่มความกระชับให้กับผิว
- สารสกัดจากชเอมเทศที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ และ Tranexamic Acid ช่วยลดเลือนฝ้า กระ จุดด่างดำ และความหมองคล้ำ และช่วยลดอาการอักเสบของผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
- วิตามิน อี ช่วยบำรุงผิวให้ชุ่มชื้น
ความรู้สึกหลังใช้: ความรู้สึกแรกเลยคือไม่แสบผิว ไม่รู้สึกยุบยิบที่ผิวเลย ชอบเนื้อเซรั่มมากซึมไวสบายผิวยิ่งเราผิวค่อนข้างไปทางแห้งก็จะเลิฟหน่อย คือเค้าไม่เหนียวไม่หนึบผิวแต่คงไว้ซึ่งความชุ่มชื้น อีกอย่างที่ชอบมากคือ แอบรู้สึกว่าเกลี่ยรองพื้นง่ายขึ้นนิดนึงอ่า เหมือนผิวมันชุ่มชื้นขึ้นเลยลงรองพื้นง่าย
ผลลัพธ์: เราตัวนี้ช่วยลดฝ้าจุดด่างดำได้ดีเลย ฝ้าค่อยๆ จางลงอย่างต่อเนื่อง แล้วบริเวณตรงที่ทาก็ไม่มีรอยฝ้าใหม่เกิดซ้ำด้วย (เป็นตามคำเคลมที่เค้าบอกไว้เลย)
ความคุ้มค่า: เราว่า VERRASKIN หลอดนี้ตอนแรกอาจจะดูมีราคาหน่อย แต่พอได้ลองใช้แล้วคุ้มค่าแก่การลทุนเลยล่ะ ด้วยราคาไม่ถึง 500 บาท แต่สามารถใช้แล้วได้ผลลัพธ์แบบดีงามตามที่เล่าไป แถมยังไม่แพ้ อ่อนโยนต่อผิวมากๆ
(0.8 oz. ราคา 575 บาท)
- สารสกัดธรรมชาติจากสวิตเซอร์แลนด์ ที่ผ่านการทดสอบโดยแพทย์ผิวหนัง รพ.รัฐบาล แล้วว่า ช่วยให้ฝ้าจางลง
- Alpha-arbutin ช่วยรักษารอยฝ้าให้จางลงได้
เนื้อสัมผัส: เนื้อครีมเข้มข้น (เป็นครีมที่หนักพอสมควรถ้าเทียบกับตัวอื่น) ทาวนอยู่นานกว่าจะซึมเข้าผิว แต่พอซึมแล้วก็หนึบๆ หน่อย เราว่าคนหน้ามันไม่น่าจะรอด
ความรู้สึกหลังใช้: หลังจากใช้เราว่าเนื้อครีมเค้าค่อนข้างหนักต้องใช้น้อยๆ หรือทาเฉพาะจุดดีกว่า กลิ่นหอมเหมือนสมูทอีหลอดสีเขียวเลย(กลิ่นที่คุ้นเคย) ใช้แล้วแอบแต่งหน้าต่อยากนิดนึงนะ ต้องรอให้ซึมก่อนไม่อย่างนั้นเป็นคราบเลยจ้าและไม่แนะนำให้ทาแล้วแต่งหน้าจัดเต็มนะอาจจะเยิ้มระหว่างวันได้
ผลลัพธ์: เรื่องรักษาฝ้าเราว่าเห็นผลน้อยหรืออาจจะต้องใช้เวลามากกว่านี้ แต่ผิวเนียนขึ้นมีความกระจ่างใสขึ้นจ้า
ความคุ้มค่า: ถือว่าราคาเหมาะสมกับปริมาณ แต่ถ้าจะมองความคุ้มค่าที่แก้ปัญหาฝ้าก็ยังไม่คุ้มเท่าไหร่ เน้นผิวกระจ่างใสเรียบเนียนมากกว่า
SR - Sponsored Review : กระทู้รีวิวนี้เป็นกระทู้ SR โดยที่เจ้าของกระทู้