เพลงนี้ของวง Metallica ชุด Black Album ครับ
เชื่อว่าชาว Metal หลายคนคงเคยได้ยิน
มีความหมายดีมากนะครับ เกี่ยวกับมุมมองชีวิตด้านลบ
ขอไม่แปลคำต่อคำนะครับ แปลเอาความหมายรวม
..You just stood there screaming
Fearing no one was listening to you
นายเอาแต่พูดบ่นปัญหา คิดว่าไม่มีใครสนใจ
They say the empty can rattles the most
The sound of your voice must soothe you
นายกลัวความเงียบจะทำร้าย เสียงตัวเองจึงเป็นสิ่งเดียวที่พึ่งพาได้
Hearing only what you want to hear
And knowing only what you've heard
นายจึงก็ได้ยินเฉพาะสิ่งที่นายอยากฟัง และก็เข้าใจแค่นั้น
You you're smothered in tragedy
And you're up to save the world
นายจมอยู่กับปัญหา ที่ขยายใหญ่เกินจริง
*Misery you insist that the weight of the world
Should be on your shoulders
*น่าสงสาร นายคิดว่าโลกใบนี้นายเจอปัญหาอยู่คนเดียว
Misery there's much more to life than what you see
My friend of misery
น่าสงสาร ชีวิตนี้มีอะไรมากกว่าที่นายคิดอีกมากนะ นายช่างเป็นเพื่อนที่น่าสงสารจริงๆ
..ลองคิดๆดู ก็มีส่วนจริงนะครับ ตัวผมเองก็เคยเป็น
หลายครั้ง ที่เราคิดว่าเราเจอแต่ปัญหาอยู่คนเดียว ทำไมต้องเป็นเรา
ปัญหาเราใหญ่ที่สุด คนอื่นไม่เข้าใจหรอก
กระทั่งมีคนพยายามช่วย พยายามอธิบาย เราก็อาจไม่ฟังด้วยซ้ำ
..ทั้งที่จริงๆ ก็ไม่แน่ ถ้าเรามีมุมมองที่ถูกต้อง มีกำลังใจจะต่อสู้ และรับฟังความคิดเห็นบ้าง
ปัญหานั้นก็อาจไม่ได้ต่างไปจากคนอื่น หรือเกินกำลังเราจะแก้ไขเลย
ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกการแก้ปัญหาที่เราเผชิญนะครับ
https://neopositive.wordpress.com
ข้อคิดจากเพลง - My Friend of Misery - Metallica
เพลงนี้ของวง Metallica ชุด Black Album ครับ
เชื่อว่าชาว Metal หลายคนคงเคยได้ยิน
มีความหมายดีมากนะครับ เกี่ยวกับมุมมองชีวิตด้านลบ
ขอไม่แปลคำต่อคำนะครับ แปลเอาความหมายรวม
..You just stood there screaming
Fearing no one was listening to you
นายเอาแต่พูดบ่นปัญหา คิดว่าไม่มีใครสนใจ
They say the empty can rattles the most
The sound of your voice must soothe you
นายกลัวความเงียบจะทำร้าย เสียงตัวเองจึงเป็นสิ่งเดียวที่พึ่งพาได้
Hearing only what you want to hear
And knowing only what you've heard
นายจึงก็ได้ยินเฉพาะสิ่งที่นายอยากฟัง และก็เข้าใจแค่นั้น
You you're smothered in tragedy
And you're up to save the world
นายจมอยู่กับปัญหา ที่ขยายใหญ่เกินจริง
*Misery you insist that the weight of the world
Should be on your shoulders
*น่าสงสาร นายคิดว่าโลกใบนี้นายเจอปัญหาอยู่คนเดียว
Misery there's much more to life than what you see
My friend of misery
น่าสงสาร ชีวิตนี้มีอะไรมากกว่าที่นายคิดอีกมากนะ นายช่างเป็นเพื่อนที่น่าสงสารจริงๆ
..ลองคิดๆดู ก็มีส่วนจริงนะครับ ตัวผมเองก็เคยเป็น
หลายครั้ง ที่เราคิดว่าเราเจอแต่ปัญหาอยู่คนเดียว ทำไมต้องเป็นเรา
ปัญหาเราใหญ่ที่สุด คนอื่นไม่เข้าใจหรอก
กระทั่งมีคนพยายามช่วย พยายามอธิบาย เราก็อาจไม่ฟังด้วยซ้ำ
..ทั้งที่จริงๆ ก็ไม่แน่ ถ้าเรามีมุมมองที่ถูกต้อง มีกำลังใจจะต่อสู้ และรับฟังความคิดเห็นบ้าง
ปัญหานั้นก็อาจไม่ได้ต่างไปจากคนอื่น หรือเกินกำลังเราจะแก้ไขเลย
ขอเป็นกำลังใจให้กับทุกการแก้ปัญหาที่เราเผชิญนะครับ
https://neopositive.wordpress.com